ข่าวดีไทยไม่พบผู้ติด เชื้อโควิด-19 รายใหม่ มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 2 ราย เผยผลสอบสวนกรณีเด็กเมียนมาวัย 2 ขวบ ติดโควิด-19 ไม่พบหลักฐานแหล่งติดเชื้อในไทย กลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สัมผัสใกล้ชิด อาศัยร่วมแคมป์และเคยร่วมงานในอยุธยา-นครราชสีมา รวม 146 คน ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด ต่างจากในเมียนมา ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 600 คน ดันยอดติดเชื้อสะสมกว่า 5 พันคน ส่วนทั่วโลกยอดผู้ติดเชื้อยังลิ่ว มีสหรัฐอเมริกา แชมป์ทั้งติดเชื้อสะสมและเสียชีวิต แม้แต่ ส.ส.-ส.ว.สหรัฐฯก็ติดโควิด-19 อื้อ ขณะที่ยุโรปอ่วมอีก อังกฤษจ่อล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบ 2

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในไทย เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่าไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ และไม่มีผู้เสียชีวิต มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 2 ราย ส่วนสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 31.2 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิต 9.65 แสนราย และมีผู้รักษาหาย 22.8 ล้านราย โดยสหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 7 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตกว่า 2 แสนคน ขณะที่สถานการณ์ในอาเซียน อินโดนีเซีย ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่แนวโน้ม เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเกือบ 4,000 คน มีรายงานผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 100 คน ยอดสะสมขยับใกล้ 1 หมื่นคน ขณะที่เมียนมา สถานการณ์น่าเป็นห่วง ผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงถึง 671 คน ทำให้ยอดสะสมทะลุ 5,000 คน มีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 100 คน ทั้งนี้ เมียนมาได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองย่างกุ้งแล้ว โดยให้ประชาชนอยู่กับบ้านและทำงานที่บ้าน

...

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคเผยแพร่รายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนกรณีเด็ก 2 ขวบชาวเมียนมา ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรคของกรมควบคุมโรค โดยกองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี (สคร.4 จ.สระบุรี) ดูแลพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา (สคร.9 จ.นครราชสีมา) ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิด เคยทำงานหรือเคยอาศัยกับครอบครัวนี้ เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้สัมผัสรวมจำนวน 70 คน แยกเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ที่อยู่ในแคมป์เดียวกัน 16 คน และกลุ่มผู้สัมผัสที่อยู่ในแคมป์อื่นอีกสองแคมป์ จำนวน 54 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ขณะที่พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีผู้สัมผัสรวมจำนวน 76 คน แยกเป็นคนไทย 16 คน และต่างด้าว 60 คน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ รวมผู้สัมผัสใกล้ชิดทุกสถานที่ในกรณีดังกล่าว จำนวน 146 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งหมดทุกรายให้ผลเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด ทั้งนี้ เด็กที่ติดเชื้อจากการตรวจพบของเมียนมา ยังไม่พบหลักฐานแหล่งที่ติดเชื้อในประเทศไทย ทั้งที่พักและที่ทำงานของผู้ปกครอง มีโอกาสน้อยที่เด็กจะเกิดการติดเชื้อในที่พักแรงงานต่างด้าว อาจมีโอกาสเกิดการติดเชื้อระหว่างการเดินทางกลับบ้าน ทั้งในประเทศไทยหรือขณะอยู่ในประเทศเมียนมา ช่วงระหว่างวันที่ 4-10 ก.ย.

ต่อมา นพ.บัญชา ค้าขาย รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 6 การจัดการแข่งขันกีฬาและการจัดคอนเสิร์ต ว่าจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกและประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทย ยังทำให้ไทยมีความเสี่ยงต่อโรคนี้ ส่วนการผ่อนปรนการจัดการแข่งขันและการจัดคอนเสิร์ตนั้น ผู้จัดการแข่งขันต้องเตรียมสถานที่ จัดจุดคัดกรอง จัดเจลแอลกอฮอล์ จุดล้างมือ จำกัดจำนวนคนเข้าชม สนามกีฬากลางแจ้ง เข้าชมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของความจุสนาม ส่วนสนามกีฬาในร่มจุได้ร้อยละ 15 ของความจุสนาม มีระบบการซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ มีการแยกโซนนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้ชม ไม่ให้ปะปนกัน สำหรับนักกีฬาต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนแข่งขัน สังเกตอาการตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ และหยุดการร่วมแข่งขันและพบแพทย์ทันที หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว ส่วนผู้เข้าชม ต้องผ่านการคัดกรอง ลงทะเบียนแอปไทยชนะ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด

นพ.บัญชากล่าวอีกว่า สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกสองคือ การที่เราสามารถพบคนป่วยรายใหม่ได้เร็ว จะได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดมาดูแลเฝ้าระวังได้เร็ว ขณะที่คนไทยทุกคนร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มแข็งคือ สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ขณะเดียวกันก่อนออกจากบ้าน ควรมีการคัดกรองตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ควรหยุดงาน แยกตัวจากคนในครอบครัว และพบแพทย์ให้ตรวจวินิจฉัยโรค

...

