สภานโยบายการอุดมศึกษาฯ เคาะกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาฯปี 65 จำนวน 117,880 ล้าน เตรียมชง ครม.ตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาส่งเสริมความเป็นเลิศสถาบัน ผลิตกำลังคนระดับสูงเฉพาะทางตามความต้องการประเทศ ด้าน อว.แจงความก้าวหน้าการใช้ศักยภาพ แก้ปัญหา "โควิด-19" และสร้างโอกาสให้กับประเทศ
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ว่า ได้มอบนโยบายสำคัญ 3 เรื่องให้กับที่ประชุม โดยเรื่องแรก โมเดลเศรษฐกิจ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือบีซีจีโมเดล ซึ่งรัฐบาลอนุมัติให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตนได้เน้นย้ำว่าให้เร่งรัดการนำบีซีจีไปปฏิบัติให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพราะบีซีจีเป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับหลักคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นการทำงานร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน เรื่องที่สอง บทบาทด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย นวัตกรรม ในการบริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการวางรากฐานองค์ความรู้และทรัพยากรบุคคล ด้านยาและวัคซีนที่ต่อยอดไปได้ไม่สิ้นสุด และการเตรียมความพร้อมรองรับความท้าทายด้านความมั่นคงทางสุขภาพในอนาคต
นายดอน กล่าวต่อว่า เรื่องที่สาม การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการอุดมศึกษา ที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศและเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยขณะนี้การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาของไทย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 1 ของ GDP และงบประมาณในด้านการอุดมศึกษาก็ได้รับความสำคัญเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุด คือ การลงทุนในด้านเหล่านี้จะต้องช่วยตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ และเป็นประโยชน์กับประชาชน เพื่อช่วยฟื้นฟูและทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
...
ด้าน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ที่มีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสภานโยบายฯพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้ง นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ เป็นประธานกรรมการพิจารณางบประมาณด้านการอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และแต่งตั้ง นายสุรพล นิติไกรพจน์ เป็นประธานกรรมการพิจารณางบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
"ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จำนวนวงเงินทั้งสิ้น 117,880 ล้านบาท โดยจำแนกตามประเภทงบประมาณที่สอดคล้องกับมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 ประกอบด้วยงบบุคลากร จำนวน 70,427 ล้านบาท (ร้อยละ 60) งบดำเนินงานและงบรายจ่ายอื่น จำนวน 38,653 ล้านบาท (ร้อยละ 33) และได้จัดให้มีงบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษา และการผลิตกำลังคนระดับสูงเฉพาะทางตามความต้องการของประเทศ จำนวน 8,800 ล้านบาท (ร้อยละ 7) รวมถึงที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการ ที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ซึ่งจะมีการนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป" นายเอนก กล่าว
นายเอนก กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้รายงานความก้าวหน้าในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 1.การพัฒนาเศรษฐกิจบีซีจีภายใต้ยุทธศาสตร์หลักคือ สร้างความยั่งยืนของฐานทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งด้วยทุนทรัพยากร อัตลักษณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้เศรษฐกิจบีซีจีให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน และเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก 2.บทบาทของการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ในการบริหารสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้รับมอบหมายในฐานะศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา ศปก.ศบค. โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านวิชาการ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ และสถาบันวิจัยทั่วประเทศ รวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้ามาร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา 3.บทบาทของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยกระทรวง อว.ได้จัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางนิวเคลียร์ของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 ขึ้น เพื่อให้การวิจัยและพัฒนาด้านนิวเคลียร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