ระวังแล้วระวังอีก แต่ก็ยังหลุดรอดเข้ามาจนได้ “ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย” เจอในแคมป์คนงานบริษัทอิตาเลียนไทย ย่านหลักสี่ ถึง 36 ราย และมีผู้ติดเชื้อใหม่จากการตรวจคัดกรอง 1,107 ราย เผยสายพันธุ์อินเดียความรุนแรงไม่ต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ ระบาดมากทั้งในอินเดียและหลายประเทศ ล่าสุดเจอในสนามบินชางงี สิงคโปร์ เตือนระวังตรวจไม่พบ แต่ยังอุ่นใจวัคซีนซิโนแวคอาจมีประสิทธิภาพคุมอยู่ ส่วนแคมป์คนงานต้นตอเจอสายพันธุ์อินเดียห้ามเข้าออกเด็ดขาด ทหารเข้าลำเลียงผู้ติดเชื้อส่ง รพ.และกักตัวคนงานอีก 560 คน ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่จัดสรรแอสตราฯเข็มแรก 50 ล้านโดสกระจายไปพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด และภูเก็ต ตามด้วยกระจายไปจังหวัดชายแดน 17 จังหวัดในเดือน ก.ค. สถานีกลางบางซื่อพร้อมแล้วสำหรับการฉีดวัคซีนบุคลากรในระบบขนส่งสาธารณะ
เริ่มจากบุคลากรสังกัดกระทรวงคมนาคม แถมจัดรถรับส่งเข้าสถานีไปฉีดวัคซีน “หมอยง” เผยโควิด-19 ทำอายุเฉลี่ยของคนลดน้อยลง ส่วนไทยหากติดเชื้อมากกว่านี้ระบบสาธารณสุขรองรับไม่ไหวแน่ อย่าปิดกั้นคนไทยเลือกวัคซีน ปากน้ำพบคลัสเตอร์ใหญ่มีติดเชื้อใหม่อีก 457 รายแม้พยายามสกัดกั้นทุกวิถีทาง แต่ในที่สุด “เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดีย” ก็เล็ดลอดเข้ามาแพร่ระบาดในเมืองไทยจนได้ ทั้งเป็นที่น่าตกใจว่า ได้พบเชื้อสายพันธุ์นี้ในแคมป์คนงานย่านหลักสี่รวดเดียวถึง 36 ราย
...
นายกฯหัวโต๊ะถก ศบค.ใหญ่
ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้าวันที่ 21 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศบค. ครั้งที่ 7/2564 มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. คณะแพทย์ทีมที่ปรึกษา ศบค.เข้าร่วม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เชื่อมไปรัฐมนตรีกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
เข้มคุมสูงสุดกันลอบเข้าไทย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม สั่งการในที่ประชุม ศบค.ให้เข้มงวดสูงสุดป้องกันการลักลอบเข้าประเทศไทย ขณะนี้ยังมีการลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายโดยช่องทางธรรมชาติ พร้อมกำชับความพร้อมสถานที่กักกันตัวในระดับท้องถิ่น โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ จ.ชายแดน เพื่อเตรียมรับการเดินทางกลับเข้าประเทศของคนไทยตามช่องทางทางบกมีตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่ม 14 แห่ง รองรับแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ข้ามแดนผิดกฎหมาย เพื่อยับยั้งไม่ให้แพร่ระบาดไปยังชุมชน
ใครทำผิดให้จับหมดไม่เว้น
น.ส.รัชดากล่าวอีกว่า นายกฯยังได้เน้นย้ำให้จับกุมนายหน้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ไม่ว่าทหาร ตำรวจ หรือพลเรือน เพราะเป็นการกระทำที่เลวร้าย เพิ่มความเสี่ยงแพร่ระบาดโควิด-19 ในไทย ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลกระทำผิดกฎหมายที่เป็นเหตุต่อการแพร่ระบาด ผ่านสำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 และศูนย์บริการประชาชน 1111 ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-20 พ.ค. พบแรงงานเข้าเมือง ผิดกฎหมาย 45 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 42 เรื่อง จับกุมดำเนินคดี 11 คดี มีผู้กระทำความผิด 66 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 เรื่อง
มอบวัคซีนคนสภา 2 พันโดส
ต่อมา เวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่มีข้อสรุปให้ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คราวที่ 12 เห็นชอบให้ขยายตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 31 ก.ค. รวมถึงอนุมัติการประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วันที่ 22 พ.ค. กรุงเทพมหานครได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมและได้รับความเห็นชอบในมาตรการป้องกันโรคในการจัดประชุมรัฐสภาตามที่เสนอให้มีการใส่หน้ากากอนามัยหน้ากากผ้าตลอดการประชุม ยกเว้นในกรณีที่ผู้ควบคุมการประชุมจะผ่อนผันให้ไม่ใช้ ขณะที่มีการอภิปรายเป็นการชั่วคราวในบางคราวได้ แต่ถึงอย่างไรขอให้ใช้ตลอดเวลา
ห่วงคนขับรถ ส.ส.สุ่มเสี่ยง
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นหน่วยงานกำกับติดตามในการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ที่มีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก เช่น ห้ามรวมกลุ่ม มีระยะห่างที่มีความกังวลกันคือผู้ติดตามที่จะมีจำนวนมาก ต้องมีคนรถ คนที่มารับ-ส่ง อาจจะไปรวมกลุ่มกัน รับประทานอาหารหรืออะไรก็แล้วแต่ เป็นข้อห่วงใย ดังนั้นจึงมีการจัดการวัคซีนให้ผู้ทำงานในรัฐสภามอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีน 2,000 โดส เพื่อให้มีการฉีดในช่วงก่อนที่จะมีการประชุมหรือระหว่างเริ่มเปิดประชุม เริ่มฉีดในวันที่ 21-25 พ.ค.
