วช. ปลื้มทุนวิจัยสำเร็จ ช่วยชาติประหยัดงบ 90 ล้าน หลังชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะ ไทยทำมาตรฐานสากลสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ เลขานุการกรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นตัวแทนรับมอบหน้ากากป้องกันเชื้อโรค PAPRs (Power Air Purifying Respiration) จำนวน 3,000 ชุด จาก นพ.เข็มชาติ หวังทวีทรัพย์ รองคณบดีฝ่ายทรัพย์สินและพัสดุจากภาควิชาวิสัญญีวิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานกลุ่ม ThaiMIC ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPRs) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ วช. สนับสนุนทุนวิจัย เพื่อส่งมอบให้กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำไปแจกจ่ายให้โรงพยาบาล แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ใช้ป้องกันโควิด-19 พิธีรับมอบจัดขึ้น ณ ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช
นพ.เข็มชาติ หวังทวีทรัพย์ รองคณบดีฝ่ายทรัพย์สินและพัสดุ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องใช้ชุด PAPRs ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวส่วนบุคคลไม่ให้ติดเชื้อโรคทางเดินหายใจจากอากาศในขณะปฏิบัติงาน และเกิดความมั่นใจในความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่จากในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้เกิดการขาดแคลนชุด PAPRs ไปทั่วโลก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติจึงได้สนับสนุนทุนเพิ่มเติมแก่โครงการฯ เพื่อผลิตชุดหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบ PAPRs เพิ่มอีกจำนวน 3,000 ชุด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ การดำเนินงานในครั้งนี้ช่วยให้ประเทศสามารถประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อชุด PAPRs ได้เป็นจำนวนมาก เพราะต้นทุนในการผลิตชุด PAPRs ของโครงการฯ อยู่ที่ประมาณ 9,800 บาท/ชุด ในขณะที่นำเข้าจากต่างประเทศราคาไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท/ ชุด จึงช่วยรัฐประหยัดงบประมาณได้ถึง 30,000 บาท/ชุด ในรอบนี้โครงการฯ ผลิตชุด PAPRs จำนวน 3,000 ชุด ดังนั้น จึงช่วยรัฐประหยัดงบประมาณได้ถึง 90 ล้านบาท ในขณะที่คุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ ประสิทธิภาพในการใช้งานมีมาตรฐานไม่ด้อยไปกว่าของต่างประเทศ ในอนาคตเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้
...
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้สนุบสนุนทุนวิจัยแก่โครงการฯ จนสามารถผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้ประโยชน์ของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบันได้ และมีแนวโน้มว่าผลงานวิจัยดังกล่าวมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่การผลิตในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของ วช. ที่จะผลักดันให้งานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุน สามารถยกระดับไปสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาเศรษฐกิจและการจ้างงานให้กับประเทศ.