สิ้นสุดลงแล้วสำหรับการเดินสายเยือนต่างประเทศครั้งแรกของปี 2025 ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำประเทศจีน ที่ได้เดินทางเยือน 3 ประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา เมื่อวันที่ 14-18 เมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีการประกาศนโยบายกำแพงภาษีครั้งใหญ่
ซึ่งการเดินทางเยือนประเทศอาเซียนในครั้งนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ไทยรัฐออนไลน์
เวียดนาม (14-15 เมษายน)
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม ในวันที่ 14 เม.ย. และได้พบปะหารือกับผู้นำระดับสูงของเวียดนาม คือนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ รวมถึงเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ โต ลัม กระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ
ในการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้มีการลงนามในข้อตกลง 45 ฉบับ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน, AI, การลาดตระเวนทางทะเลร่วมกัน, ความร่วมมือด้านรถไฟจีน-เวียดนาม, เศรษฐกิจพลังงานสะอาด
...
ในการพบกันกับโต ลัม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศ “ร่วมกันต่อต้านการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว" รักษาระบบการค้าเสรีและความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน
ทั้งนี้ จีนและเวียดนามมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาอย่างยาวนาน 75 ปี และจีนถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของเวียดนาม นับตั้งแต่ปี 2003 ขณะเดียวกันเวียดนามก็เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2024 มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ที่กว่า 2.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 8.68 ล้านล้านบาท)
มาเลเซีย (15-17 เมษายน)
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย ในวันที่ 15 เม.ย. และได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม, สุลต่าน อิบราฮิม สุลต่าน อิสกันดาร์ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของมาเลเซีย
ในการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) และเอกสารรวม 31 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมภาคความร่วมมือต่างๆ เช่น AI และเศรษฐกิจดิจิทัล, โครงสร้างพื้นฐาน, เกษตรกรรม, วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว, สร้างห้องปฏิบัติการร่วมด้านเทคโนโลยีใหม่, ยกระดับโครงการ Two Countries, Twin Parks ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมคู่ขนานในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังได้ตกลงขยายเวลา “ยกเว้นวีซ่า” ซึ่งได้เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2023 ออกไปอีก 5 ปีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจากเดิมมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2025 สำหรับชาวมาเลเซียที่จะเดินทางไปยังประเทศจีน และสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2026 สำหรับชาวจีนที่จะเดินทางไปมาเลเซีย
ทั้งนี้ จีนและมาเลเซียมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาอย่างยาวนาน 50 ปี และจีนถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของมาเลเซียติดต่อกันเป็นเวลา 16 ปี ขณะเดียวกันมาเลเซียก็เป็นคู่ค้าอันดับสองของจีนในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2024 มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอยู่ที่กว่า 2.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 7.07 ล้านล้านบาท) และมาเลเซียยังเป็นชาติแรกๆ ที่สนับสนุนโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative - BRI) ของจีน โดยทั้งสองประเทศลงนามในบันทึกความเข้าใจ BRI ในปี 2017
...
กัมพูชา (17-18 เมษายน)
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ในวันที่ 17 เม.ย. และได้พบปะหารือกับสมเด็จฮุน เซน ประธานสภาสูงกัมพูชา และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ในการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองประเทศลงนามในข้อตกลง 37 ฉบับในหลากหลายด้าน ครอบคลุมเรื่องการค้า ห่วงโซ่อุปทาน การศึกษา ทรัพยากรน้ำ เกษตรกรรม
ซึ่งจีนได้ลงนามข้อตกลงการเงิน 1,156 ล้านดอลลาร์ (ราว 39,000 ล้านบาท) ให้กับ “โครงการคลองฟูนันเตโช” ของกัมพูชา ความยาว 151.6 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือจากแม่น้ำโขงไปยังทะเลอ่าวไทย โดยบริษัทจีน China Communications Construction Company (CCCC) จะถือหุ้น 49% ในโครงการนี้
ทั้งนี้ จีนถือเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด โดยเมื่อปี 2024 อยู่ที่เกือบ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.33 แสนล้านบาท) และยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา มีมูลค่าหนี้สูงกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.33 แสนล้านบาท)
...
แม้ว่า “ประเทศไทย” จะไม่ได้เป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายในการเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในครั้งนี้ แต่เมื่อครั้งนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เดินทางเยือนประเทศจีนล่าสุด เมื่อ 5-8 ก.พ. 2568 ได้ร่วมลงนามในข้อตกลง 14 ฉบับ ครอบคลุมทั้งทางด้านการพัฒนาสังคมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เรื่องอวกาศในการสำรวจรอบดวงจันทร์ร่วมกัน การนำเข้าและส่งออกในช่องทางผ่านกรมศุลกากรของทั้งสองประเทศ
...
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สัมภาษณ์กับสื่อที่ทำเนียบขาว ในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนเวียดนาม ว่าตนไม่กล่าวโทษจีนและเวียดนาม โดยระบุว่า “นี่เป็นการประชุมที่น่ารัก เป็นการประชุมแบบที่ว่า พวกเขากำลังหาคำตอบ ว่าจะหาวิธีเล่นงานสหรัฐฯ ได้อย่างไร?”
ขอบคุณ : cgtn, channelnewsasia, cgtn, theguardian