สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เวลานี้ ถือว่าอยู่ในขั้นเลวร้ายสุดๆ มียอดติดเชื้อวันนี้มากกว่า 9 พันคน เสียชีวิตมากกว่า 70 คน และมีการคาดการณ์ว่า หากปล่อยไปเช่นนี้ จะมีผู้ติดเชื้อมากกว่าวันละ 1 หมื่นคน

ล่าสุด ทาง ศบค. ได้ประกาศใช้มาตรการ "ล็อกดาวน์" 6 จังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมีการควบคุมการเดินทาง 10 จังหวัด  ซึ่งแน่นอนย่อมมีธุรกิจได้รับผลกระทบตามมา 

ในปีที่ผ่านมา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI ได้เก็บข้อมูลผลกระทบทางเศรษฐกิจและธุรกิจ ในมุมอาชีพต่างๆ พบว่า ผลกระทบจากการใช้ล็อกดาวน์ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์อย่างรุนแรง คือ ธุรกิจโรงแรม สายการบิน สปา ร้านตัดผม ผับและบาร์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจตัวแทนจองตั๋ว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หมายความว่า จะมีแรงงานจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนในธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบ

ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรองลงมา ได้แก่ ร้านอาหาร ธุรกิจก่อสร้าง การขนส่งสาธารณะ สถานีบริการเชื้อเพลิง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในกลุ่มธุรกิจนี้ ธุรกิจที่มีการจ้างแรงงานที่สำคัญคือ ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีก ที่มีการจ้างแรงงานมากกว่า 1 ล้านคน

...

ขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบน้อย ได้แก่ สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตไฟฟ้า บริการด้านสุขภาพ การศึกษา และบริการด้านวิชาชีพ

ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการ Lockdown ได้แก่ การค้าออนไลน์ ธุรกิจการจัดส่งสินค้า ธุรกิจบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การศึกษา การเงิน เป็นต้น บริการโทรคมนาคม อุปกรณ์ทางการแพทย์ ธุรกิจการเกษตร และธุรกิจการประกัน

ที่มา โครงการประเมินผลกระทบของโควิด-19 ต่อสังคมและเศรษฐกิจ 
สนับสนุนโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)