พื้นที่สีแดงเข้มห้ามเรียนออนไซต์
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.รับทราบตามที่ ศปก.ศบค.อนุมัติ เรื่องการเลื่อนการเปิดเทอมออกไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการและกรุงเทพมหานครเสนอเป็นกรณีไปในบางพื้นที่ แล้วจัดให้มีการเรียนการสอนผ่านสื่อออนไลน์ ส่วนมติ ศบค.วันเดียวกันนี้ให้พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ไม่อนุญาตให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไซต์ พื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัดให้ใช้อาคารได้ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้จัดการเรียนการสอนผ่านสื่อออนไลน์ ออนไซต์ ได้ ให้โรงเรียนประเมินความพร้อม
56 จว.จัดเรียนได้ตามมาตรการ
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่ควบคุม56 จังหวัดให้จัดการเรียนการสอนได้ให้รวมกลุ่มคนแต่ต้องกำหนดมาตรการหรือจัดให้มีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ก็ได้ รมว.ศึกษาธิการนำเสนอการวางแผนมาตรการแนวปฏิบัติของสถานศึกษาเพื่อเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 14มิ.ย.ย้ำให้สถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด ขณะเดียวกันโรงเรียนจะต้องมีการประเมินความพร้อม ไทยสตอปโควิดที่เป็นแบบประเมินตัวเองเพื่อให้โรงเรียนต่างๆมั่นใจต่อผู้ปกครองและนักเรียนว่าจะดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลและส่วนภาพรวมได้และหลังจากประเมินแล้วขอให้โรงเรียนขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเพื่อเปิดเรียนอย่างเต็มรูปแบบขึ้นมา
ติดเชื้อพุ่ง 3,481 สลดหญิงท้องดับ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 21 พ.ค.ว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,481 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,518 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,644 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 874 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 951 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 123,066 รายหายป่วยสะสม 79,504 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 2,868 ราย อยู่ระหว่างรักษา 42,827 ราย อาการหนัก1,248 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 408 ราย ผู้เสียชีวิตมี32ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 15 ราย อยู่ใน กทม. 15ราย นนทบุรี 6 ราย สมุทรสาคร 2 ราย นครปฐมพัทลุง สุรินทร์ นครราชสีมา ยะลา สมุทรปราการ ร้อยเอ็ด พังงา นครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว สาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่ติดจากคนในครอบครัว ในจำนวนนี้เป็นหญิงตั้งครรภ์ 1ราย ผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดคือ 21 ปี ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 735 ราย
กทม.ยังครองแชมป์ติดเชื้อสูง
โฆษก ศบค.ยังกล่าวอีกว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 21 พ.ค.ได้แก่ กทม. 1,036 ราย สมุทรปราการ 457 ราย นนทบุรี 163 รายปทุมธานี 162 ราย ชลบุรี 127 ราย เพชรบุรี 77 รายระนอง54 ราย ตาก 45 ราย สมุทรสาคร 40 รายสงขลา36ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม165,842,599 ราย เสียชีวิตสะสม 3,444,656 ราย
ผงะเชื้ออินเดียโผล่แคมป์หลักสี่
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีรายงานสถานการณ์การระบาดใน กทม. ระหว่างวันที่ 22 เม.ย.-20 พ.ค. ว่า การะบาดมีทั้งหมด 35 คลัสเตอร์ กระจายตัวอยู่ใน 23 เขต ที่ระบาดหนักอยู่ใจกลาง กทม. ได้แก่ คลองเตย ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก ป้อมปราบศัตรูพ่าย หลักสี่ ดินแดง นายกฯได้รับทราบว่ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่แคมป์คนงานก่อสร้างหลักสี่ มี 15 ราย ที่ตรวจพบว่าเป็นการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย ขณะนี้โรงพยาบาลดูแลอย่างดี มีการส่งทีมสอบสวนโรคเข้าไปดูแล ควบคุมป้องกันการติดเชื้อ หลังมีหลายประเทศพบสายพันธุ์อินเดียระบาด
เน้นตรวจแคมป์จัดระเบียบตลาดนัด
ขณะเดียวกัน นายกฯยังได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และมอบหมายให้ศูนย์บูรณาการแก้ไขโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข คณะที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขให้ร่วมมือทำงานกับทุกภาคส่วน โดยมีจุดมุ่งเน้นดังต่อไปนี้ คือ เน้นตรวจสอบสภาวะอนามัยในแคมป์คนงานที่ยังไม่มีการติดเชื้อ จัดระเบียบตลาดนัด ร้านค้า ชุมชน ดูแลสุขภาวะอนามัยในร้านอาหาร ผู้ขับรถขนส่งอาหาร จัดระเบียบการเดินทางขนส่งสาธารณะทุกประเภท เน้นย้ำมาตรการเวิร์ก ฟรอม โฮมของทุกหน่วยงานว่ามีปฏิบัติกันอย่างจริงจังหรือไม่
บูรณาการยุทธศาสตร์ดูแลผู้ป่วย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ศบค. นายกฯระบุว่าทุกวันนี้เราไล่ตามผู้ติดเชื้อแล้วมารายงานตัวเลขเน้นย้ำว่าต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างจริงจัง ยกตัวอย่างมาตรการของจีนที่ประสบความสำเร็จในการเผชิญหน้ากับโควิด-19 ที่อู่ฮั่น จำนวน 4 ข้อ ได้แก่ 1.พื้นที่ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาด ต้องใช้การป้องกันและดูแลเป็นพิเศษ ไม่ให้มีการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่ 2.พื้นที่ที่เริ่มมีผู้ป่วยให้ใช้มาตรการค้นหาควบคุมการระบาดในพื้นที่ 3.พื้นที่ที่มีการระบาดเป็นกลุ่ม ต้องคุมการแพร่โรค ป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อไปพื้นที่อื่น ให้การรักษาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด 4.พื้นที่ที่มีการระบาดมาก ต้องดูแลผู้ป่วยเป็นหลัก ควบคุมการแพร่เชื้อ ควบคุมการเดินทาง
แม้ตายคนเดียวก็ไม่อยากให้เกิด
