ทางการนิวซีแลนด์ ประกาศเตรียมผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มพรมแดน หลังปิดมายาวนานกว่า 1 ปีครึ่ง แต่ยังไม่พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว

นายคริส ฮิปสกิน รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบควบคุมการระบาดของโควิด-19 ของนิวซีแลนด์ประกาศผ่อนคลายมาตรการปิดพรมแดนของประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากเริ่มปิดพรมแดนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 โดยมาตรการผ่อนคลายการกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว จะต้องกักตัวที่สถานที่ที่ภาครัฐจัดให้ เมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศนิวซีแลนด์เพียง 7 วัน จากเดิมที่ต้องกักตัวนานถึง 14 วัน ก่อนจะเปลี่ยนให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถกักตัวเองที่บ้านได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีหน้าเป็นต้นไป

ประเทศนิวซีแลนด์นับเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่ตัดสินใจปิดพรมแดนอย่างเด็ดขาดเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรกอย่างเคร่งครัด และยังคงคุมเข้มการเดินทางข้ามพรมแดนมายาวนานต่อเนื่อง ทำให้พลเมืองที่เป็นชาวต่างชาติ รวมทั้งพลเมืองนิวซีแลนด์ต้องตกค้างอยู่ที่อื่นนานหลายเดือน

...

ส่วนการกักตัวทางเดียวสำหรับประเทศขนาดเล็กในหมู่เกาะแปซิฟิก ทั้งซามัว ตองกา และวานูอาตู จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนนี้

ขณะที่นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระบุว่า ประเทศนิวซีแลนด์จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ก็ต่อเมื่อมีประชากรเข้ารับวัคซีนจนครบโดส ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศแล้วเท่านั้น โดยจนถึงขณะนี้มีประชากรที่รับวัคซีนครบโดสแล้ว 72 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อีกราว 87 เปอร์เซ็นต์ได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว.