ผับ-บาร์ดริงก์ได้ถึง 23.00 น. กรุงเทพฯ-ปริมณฑล "สมุทรสาคร" ล็อกต่อ

ศบค.ยอมผ่อนคลายหลายมาตรการ หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดต่ำร้อยต่อเนื่องเป็นวันที่สาม มี 89 คน โดยปลดล็อกพื้นที่ควบคุมสูงสุดเป็นศูนย์ ส่วนพื้นที่ควบคุมเหลือแค่ 8 จังหวัด มี กทม.และปริมณฑลให้ขยายเวลาปิดร้านอาหาร นั่งดริงก์ได้ ให้แสดงดนตรีสด ฯลฯ แต่ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือนถึงสิ้น มี.ค. อ้างรองรับการฉีดวัคซีน ที่คาดจะเริ่มฉีดเข็มแรกได้ต้น มี.ค. พร้อมดึงเหล่าอาจารย์หมอเป็นคณะกรรมการติดตามผลในทุกด้าน ด้าน “นายกฯ” ลั่นพร้อมฉีดวัคซีนซิโนแวคเป็นคนแรก แม้มีคำแนะนำจากผู้ผลิตไม่ควรฉีดในคนอายุเกิน 60 ปี

หลังจากที่ไทยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รายใหม่ต่ำกว่าร้อยคนต่อเนื่องเป็นวันที่สาม รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ตัดสินใจผ่อนคลายหลายมาตรการเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้

ติดเชื้อรายใหม่ 89 คน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ก.พ. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 89 คน เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 73 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 59 คน จากการค้นหาเชิงรุก 14 คน แยกตามพื้นที่มาจากสมุทรสาคร 33 คน ปทุมธานี 18 คน นครปฐม 6 คน ตาก 13 คน นนทบุรี พระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง จังหวัดละ 1 คน เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ 16 คน โดยมาจากกาตาร์ 7 คน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 2 คน จากอินเดีย ปากีสถาน ลัตเวีย โปรตุเกส และอาร์เมเนีย ประเทศละ 1 คน ทำให้ไทยมียอดผู้ป่วยสะสม 25,504 คน หายป่วยแล้ว 24,361 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,060 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 17 คน เป็นผู้ที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 8 คน และผู้เสียชีวิตยังเท่าเดิม 83 คน

นทท.ต่างชาติทยอยเข้าไทย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับกรณีการแพร่เชื้อที่ตลาดจังหวัดปทุมธานีนั้น มีการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ไปทั้งสิ้น 13,293 คน ติดเชื้อ 422 คน คิดเป็นร้อยละ 3.17 จึงถือว่าในพื้นที่ดังกล่าวสถานการณ์ ดีขึ้นรายวันและควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อจากกรณีดังกล่าวยังคงกระจายตัวไปยังจังหวัดต่างๆ รวมทั้งสิ้น 10 จังหวัดเท่าเดิม รวมผู้ติดเชื้อ 430 คน การสำรวจตลาดทำให้เกิดการเรียนรู้จึงอยากให้ทุกจังหวัดทบทวนมาตรการคัดกรองเชิงรุกสำรวจทั้งตลาดสด ตลาดนัด และซุปเปอร์มาร์เกตให้มีมาตรฐานทั้งการระบายอากาศ การเว้นระยะห่าง ให้ทุกจังหวัดทบทวนให้ตลาดเป็นสถานที่ปลอดภัย และวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจากประเทศเกาหลีเข้าในประเทศไทยในรูปแบบกอล์ฟควอรันทีน จำนวน 41 คน หลังจากนี้จะมีการเดินทางเข้ามาในรูปแบบนี้เพิ่มขึ้นต่อไป

นายกฯย้ำพร้อมฉีดวัคซีน

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม ศบค.ว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบการปรับสีในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมาตรการการผ่อนคลายจะลดระดับลงไปอยู่ในขั้นปลอดภัยคือสีเขียวมากขึ้น จะเหลือพื้นที่สีแดงเพียงจังหวัดเดียวคือสมุทรสาคร ส่วนที่เหลือเป็นการพิจารณามาตรการผ่อนคลายเกี่ยวกับเรื่องของการแข่งขันกีฬา ประเภทเจ็ตสกี เนื่องจากต่างประเทศมีความไว้วางใจประเทศไทยที่สามารถจัดการแข่งขันแบดมินตันได้เรียบร้อยเป็นที่พอใจ จากนี้หลายอย่างจะตามมาเป็นลำดับ เพื่อช่วยเหลือเรื่องการท่องเที่ยว และการบริการ อย่างไรก็ตาม ต้องรักษามาตรการของศบค.ไว้ด้วย ถ้าทั้งหมดเข้ามาตรการได้ก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนเรื่องวัคซีนยืนยันว่าวันที่ 24 ก.พ.ถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน และจะใช้เวลาเตรียมการ 2-3 วัน พร้อมเมื่อไหร่ก็ฉีดเมื่อนั้น สำหรับตนพร้อมที่จะฉีดคนแรก

ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงสิ้น มี.ค.

ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.มีมติเห็นชอบต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้ และเหลือพื้นที่สีแดงเพียงจังหวัดเดียวคือจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนสีส้ม เหลือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ราชบุรี และตาก พื้นที่สีเหลือง 14 จังหวัดสีเขียว 54 จังหวัด ทั้งนี้สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ทุกพื้นที่รวมถึงสามารถเล่นดนตรีสดได้ จนถึงเวลา 23.00 น. แต่ยังคงห้ามเต้น ยกเว้น สมุทรสาคร ส่วนศูนย์การค้า สถานศึกษา สถานที่ออกกำลังกายเปิดได้ตามปกติ แต่การแข่งขันยังคงจำกัดผู้ชม ส่วนข้อกำหนดในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ให้อำนาจแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประกาศ

ยังคุมเข้มสมุทรสาคร

ทั้งนี้ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้เผยแพร่รายละเอียดผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน มีเนื้อหาว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการปรับพื้นที่ โดยยังคงให้ จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดจากเดิมที่มีอยู่ 4 จังหวัด ปรับลดเหลือศูนย์ พื้นที่ควบคุมจากเดิม 20 จังหวัด ปรับลดเหลือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ตาก ราชบุรี สมุทรสงคราม และนครปฐม พื้นที่เฝ้าระวังสูง จาก 17 จังหวัด ปรับลดเหลือ 14 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังหรือพื้นที่สีเขียว ปรับเพิ่มจาก 35 จังหวัด เป็น 54 จังหวัด อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดอาจกำหนดพื้นที่ย่อยที่มีมาตรการเข้มข้นกว่าที่ ศบค.กำหนดได้ตามสถานการณ์โรคของแต่ละจังหวัด นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการ ผ่อนคลายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สมุทรสาคร) ให้ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. ทานอาหารในร้านได้แต่งดการดื่มสุรา ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรม ขณะที่สถานบันเทิง ผับ บาร์ สถานที่ออกกำลังกายและฟิตเนสยังไม่ให้เปิดบริการ เช่นเดียวกับสถานศึกษาทุกระดับและสถานกวดวิชาที่ให้เรียนออนไลน์เท่านั้น

เฮปรับให้ดื่มสุราในร้านได้

ส่วนพื้นที่ควบคุมให้ร้านอาหารเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. ให้ทานอาหารและดื่มสุราในร้านได้ ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น.ดื่มสุรา แสดงดนตรีสดในร้านได้ แต่เว้นการเต้นรำ ขณะที่ศูนย์การค้าเปิดบริการตามปกติ แต่ให้จำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนสถานศึกษาทุกระดับเปิดเรียนตามปกติและให้ใช้วิธีผสมผสาน สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ยิมและฟิตเนสเปิดบริการปกติ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม

54 จังหวัดใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสูงให้ร้านอาหารเปิดได้ถึง 24.00 น. ให้ทานอาหารและดื่มสุราในร้านได้ ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ ให้เปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. ดื่มสุรา แสดงดนตรีสดในร้านได้ แต่เว้นการเต้นรำ ขณะที่ศูนย์การค้าเปิดบริการตามปกติ แต่ให้จำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนสถานศึกษาทุกระดับเปิดเรียนตามปกติและให้ใช้วิธีผสมผสาน สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ยิม และฟิตเนสเปิดบริการปกติ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม ขณะที่พื้นที่เฝ้าระวัง หรือพื้นที่สีเขียวที่ปรับเป็น 54 จังหวัด ร้านอาหาร ผับ บาร์ เปิดตามปกติ ขณะที่ศูนย์การค้าเปิดบริการตามปกติ แต่ให้จำกัดจำนวนคนและงดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนสถานศึกษาทุกระดับเปิดเรียนตามปกติและให้ใช้วิธีผสมผสาน สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ยิม และฟิตเนสเปิดบริการปกติ แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชม ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.เป็นต้นไป