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวด้วยว่า เรารับรู้มาตรการเหล่านี้เป็นอย่างดีและนำข้อมูลมาบูรณาการในการแก้ไขปัญหา นายกฯยังห่วงที่สุดเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่สูงขึ้น โดยระบุว่าการเสียชีวิตแม้แต่รายเดียวก็เป็นความสูญเสียที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น จึงขอให้ฝ่ายการแพทย์ร่วมมือกันวางยุทธศาสตร์และดูแลผู้ป่วยอย่างดี บูรณาการทรัพยากรต่างๆ ยาเวชภัณฑ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ และขอให้ติดตามความก้าวหน้าการวิจัยยา ภูมิปัญญาไทยที่นอกเหนือไปจากวัคซีน
ดีเดย์ 7 มิ.ย. วัคซีนวาระแห่งชาติ
โฆษก ศบค.กล่าวต่ออีกว่า นายกฯได้สรุปถึงแผนวัคซีนว่า การที่ประเทศไทยประกาศแผนการกระจายวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ จะดีเดย์วันที่ 7 มิ.ย. ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1.ระบบหมอพร้อมที่ดำเนินการอยู่ 2.การลงทะเบียน ณ จุดฉีด ที่จะเข้ามาเสริม จุดไหนมีวัคซีนเพียงพอจะได้ฉีด หากไม่เพียงพอให้รอคิว 3.การกระจายวัคซีนให้กลุ่มเฉพาะที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหากประชาชนกลุ่มไหนคิดว่ามีความจำเป็นสามารถเสนอเหตุผลความจำเป็นไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอรับการจัดสรรและสถานที่ฉีดได้
นายกฯยันได้ฉีดทุกกลุ่ม
การเดินหน้าฉีดวัคซีนขณะนี้เราอยู่ในระยะที่ 1 ที่มีการทดสอบระบบต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมถึงวันที่ 6 มิ.ย. ระยะที่ 2 คือ วันที่ 7มิ.ย.จะเริ่มการฉีดวัคซีนทั้งระบบให้กับกลุ่มต่างๆ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ผู้มีอายุ 60ปีขึ้นไปมีโรคประจำตัว นักกีฬาและนักเรียนที่ต้องไปต่างประเทศ ผู้ประกันตน รวมถึงผู้ที่มีอาชีพซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชน เช่น สาธารณูปโภค อาหาร ตลอดจนบุคคลทั่วไป กลุ่มนี้ไม่สามารถหยิบยกขึ้นมาพูดได้หมด แต่นายกฯยืนยันจะไม่มีการทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกกลุ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.จะได้รับวัคซีนแน่นอน หลังจากนี้จะปรับรูปแบบการสื่อสารกับประชาชนจากเดิมอธิบายเรื่องโรค ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจกันแล้ว จากนี้จะนำเสนอชุดข้อมูลการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น
สถานีกลางบางซื่อฉีดวัคซีน 24พ.ค.
ที่สถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข นายศักดิ์–สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารทั้งสองกระทรวงลงพื้นที่ติดตามความพร้อมการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ มี นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พญ.มิ่งขวัญวิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง เป็นหน่วยงานทางการแพทย์ที่รับผิดชอบการฉีดวัคซีน ร่วมกับแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร สังกัดการรถไฟแห่งประเทศไทย พญ.มิ่งขวัญนำผู้บริหารชมจุดฉีดวัคซีน นายอนุทินกล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อมีความเหมาะสมมีพื้นที่กว้างขวาง และนำมาใช้ประโยชน์สูงสุดสำหรับประชาชน จะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรสังกัดกระทรวงคมนาคมก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. เวลา 09.00-20.00 น. จากนั้นเดือน มิ.ย.จะเปิดให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ในกระทรวง องค์กรอื่นๆที่ได้ทำเรื่องเสนอกระทรวงสาธารณสุขและศบค.ให้ความเห็นชอบ
พร้อมบริการ 100 เปอร์เซ็นต์
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อพร้อมแล้ว 100% ที่จะให้บริการฉีดวัคซีน กระทรวงคมนาคมได้สำรวจรายชื่อบุคลากรที่ให้บริการขนส่งสาธารณะทั้งระบบ พบว่าขณะนี้มีรวมทั่วประเทศกว่า 352,784 คน แบ่งเป็นขนส่งในกรุงเทพฯและปริมณฑล 59,726 คน ที่เหลืออยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้นกลุ่มแรกที่กระทรวงส่งรายชื่อให้รับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อจะเป็นกลุ่มขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 59,726 คน โดยจะเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. จนกว่าจะครบทุกคน คาดว่าจะใช้เวลาในทุกขั้นตอนจนฉีดวัคซีนเสร็จต่อคนเฉลี่ยที่ 45 นาที/คน ให้บริการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 900 คน/ชั่วโมงเบื้องต้นจะฉีดให้ได้อย่างน้อย 5,000 คน จนถึง 10,000คน/วัน
สำรวจไรเดอร์ส่งอาหาร–ของ
รมว.คมนาคมกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงคมนาคมจะบริการพื้นที่นี้ให้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯแบบ on Site เพื่อรองรับประชาชนทั่วไปตามนโยบายของ ศบค. เรื่องนี้ต้องพิจารณาหลังจากที่มีการฉีดยาให้กับกลุ่มเสี่ยงด่านหน้าในระบบขนส่งสาธารณะทั้งระบบหมดก่อน จึงจะเปิดให้ประชาชนทั่วไป นอกจากนั้นให้กรมการขนส่งทางบกไปสำรวจ และรวบรวมจำนวนผู้ขับขี่ขนส่งบริการแบบดีลิเวอรีหรือการให้บริการจัดส่งอาหารและสิ่งของด้วยว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และให้จัดมาฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ
จัดแอสตราฯเข็มแรก 50 ล้านโดส
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า นอกจากมติที่ประชุมที่ได้แถลงไปแล้ว ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนจัดสรรวัคซีนแอสตราเซเนกา 36 ล้านโดส เข็มที่ 1 เดือน มิ.ย.-ก.ย. เข็มที่ 2 เดือน ต.ค.-ธ.ค. เพื่อให้คนไทยและคนต่างชาติจำนวน 50 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ 70 ในเดือน ก.ย. สำหรับแผนการกระจายวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนเข็มแรก จะถูกกระจายไปยังพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดก่อน รวม 4 จังหวัด มีกรุงเทพ มหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ขณะที่จังหวัดที่มีแผนเปิดการท่องเที่ยวได้แก่ ภูเก็ต จะได้รับการกระจายวัคซีนภายในเดือน มิ.ย.เช่นกัน
17 จังหวัดชายแดนได้เดือน ก.ค.
ส่วนจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านและมีความเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาด จะได้รับภายในเดือน ก.ค. รวม 17 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย สงขลา สระแก้ว ตาก มุกดาหาร นราธิวาส ระนอง หนองคาย เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พังงา กระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร จากนั้นจะจัดลำดับไปอีก 56 จังหวัดที่เหลือของไทยเพื่อกระจายวัคซีนอย่างครอบคลุม
หากพบติดเชื้อต้องให้หยุดทำงาน
ช่วงบ่ายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียในแคมป์คนงานก่อสร้างอิตาเลียนไทยหลักสี่ว่า แคมป์คนงานแต่ละที่ เจ้าของบริษัทต้องดูแลคัดกรองเข้มงวด หากพบการติดเชื้อต้องให้หยุดทำงาน นำเข้ารักษาควบคุมโรคโดยการบับเบิลแอนด์ซีลและตรวจเชื้อทุกราย รวมถึงหยุดการเคลื่อนย้าย นายกรัฐมนตรีก็เน้นย้ำให้กรุงเทพมหานครและทุกจังหวัดตรวจคัดกรองแคมป์คนงานทุกที่อย่างเข้มงวด วัคซีนทั้งซิโนแวคและแอสตราเซเนกาจะครอบคลุมสายพันธุ์อินเดียหรือไม่ เท่าที่สอบถามจากทีมแพทย์ ยังให้ความมั่นใจว่าผู้รับวัคซีนในไทยทุกคนสามารถป้องกันความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิตได้ ส่วนจะครอบคลุมสายพันธุ์อินเดียหรือไม่เป็นข้อมูลทางการแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องให้ผู้รับผิดชอบศึกษาและชี้แจง
นำเชื้อ 61 ตัวอย่างไปตรวจ
เวลา 15.00 น. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงที่กระทรวงสาธารณสุข ถึงการพบเชื้อสายพันธุ์อินเดียในแคมป์คนงานก่อสร้างย่านหลักสี่ว่า จากการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยต่างๆ พบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่แคมป์คนงานหลักสี่ โดยนำตัวอย่าง 61 ตัวอย่าง ไปตรวจหาสายพันธุ์พบเป็นสายพันธุ์อินเดีย 15 ตัวอย่าง เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน อายุเฉลี่ย 46 ปี คนส่วนใหญ่อาการน้อยและรักษาอยู่ใน รพ.ทั้งหมดแล้ว ในจำนวน 15 คน เป็นคนงานแคมป์ 12 คน ส่วนอีก 3 คน เป็นผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านในแคมป์ ทั้งหมดไม่ได้เป็นแรงงานผิดกฎหมาย ขณะนี้มีการสอบสวนโรคและเร่งรัดติดตามผู้สัมผัสเพื่อตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป
สายพันธุ์อินเดียระบาดหลาย ปท.
นพ.โอภาสกล่าวด้วยว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ตลอดเวลา สายพันธุ์ที่ทั่วโลกจับตามีทั้งสายพันธุ์อังกฤษ อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ กระทรวง มีการถอดรหัสพันธุกรรม ใช้หลักระบาดวิทยาอ้างอิง พบสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยขณะนี้จำนวนมากคือสายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งแพร่กระจายได้มากกว่าสายพันธุ์เดิม ส่วนสายพันธุ์อินเดียขณะนี้ระบาดมากในอินเดียและพบระบาดในหลายประเทศ ทั้งที่อังกฤษ มาเลเซีย ล่าสุดระบาดที่สนามบินชางงี สิงคโปร์ ส่วนเมียนมาและกัมพูชายังมีข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมค่อนข้างจำกัด แต่เชื่อว่าอาจมีอยู่เช่นกัน
รุนแรงไม่ต่างสายพันธุ์อังกฤษ
นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ไทยมีโอกาสพบสายพันธุ์อินเดียหลุดรอดมาทางช่องทางใดช่องทางหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมจากห้องปฏิบัติการและทางระบาดวิทยา หาหลักฐานพิสูจน์ต้นตออีกครั้ง ได้จับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ที่พบครั้งแรก 2-3 สัปดาห์ พบจากผู้ที่เดินทางมาจากปากีสถานและอยู่ในสถานกักกันของรัฐ เป็นสายพันธุ์อินเดียที่ระบาดในอังกฤษเช่นกัน ข้อมูลการศึกษาของหน่วยงานควบคุมโรคในอังกฤษ พบการแพร่กระจายเชื้อและความรุนแรงของโรคไม่ต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ รวมถึงไม่ดื้อต่อวัคซีนหลักที่เราใช้คือแอสตราเซเนกา ยังป้องกันสายพันธุ์อินเดียและอังกฤษได้
เร่งค้นหาแคมป์คนงานทั่วกรุง
นพ.โอภาสกล่าวด้วยว่า ขณะนี้แคมป์คนงานโดยรอบในย่านหลักสี่ มีการควบคุมเข้มงวด ไม่ให้เคลื่อนย้ายและติดตามผู้เกี่ยวข้องมาคัดกรอง ส่วนใหญ่อยู่ในแคมป์ไม่ได้ไปไหน มีการซีลโดยรอบแล้ว กทม.กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมสนับสนุนควบคุมโรคและติดตามผู้สัมผัส ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก สนับสนุนการรักษาพยาบาลในจุดต่างๆ อีกทั้ง กทม.จะค้นหาเชิงรุกในแคมป์คนงานทั่วกรุงเทพฯ ได้สั่งการไปยังสาธารณสุขจังหวัดประสานกับคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดเร่งสำรวจคัดกรองทั้งโรงงาน ตลาด จุดเสี่ยงที่จะเกิดการระบาด
ซิโนแวคน่ามีประสิทธิภาพคุมได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงประสิทธิภาพวัคซีนชิโนแวคครอบคลุมสายพันธุ์อินเดียหรือไม่ นพ.โอกาสกล่าวว่า จากข้อมูลของซิโนแวคและจากที่รวบรวมเทียบเคียงจากหลายประเทศ พบน่าจะยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์อินเดีย แต่คงต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนข้อเสนอของนักวิชาการบางท่านที่เสนอถึงการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ คงต้องไปถามผู้ที่เสนอ
พบสายพันธุ์อินเดียเพิ่ม 21 ราย
ต่อมาเวลา 17.00 น. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ได้ตรวจรหัสพันธุกรรมเชื้อไวรัสโควิดจากตัวอย่างที่ส่งมาจากแคมป์คนงานก่อสร้างย่านหลักสี่และชุมชนบริเวณใกล้เคียง รวม 80 ตัวอย่าง พบเป็นสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617.2) รวม 36 ราย เป็นคนไทย 21 ราย เมียนมา 10 ราย กัมพูชา 5 ราย ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) และยังมีตัวอย่างจากการค้นหาเชิงรุกจากพื้นที่อื่นใน กทม.อีก 2 แห่ง พบเป็นสายพันธุ์อังกฤษทั้งหมด ขณะนี้ในไทยเชื้อที่พบจะเป็นสายพันธุ์อังกฤษ 87% เพิ่งตรวจพบสายพันธุ์อินเดียและจะได้ขยายการนำตัวอย่างจากคลัสเตอร์อื่นๆมาตรวจรหัสพันธุกรรมเพื่อดูการกระจายตัวต่อไป จากข้อมูลของ Public Health England พบว่าสายพันธุ์อินเดียแพร่กระจายได้ค่อนข้างรวดเร็ว คล้ายกับสายพันธุ์อังกฤษ แต่ยังไม่พบหลักฐานที่มีผลต่อความรุนแรงหรืออัตราการเสียชีวิตและยังตอบสนองต่อวัคซีนได้อยู่ จึงไม่ควรวิตกกังวลมากเกินไป
ติดป้ายห้ามเข้า–ออกแคมป์
สำหรับบรรยากาศที่แคมป์คนงานบริษัทอิตาเลียนไทย ย่านหลักสี่ กทม. หลังตรวจพบคนงานก่อสร้างติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหลักสี่มาติดป้ายประกาศห้ามเข้า-ออกในพื้นที่แคมป์โดยเด็ดขาด พร้อมตั้งเต็นท์อำนวยการเฉพาะกิจในการปฏิบัติหน้าที่ ที่หน้าแคมป์ มีเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE รัดกุมป้องกันการติดเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อและคนงานกลุ่มเสี่ยงกว่า 250 คน นำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาและกักตัวตามขั้นตอน
สั่งกักตัวอีก 560 คนงาน
ต่อมานายไพฑูรย์ งามมุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตหลักสี่ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข ลงพื้นที่แคมป์คนงานดังกล่าว สั่งกักตัวแรงงานอีก 560 คนและจะตรวจซ้ำรอบที่สองในวันที่ 23 พ.ค. และเตรียมใช้แผนคลองเตยโมเดล คือ นำบัตรคิวฉีดวัคซีนไปแจกกับมือชาวบ้าน ในชุมชนรอบแคมป์รวม 7 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนอยู่แล้วรวย ชุมชนแฟลตตำรวจอิสระ ชุมชนแฟลตตำรวจส่วนกลางทุ่งสองห้อง ชุมชนกองบัญชาการศึกษา ชุมชนมิตรประชาพัฒนา ชุมชนเปรมสุขสันต์ และชุมชนคนรักถิ่น ที่มีประมาณ 6,000 คน เพื่อให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ไม่แจกให้กับ ผู้นำชุมชนป้องกันการตกหล่นและเก็บบัตรคิวไว้ให้คนนอกพื้นที่ ขณะเดียวกันมีทหารนำรถบรรทุก 6 ล้อรวม 4 คัน รถกระบะของกองพันทหารสารวัตรที่ 11 กว่า 10 คัน มารับผู้ติดเชื้อออกไปรักษา
เตือนระวังตรวจจับไม่พบ
ขณะที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตั้งแต่กลางปีนี้ ถ้ามีสายพันธุ์อินเดียและแพร่คนไทยสู่คนไทย ต้องระวังการตรวจจับอาจไม่แม่นยำเพราะ 1-เชื้อชอบลงลึกในปอด แยงจมูกไม่เจอ 2- กระบวน-การตรวจพีซีอาร์ อาจจับได้ไม่หมด เพราะรหัสพันธุกรรมเพี้ยน ดังนั้น ถ้าแพร่ไป อาจมีปัญหากับวัคซีน ขณะนี้ทั้งหมดการคัดกรองที่เร็วที่สุด คือการตรวจเลือดว่าติดเชื้อหรือไม่ เช่นตรวจด้วย อีไลซา รพ.มากมายมีและทำง่ายกว่าการแยงจมูก พีซีอาร์ ถ้าตรวจเลือดเป็นบวกโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แยกตัวทันทีจากคนอื่นและกักตัว 14 วัน ทั้งนี้ ที่จะแยงจมูกต่อหรือไม่ก็ตามแต่ นั่นคือคัดกรองเร็วที่สุดแล้วแยกตัวเร็วที่สุด
ฉีดวัคซีน นร.–นศ.ไทยก่อนบิน
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่ากรณีนักเรียนและนักศึกษาไทยที่ยังไม่สามารถกลับไปศึกษาต่อในต่างประเทศได้ เนื่องจากโควิด-19 ยังระบาด กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดรับลงทะเบียนการขอรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับนักเรียน นักศึกษาไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีกำหนดเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ลงทะเบียนกรอกข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ https://bit.ly/2RAk6FZ ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.เวลา 13.00 น. ถึงวันที่ 30 พ.ค. ไปฉีดวัคซีนได้ที่จุฬาฯ วันที่ 3-4 มิ.ย. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่อีเมล tudent02vaccine@ gmail.com
สปสช.ย้ำรักษาโควิดฟรี