ส่วนที่อิมแพค เมืองทองธานี วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ เตรียมความพร้อม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ว่าตนไม่เห็นรอยยิ้มของนายกฯ และท่าทีผ่อนคลายของนายกฯมานาน และการมาพบกันในวันนี้ ถือเป็นการเติมกำลังใจให้กันทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ตนได้รับรายงานจาก นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่าวันนี้นอกจากทุกคนจะได้ค่าตอบแทนรายละ 500 บาท เป็นเวลา 7 เดือนรวม 3,500 บาท ยังมีค่าตอบแทนประจำเดือน ที่ อสม.ได้รับตามปกติอยู่แล้วอีก 2 เดือน เดือนละ 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำว่านี่ไม่ใช่ค่าตอบแทน แต่ไม่ต้องการให้ต้องออกเงินส่วนตัวซื้อเครื่องมือวัดไข้ต่างๆ จึงจ่ายทดแทนให้ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลเห็นความสำคัญของทุกคน

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า ในเดือน ต.ค. หลังขึ้นปีงบประมาณใหม่ กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มทำงานแบบ New Normal เดินหน้าชนโควิดอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ จะต่อสู้เต็มความสามารถด้วยความเข้าใจ ถ้าจะพบผู้ป่วยหลุดมาบ้างก็พร้อมที่จะรักษา เรามีความพร้อมจนกว่าจะมีวัคซีน ขอ อสม.บอกชาวบ้านว่า การ์ดต้องไม่ตก คือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ อย่าไอจามใส่กัน และสอดส่องถ้าพบคนต่างชาติเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือคนมีอาการ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐเพื่อนำตัวเข้าสู่ระบบการสอบสวนโรคในระยะเวลาอันรวดเร็ว นี่คือคำยืนยันว่าระบบสาธารณสุขไทยไม่มีปัญหาแน่นอนเพราะมีเครือข่ายที่เข้มแข็ง

ด้านสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งถึงเกือบ 31.25 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตกว่า 9.65 แสนคน ขยับใกล้ 1 ล้านคนเข้าไปทุกขณะ สหรัฐอเมริกายังมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 42,561 คน รวมเป็นกว่า 7 ล้านคน นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 18 คน ล่าสุดคือนางจาฮานา ฮาเยส ส.ส.รัฐคอนเนกติกัต ซึ่งต้องกักบริเวณตัวเอง 14 วัน นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 655 คน รวมเป็นกว่า 2.04 แสนคน ส่วนประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 2-5 คือ อินเดีย บราซิล รัสเซีย และเปรู

...

กระนั้นแม้ อินเดียพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเกือบ 87,000 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงเกือบ 5.5 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 ของโลก และคาดว่าจะแซงหน้าสหรัฐฯ อันดับ 1 ในไม่ช้านี้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสูงเกือบ 88,000 คน แต่รัฐบาลยังตัดสินใจเปิด “ทัชมาฮาล” อนุสรณ์สถานแห่งความรัก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นวันแรก หลังสั่งปิดมานาน 6 เดือน แต่จำกัดผู้เข้าชมไม่เกิน 5,000 คนต่อวัน จากปกติที่มีผู้เข้าชมวันละกว่า 70,000 คน และผู้เข้าชมต้องจองตั๋วทางออนไลน์ล่วงหน้า อีกทั้งห้ามสัมผัสกำแพงหินอ่อนของทัชมาฮาลและเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวดด้วย แต่ปรากฏว่า ผู้เข้าชมในวันแรกยังไม่มากนัก

ส่วนในยุโรป นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ กำลังพิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นรอบที่ 2 เพราะยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกือบถึง 4 แสนคน มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4,100 คน มากที่สุดในยุโรป และมากเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนยังถูกกักตัว ส่วนสาธารณรัฐเช็ก อาจต้องประกาศภาวะฉุกเฉินอีกถ้ายอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งดังที่เป็นอยู่ และนายอดัม โวจเทค รมว.สาธารณสุข ตัดสินใจลาออกหลังถูกโจมตีว่ารับมือวิกฤติโควิด-19 ล้มเหลว ขณะที่รัสเซีย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6,196 คน สูงที่สุดตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. และนับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เกิน 6,000 คน ทำให้ยอดสะสมพุ่งเกิน 1.1 ล้านคน มีผู้เสียชีวิต 19,489 คน ที่ฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อเพิ่มกว่า 10,000 คน ทำให้ยอดสะสมเกิน 4.5 แสนคน มีผู้เสียชีวิต 31,285 คน ส่วนที่สเปน ชาวบ้านในเขตยากจนหลายแห่งในกรุงมาดริดออกมาประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ เพราะต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

...

สำหรับในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีรายงานว่าสถานการณ์ในหลายประเทศดีขึ้น ที่เกาหลีใต้ โรงเรียนในกรุงโซลและเขตปริมณฑล เริ่มเปิดให้นักเรียนเข้าเรียนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 เดือน หลังยอดผู้ติดเชื้อรายวันลดลงต่อเนื่องจนอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ส่วนออสเตรเลีย ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในรัฐวิกตอเรียที่มีการระบาดหนักที่สุดลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่นิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น สั่งยกเลิกมาตรการควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศ ยกเว้นที่เมืองโอ๊คแลนด์ ศูนย์กลางการแพร่ระบาดรอบ 2

ต่างจากที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 4,176 คน สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงเกือบ 2.45 แสนคน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9,553 คน สูงมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจากอินเดีย และหลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ออกไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสุสานในกรุงจาการ์ตาต้องขุดหลุมฝังศพเพิ่มขึ้นชนิดหามรุ่งหามค่ำ ด้านฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,475 คน รวมเป็นกว่า 290,000 คน แต่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 15 คน ต่ำที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนจีน พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 12 คน ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการอีก 25 คน