จะดีหากการเมืองไม่ยุ่งเรื่องวัคซีน

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลอตแรกที่จะมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 ก.พ.นี้ว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน ในการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของวัคซีนดังกล่าว เมื่อทุกอย่างพร้อมจะเข้าสู่การดำเนินการฉีดลอตแรกมีประมาณ 200,000 กว่าโดส สามารถฉีดให้ประชาชนได้ประมาณ 100,000 คน ขณะนี้หน้าที่ของ รมว.สาธารณสุข ถือว่าหมดแล้ว เพราะได้จัดหาวัคซีนจัดงบประมาณสำหรับเรื่องนี้ ขั้นตอนจากนี้ไปเป็นเรื่องเทคนิคจะเป็นการดีมากถ้าการเมืองไม่เข้าไปยุ่ง ส่วนมาตรการผ่อนคลายต่างๆ นั้นยังไม่เกี่ยวกับสถานอาบอบนวดต้องรอการประชุมครั้งหน้า ส่วนการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ขอย้ำว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้มาลิดรอนสิทธิเสรีภาพของใคร ไม่เกี่ยวข้องเรื่องการเมืองทั้งสิ้น เป็นเรื่องความคล่องตัวในการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อยังมีการระบาดของโควิด-19 จึงยังไม่อยากให้มีการชุมนุมแบบมีการรวมตัวกันจำนวนมาก เพราะโควิด-19 ติดได้ง่ายในผู้คนที่รวมตัวใกล้ชิด จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ช่วงนี้พยายามหลีกเลี่ยงก่อน

ใช้เวลาตรวจสอบวัคซีน 3 วัน

ต่อมา นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมห้องปฏิบัติการ สำหรับตรวจคุณภาพและประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค ลอตแรกว่า ขณะนี้ห้องแล็บมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในการตรวจคุณภาพวัคซีนซิโนแวค โดยตัวอย่างที่จะตรวจนั้นทางองค์การเภสัชกรรม และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะเป็นผู้สุ่มตัวอย่างมาให้กรมวิทย์ตรวจสอบ ซึ่งจะตรวจสอบความปลอดภัยทั้งกายภาพ เคมี ดูว่าวัคซีนมีการตกตะกอนหรือไม่ มีสิ่งที่เป็นอันตรายเจือปนหรือไม่ ตรวจเอกลักษณ์ และตรวจความแรงของวัคซีนว่าตอบสนองต่อเชื้อโควิด-19 หรือไม่ คาดว่าหลังได้รับตัวอย่างมา ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ก็จะทราบผล

ตั้งกรรมการติดตามการฉีดวัคซีน

ส่วนนางวิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า อว.และ สธ.ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาประเมินประสิทธิผลและอาการข้างเคียงของวัคซีน มี นพ.ยง ภู่วรวรรณ ดูในประเด็นความปลอดภัย และผลกระตุ้นภูมิต้านทานในผู้ใหญ่ พร้อมทั้งการจำแนกสายพันธุ์ย่อยของไวรัส นพ.สมชาย ธนะสิทธิชัย กรมการแพทย์ ดูในประเด็นการประเมินอัตราการแพร่เชื้อไวรัสในวันที่ 7 และ 10 ในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและมีอาการไม่รุนแรง นพ.เมธา อภิวัฒนากุล กรมการแพทย์ ดูในประเด็นอุบัติการณ์ของภาวะ แทรกซ้อนทางระบบประสาทจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 พญ.ณสิกาญจน์ อังคเศกวินัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราช–พยาบาล ดูในประเด็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและความปลอดภัยหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ในบุคลากรทางการแพทย์ นพ.จักรพงษ์ บรูมินเหนทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ดูประเด็นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่จำเพาะต่อไวรัสหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังและผู้ป่วยปลูกถ่ายไต และ ภญ.เบญจรินทร์ สันตติวงศ์ไชย จากโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้าน สุขภาพ (HITAP) ดูในประเด็นการจัดตั้งเครือข่ายวิจัยเพื่อสนับสนุนนโยบายโควิดวัคซีนพาสปอร์ตในอาเซียน