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในรายการเอ็นบีทีรวมใจ สู้ภัยโควิด-19 ถึงกรณีคนไข้โควิดเสียชีวิต แต่นำศพออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ เพราะชำระเงินไม่ครบว่า เป็นความเข้าใจผิดของ รพ.เอกชนนั้น เนื่องจากผู้เสียชีวิตไปตรวจโควิด-19 จากโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งก่อน แล้วมารักษาตัวกับโรงพยาบาลแห่งนั้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าไม่สามารถเบิกค่ารักษาจาก สปสช.ได้ จึงเรียกเก็บจากผู้ป่วย หลังจากชี้แจงทำความเข้าใจกัน สุดท้ายโรงพยาบาลคืนให้ญาติผู้เสียชีวิตครบ 5 แสนบาท สำหรับกลุ่มเสี่ยงการเข้ารับการตรวจโควิด-19 จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่โรงพยาบาลนั้นๆ เบิกจ่ายที่ สปสช.โดยหลักเกณฑ์ว่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ต้องเข้ารับการตรวจหรือไม่อย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจแพทย์ ที่ผ่านมากรณีดังกล่าวการร้องเรียนต่อ สปสช.เป็นร้อยราย จากจำนวนร้องเรียนทั้งหมดกว่า 2 พันราย เมื่อไม่ต้องจ่าย โรงพยาบาลที่เรียกเก็บต้องจ่ายคืนแก่ประชาชน
เปิดลงทะเบียนกลุ่มคนทั่วไป
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเปิดเพิ่มการลงทะเบียนฉีดวัคซีนมากขึ้น โดยฉีดให้กับกลุ่มประชาชนทั่วไป คือคนไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปนอกเหนือจากกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ที่ได้เปิดลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมก่อนหน้านี้ ให้เริ่มลงทะเบียนจองวันที่ 31 พ.ค. เริ่มฉีดวันที่ 1 ส.ค.เป็นต้นไป ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ที่จะสิ้นสุดลงทะเบียนวันที่ 31 พ.ค.ลงต่อได้ แต่จะได้ฉีดตามคิวที่ลงทะเบียนเช่นเดียวกับกลุ่มคนทั่วไป การลงทะเบียนเหมือนกันทุกจังหวัด ยกเว้น กทม.ที่จัดการลงทะเบียนเองผ่านเว็บเบสต์ ร้านสะดวกซื้อ ข้อมูลทุกระบบจะเชื่อมกับแอปพลิเคชันและไลน์หมอพร้อม ไม่ต้องกังวล ที่ผ่านมามีปัญหาการประสานงาน โดยเฉพาะ รพ.เอกชน บางแห่งอาจยังสับสนการเปิดจอง ขณะนี้ได้แก้ไขปัญหาไปทีละขั้นตอน มั่นใจการเปิดลงทะเบียน 31 พ.ค. จะไม่เกิดปัญหา รองรับได้ 20,000 คนต่อวินาที
ทัณฑสถานหญิงมีติดเชื้อใหม่
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ว่า วันที่ 21 พ.ค. มีผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ 842 คน รักษาหาย 319 คน รวมผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการรักษา 14,049 คน และพบการติดเชื้อรายใหม่ในทัณฑสถานหญิงธนบุรี ทำให้มีเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ รวม 12 แห่ง ดังนี้ 1.เรือนจำกลางเชียงใหม่ 2.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 3.ทัณฑสถานหญิง กลาง 4.เรือนจำกลางคลองเปรม 5.เรือนจำพิเศษธนบุรี 6.เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา 7.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ กลาง 8.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี 9.เรือนจำกลางบางขวาง 10.เรือนจำพิเศษมีนบุรี 11.เรือนจำกลางสมุทรปราการ 12.ทัณฑสถานหญิงธนบุรี ขณะที่มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เสียชีวิตที่แฟลต เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ชื่อนายพยงค์แซ่ลิ้ม อายุ 57 ปี สอบสวนเบื้องต้นพบมีโรคประจำตัวแต่กำลังสอบหาสาเหตุการตายว่าเกิดจากเรื่องใด
โควิดทำอายุเฉลี่ยคนลดลง
วันเดียวกันมีการเสวนาเรื่องโควิด-19 กับความ กลัว กลัวโควิด กลัววัคซีน กลัวอด จัดโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในงาน นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้า ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สิ่งที่จะหยุดการระบาดได้คือ การฉีดวัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 หรือ 50 ล้านคน โดยฉีด 100 ล้านโดส ให้เสร็จภายในปีนี้ สำหรับความรุนแรงของโรค ได้เห็นคนไข้จำนวนมาก พอสมควร จะทำให้ปอดบวม ไม่สามารถแลกออกซิเจนได้ เราเห็นความทรมานของคนไข้แล้วบอกได้เลยว่า ฉีดวัคซีนดีกว่าแม้วัคซีนฉีดแล้วมีไข้ แต่หากได้เห็นคนไข้ต้องนอนคว่ำ โดยเฉพาะคนอ้วนจะทรมานมาก หากต้องใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิตเป็นเรื่องน่ากลัวมาก สำหรับอัตราการตายของโควิด-19 พบว่าคนไข้ 100 คน เสียชีวิต 2-3 คน ถือว่าสูงมาก ผู้สูงอายุ มีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าคนอายุน้อย ยิ่งอายุมากยิ่งเสียชีวิตมาก ส่วนคนอายุน้อยเสียชีวิตน้อยมาก และหากปล่อยให้โรคนี้ระบาดต่อเนื่อง เชื่อว่าจะทำให้ อายุเฉลี่ยของคนทั่วโลกลดลง
ติดเชื้อมากกว่านี้จะรับไม่ไหว
นพ.ยงกล่าวด้วยว่า จากการระบาดของโควิด-19 ในไทย เราพบการระบาดที่ตลาดกลางกุ้ง คิดว่าใหญ่โตแล้ว แต่เทียบกับระลอกสามในขณะนี้ คิดว่าที่ตลาดกุ้งจิ๊บจ๊อยมาก เพราะปีนี้มีการระบาดมากกว่าปี 63 ถึง 10 เท่าปีก่อน ใช้เวลา 2 เดือนถึงมีผู้ติดเชื้อ 3,000 คน แต่ปีนี้วันเดียวพบคนติดเชื้อ ถึง 3,000 คน อัตราตายโดยเฉลี่ยร้อยละ 1 ดังนั้นคนเสียชีวิตวันละ 20-30 คน ถือว่าเป็นไปได้ แต่เรา ไม่อยากให้มีตัวเลขมากกว่านี้ เพราะถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อ มากกว่านี้ระบบสาธารณสุขของเราจะรองรับไม่ไหว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้น
ปิดกั้นคนไทยเลือกวัคซีนไม่ได้
นพ.ยง ยังกล่าวถึงสายพันธุ์ของโควิดที่ระบาดในไทย ว่า การระบาดในกรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ร้อยละ 96-97 ล่าสุดที่สร้างความแตกตื่น คือ การพบสายพันธุ์อินเดียในแคมป์คนงานหลักสี่ สายพันธุ์อินเดียระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อังกฤษ ต้องควบคุมให้เร็ว ส่วนความ รุนแรงและจะมีผลต่อวัคซีนมากน้อยเพียงใด อยู่ระหว่าง ศึกษาและวินิจฉัยให้เร็ว เรื่องวัคซีนของคนไทยต้องยอมรับว่า เมื่อไม่มีวัคซีนก็ร้องหาวัคซีน พอมีวัคซีน ก็จะเลือก เช่น ฉีดซิโนแวคเข็มแรก เข็มสองจะขอฉีดแอสตราเซเนกา เมื่อมีวัคซีนทางเลือกเข้ามาก็จะ ขอฉีดวัคซีนทางเลือก ทั้งโมเดอร์นา ไฟเซอร์ เป็นต้น คงไม่สามารถปิดกั้นความต้องการของคนไทยได้ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องเร่งศึกษาวิจัยเพื่อให้ ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ควรจะฉีดในช่วงระยะเวลาใดจะเหมาะสม เช่น หลังฉีดเข็มที่สองแล้ว 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ขณะนี้ตนกำลังเร่งศึกษาวิจัยอยู่
ใช้แอสตราฯ กันสายพันธุ์อินเดีย
เมื่อถามถึงความรุนแรงของสายพันธุ์อินเดียและวัคซีนที่ไทยใช้อยู่ทั้ง 2 ตัว ได้แก่ ซิโนแวคกับแอสตรา-เซเนกา จะป้องกันได้หรือไม่ นพ.ยง กล่าวว่า สายพันธุ์อินเดียระบาดที่อังกฤษก่อนไทย ขณะนี้อังกฤษก็กลัวมากว่าสายพันธุ์อินเดียจะแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่เมื่อศึกษาในรายละเอียดพบว่าสายพันธุ์อินเดียไม่ได้รุนแรงไปกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่ระบาดได้เร็วกว่า ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีนนายบอรีส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงข่าว ยืนยันว่า วัคซีนที่อังกฤษใช้คือแอสตราเซเนกาสามารถป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้
หารือบอร์ด สปสช.เยียวยา
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทยจะใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนหลัก หลายคนยังกังวลเรื่องการเกิดภาวะลิ่มเลือด ภาวะนี้เกิดขึ้นในยุโรป แต่สำหรับคนในเอเชียและคนไทย เกิดขึ้นได้น้อย แต่เราก็ระวังและป้องกันไว้ กรมการแพทย์ได้หารือกับโรงเรียนแพทย์ สมาคมโลหิตวิทยา และ สปสช. สปสช.อนุมัติการเบิกจ่ายกรณีผู้รับวัคซีนแล้วเกิดภาวะอุดตันของหลอดเลือดดำ ในสมองหรือช่องท้องร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ทั้งการตรวจวินิจฉัยและการรักษา ให้สามารถเบิกจ่ายจาก สปสช.ได้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาของบอร์ด สปสช. หากได้รับอนุมัติ เชื่อว่าจะช่วยให้คนไทยคลายความวิตกกังวลในการรับวัคซีนแอสตราเซเนกา
ผบ.ตร.ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส
ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมคณะไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วย จากนั้นเผยว่าไม่มีอาการอะไร ปกติดีทุกอย่าง ขอฝากถึงข้าราชการตำรวจเรื่องการฉีดวัคซีน ยืนยันว่าไม่มีผลเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ทำความเข้าใจกันไปหลายครั้งแล้ว เรื่องภูมิคุ้มกันหมู่จะไม่มีทางเกิดขึ้นถ้าคนส่วนใหญ่ยังไม่ฉีด พวกเราตำรวจไม่ได้ฉีดวัคซีนเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อครอบครัวและพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยเร็ว เราต้องฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
พระราชทานเครื่องมือ
วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จัดหาเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่พระราชทานแก่โรงพยาบาลบางนากรุงเทพ-มหานครและพระราชทานเครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราไหลสูง Hi Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือและโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงพยาบาลละ 10 เครื่อง เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคโควิด-19
วุ่น ผกก.ติดเชื้อทั้งที่ฉีดวัคซีนแล้ว
ส่วนที่ สภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทีมแพทย์ รพ.ปักธงชัย เข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดจากตำรวจใน สภ.ปักธงชัยกว่า 140 นายและชาวบ้านอีก 200 กว่าคน หลังจาก พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผกก.สภ.ปักธงชัย ได้ไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยงและไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่กลับพบติดเชื้อทั้งที่ได้ไปฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปักธงชัย พ.ต.อ.ชนัตถ์เผยทางโทรศัพท์ว่า อาการเป็นปกติทุกอย่างแข็งแรงดี ไม่รุนแรง เพราะฉีดวัคซีนแล้ว แค่มีไข้เล็กน้อยตอนเช้าวันที่ 20 พ.ค. แต่ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกหรือเหนื่อยหอบ เมื่อเห็นมีไข้จึงไปตรวจร่างกายกลับพบเชื้อและได้เผยถึงไทม์ไลน์ว่าไปไหนมาบ้าง พร้อมยืนยันว่าได้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงการเว้นระยะห่าง ล้างมือ ทำให้สงสัยว่าติดเชื้อมาจากที่ใดและขอแจ้งให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับตนไปตรวจหาเชื้อโควิดด้วย ขณะที่จังหวัดนครราชสีมา พบติดเชื้อใหม่อีก 21 ราย และยังคงมีการระบาดจากคลัสเตอร์โรงงานกุนเชียง
รง.แคลคอมพ์เจอกว่า 1,600 คน
ทางด้านสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่โรงงานแคลคอมพ์ อ.เขาย้อย เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผลการตรวจหาเชื้อพนักงานในโรงงานและกลุ่มเสี่ยงกว่า 4 พันคน พบติดเชื้อวันที่ 21 พ.ค.อีก 819 ราย รวมติดเชื้อสะสมถึง 1,690 ราย เป็นพนักงานชาวไทย 604 ราย ต่างชาติ 1,086 ราย โดยพนักงานต่างชาติที่ป่วยถูกนำเข้ารักษาใน รพ.สนามภายในโรงงาน ส่วนพนักงานคนไทยที่ป่วยจะถูกนำเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามภูมิลำเนาของพนักงาน ขณะที่มีผู้ต้องกักตัวถึง 900-1,000 คน และวันเดียวกันได้มีการนำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน มาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดในพื้นที่เสี่ยง ที่ ต.สระพังและ ต.บางเค็ม อ.เขาย้อย วันแรก รวมทั้งมีการนำรถเอกซเรย์พระราชทานมาประจำจุดภายในโรงงาน ตรวจหาผู้ติดเชื้อ
ปากน้ำพบโควิด 457 ราย
ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ นายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ แถลงว่าวันที่ 21 พ.ค. พบผู้ป่วยโควิดใหม่ในจังหวัด 457 ราย อยู่ที่ อ.เมือง 357 ราย อ.บางพลี 15 ราย อ.พระประแดง 40 ราย อ.พระสมุทรเจดีย์ 3 ราย อ.บางบ่อ 3 ราย อ.บางเสาธง 9 ราย สาเหตุที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงจนน่าตกใจ เนื่องจากพบคลัสเตอร์ใหม่เป็นโรงงานผลิตอาหารทะเลกระป๋อง พื้นที่ ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อยืนยันกว่า 369 ราย เป็นชาย 140 ราย เป็นหญิง 229 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวกัมพูชา ชาวเมียนมา และคนไทย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบลท้ายบ้านลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกที่พรสวรรค์คอนโด ต.ท้ายบ้าน พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อหลังทราบว่ามีแรงงานต่างด้าวซึ่งเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์โรงงานอาหารกระป๋องพักอาศัยอยู่ที่คอนโดดังกล่าว
นนทบุรีมีเชื้อรัฐสภาใหม่
ที่ จ.นนทบุรี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 85 ราย เป็นหญิง 43 ราย ชาย 42 ราย เชื่อมโยงแคมป์คนงานก่อสร้างรัฐสภาใหม่ 5 ราย บริษัทกฎหมายโอเค ติวานนท์ 5 ราย บริษัทศรแดงไทรน้อย 3 ราย ตลาดเทศบาลนครนนทบุรี 2 ราย ตลาดคลองถม 2 ราย บริษัทอะตอม 2 ราย ตลาดศาลาน้ำร้อน ตลาดอินคา วิภาวดี ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนข้าวสาร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข สำนักกฎหมายประชาชนนนทบุรี ตลาดสี่มุมเมือง
แคมป์หลักสี่ติดเชื้อ 1,107 คน
ล่าสุดค่ำวันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แคมป์คนงานย่านหลักสี่ว่า สำนักอนามัย กทม.ตรวจคัดกรองรอบแรกคนงานทั้งหมดกว่า 1,600 คนระหว่างวันที่ 11-13 พ.ค. พบติดเชื้อ 1,107 คน นำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ระหว่างนี้แพทย์ได้สุ่มตรวจสายพันธุ์เพิ่มเติมว่า มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียหรือสายพันธุ์อื่นๆอีกหรือไม่ ส่วนคนงานในแคมป์ที่เหลืออยู่ประมาณ 500 คน กลุ่มเสี่ยงสูงต้องเฝ้าระวังและสังเกตอาการ จะต้องตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง รอบที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 23 พ.ค. รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ 7 ชุมชนรอบแคมป์ เข้าฉีดวัคซีนวันที่ 25-29พ.ค. ที่โรงเรียนบางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์) ส่วนการตรวจคัดกรองหาเชื้อภายในตลาดพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตลาดบางกะปิ เขตบางกะปิ ตลาดยอดพิมาน เขตพระนคร ตลาดศาลาน้ำร้อน เขตบางกอกน้อย จึงสั่งปิดตลาดทั้ง 3 แห่งต่อไปจนถึงวันที่ 4 มิ.ย.