ไม่แนะนำเกิน 60 ปีฉีดซิโนแวค

วันเดียวกัน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวถึงวัคซีนซิโนแวคว่าในเอกสารวัคซีนซิโนแวคระบุคำแนะนำถึงกลุ่มบุคคลที่ฉีดคือคนอายุ 18-59 ปี ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นขึ้น จึงมีแนวโน้มว่าจะยังไม่ฉีดในคนอายุเกิน 60 ปี อย่าลืมว่าวัคซีนตัวหลักของเราคือแอสตราเซเนกา กรณีที่นายกรัฐมนตรีแสดงเจตจำนง จะฉีดเป็นคนแรกนั้น ส่วนตัวคิดว่าโอกาสเกิดอันตรายจากวัคซีนถือว่าน้อยมาก แต่เมื่อมีคำแนะนำถึงช่วงอายุที่ฉีดก็น่าจะทำตามเพราะเรามีวัคซีนตัวอื่น ยกเว้นว่าจะศรัทธาตัวนี้มาก เพราะวัคซีนทั้งแอสตรา-เซเนกา และซิโนแวค มีความปลอดภัยจริง รวมถึงวัคซีนส่วนใหญ่ปลอดภัย แม้แต่ไฟเซอร์ที่พบข้อมูลถึงมีอันตรายหลังฉีดเพียง 11.1 ต่อล้านโดส โมเดอร์นา 2.5 ต่อล้านโดส ดังนั้นวัคซีนปลอดภัยกว่าอยู่แล้ว และอยากเชียร์ให้ฉีด ไม่ใช่แค่ตัวเราเอง แต่เพื่อให้พื้นที่ประเทศไทยปลอดภัยเร็วขึ้น

เตรียมถอดท่อที่คอผู้ว่าฯ

ขณะที่อาการนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครนั้น ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า เตรียมให้ออกจากไอซียูภายใน 2-3วันนี้ มาพักในหอผู้ป่วยปกติ วันนี้แพทย์ด้านหู คอ จมูก จะเข้าไปดูอาการครั้งสุดท้ายว่าจะเอาท่อที่เจาะคอออกหรือไม่ ถ้าเอาออกน่าจะเป็นเช้าพรุ่งนี้ การให้อาหารสามารถรับประทานทางปากได้ปกติแล้ว เรื่องยารักษาโรคได้ถอยหมดแล้วเหลือมีเพียงยาบำรุงร่างกาย ขณะนี้อยู่ระหว่างทำกายภาพ มีการลงน้ำหนักมากขึ้น ยืนได้แล้ว คาดว่าจะต้องฝึกกล้ามเนื้ออีกหลายวัน แล้วค่อยส่งตัวกลับจังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้ผู้ว่าฯสื่อสารได้แล้ว และคุยสนุกสนาน ตนถือโอกาสเล่าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสาครให้ฟังว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง และตอนนี้สามารถคุมได้เยอะมาก เป็นการสรุปสถานการณ์ให้ท่านฟัง ภรรยาของท่านผู้ว่าฯก็อยู่ด้วย

คาดฉีดสมุทรสาคร 1 แสนโดส

ส่วนสถานการณ์ที่ จ.สมุทรสาคร ที่ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 33 คน นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายจัดส่งวัคซีนให้กับจังหวัดจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ ในรอบแรกที่ได้รับมา โดยจะฉีดให้กับ 4 กลุ่มเป้าหมายก่อน จากนั้นจึงเป็นกลุ่มที่ทำสำรวจความประสงค์จะเข้ารับวัคซีนโควิด-19 แบบสมัครใจ ทั้งนี้ วัคซีนรอบแรกอาจไม่พอสำหรับทุกคน ซึ่งต้องพิจารณาให้คนกลุ่มเสี่ยงได้รับก่อน ส่วนประชาชนกลุ่มรอง ต้องพิจารณาความเสี่ยงด้วย ซึ่งอาจจะให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลที่มีความเสี่ยงสูงได้รับก่อนเช่นกัน ทั้งนี้ มีรายงานวัคซีนที่จะเข้ามารอบแรก สมุทรสาครจะได้รับประมาณ 104,000 โดส

พบติดเชื้อขยายไปคลองสาม

ที่ จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการพบผู้ติดเชื้อในลักษณะเป็นกลุ่มก้อนที่ตลาดพรพัฒน์ ตลาดสุชาตและชุมชนใกล้เคียง อ.ธัญบุรี แล้ว ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกหลายคนในพื้นที่คลองสาม อ.คลองหลวง ซึ่งจากการเปิดเผยของนายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.คลองสาม ระบุพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน ที่หมู่บ้านเดอะเพลนท์ หมู่ 1 และหมู่บ้านพฤกษาบี รวมตอนนี้คลองสามติดไปแล้ว 14 คนและยังรอตรวจสอบอีกจำนวนมาก ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ และอยากวอนหน่วยงานภาครัฐให้มีการทบทวนและปลดล็อกระเบียบต่างๆ เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่าการที่นำข้าวมาให้ผู้ที่ติดเชื้อเท่านั้น นอกจากนี้ มีรายงานว่า รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์พบเจ้าหน้าที่ รพ.ติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสูติกรรม จึงต้องออกมาตรการควบคุมโดยปิดให้บริการหน่วยตรวจสูติกรรมและหน่วยตรวจสูตินรีเวชกรรมไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ.

ภูเก็ตต้อนรับ นทท.กระเป๋าหนัก

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึก วันที่ 21 ก.พ. นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รอง ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วยแพทย์หญิงศิริลักษณ์ ไทยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมสังเกตการณ์ การดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปหลายประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มไฮเอนด์กลุ่มแรก จำนวน 59 คน เดินทางจากสนามบินในประเทศอินโดนีเซียมาถึงท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเข้ากักตัวและพักในลักษณะ วิลล่า ควอรันทีน ที่โรงแรมศรีพันวา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

คุมเข้มมาตรการ สธ.ทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ กลุ่มแรกที่มาถึงก่อน ด้วยเครื่องบินส่วนตัว จำนวน 13 คน หลังตรวจวัดอุณหภูมิ เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเอกสารด้านการตรวจโรคและการตรวจคนเข้าเมืองแล้วได้ขึ้นรถตู้ ซึ่งทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ เดินทางไปยังอาคารเอ็กซ์เทอร์มินอล ซึ่งเป็นจุดติดตั้งห้องเก็บสิ่งส่งตรวจและปฏิบัติการชีวโมเลกุลระบบควบคุมความปลอดภัยแรงดันลบ และรถพระราชทาน เก็บตัวอย่างชีวนิรภัยหรือรถตรวจหาเชื้อ จำนวน 1 คัน เพื่อทำการสว็อบหาเชื้อ ก่อนจะเดินทางไปยัง โรงแรมที่พัก โดยมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหน้าและปิดท้าย จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันกลุ่มที่ 2 จำนวน 46 คน เดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ และเข้าสู่กระบวนการเช่นเดียวกับกลุ่มแรก ทั้งนี้ในส่วนของรถตู้รับส่งนักท่องเที่ยวนั้นจะมีกระจกกั้นระหว่างผู้โดยสารกับคนขับอย่างชัดเจน และบนรถยังมีเจลล้างมือไว้บริการอีกด้วย ขณะที่พนักงานที่มาให้บริการ และอำนวยความสะดวก รวมถึงพนักงานขับรถให้กับ นักท่องเที่ยวมีการใส่ชุดพีพีอี สวมถุงมือ หน้ากากอนามัย และหมวกคลุมผม ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่กำหนด

ไบเดนไว้อาลัยเหยื่อโควิด

สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในต่างแดน ยอดติดเชื้อรวมทั่วโลกพุ่งเป็น 112 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 2.47 ล้านคน โดยที่สหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทำพิธีจุดเทียนและยืนสงบนิ่ง ในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะ หลังยอดเสียชีวิตรวมในประเทศทะลุ 500,000 คน ติดเชื้อรวมกว่า 28.7 ล้านคน ขณะที่นายแอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาด้านโรคติดต่อประจำทำเนียบขาว มองว่าภาพรวมในสหรัฐฯ ยังคงเลวร้ายแม้จะฉีดวัคซีน ไประดับหนึ่งแล้ว และกว่าความเป็นอยู่จะเริ่มกลับมา เป็นปกติ คงต้องรอถึงสิ้นปี และคาดว่าเราจะยังต้องสวมหน้ากากอนามัยกันต่อไปอีก 1 ปี

คนเคยติดฉีดโดสเดียวพอ

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยมะเร็งเฟร็ดฮัตชินสัน ในสหรัฐฯ เตรียมเผยแพร่งานวิจัยที่ให้ความหวังต่อ การรับมือไวรัสกลายพันธุ์ โดยระบุว่า จากกรณีการพบเชื้อกลายพันธุ์ B.1.351 จากแอฟริกาใต้ มีความ ต้านทานภูมิคุ้มกันของผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดปกตินั้น ผลปรากฏว่า การทดสอบฉีดวัคซีนต้านไวรัสของบริษัท ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ประเทศสหรัฐฯ จำนวน 1 โดส ให้แก่คนที่เคยติดเชื้อโควิดปกติ ได้ทำให้ผู้ทดสอบมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นหลายพันเท่า และการนำตัวอย่างของผู้ทดสอบเหล่านี้ไปทดลองเพิ่มเติม พบว่าสามารถรับมือกับไวรัสจากแอฟริกาใต้ รวมถึงไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคซาร์สด้วยเช่นกัน ขณะที่ ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐฯ พบว่าการฉีดวัคซีนโดสที่สองแก่ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน