แพทย์เผยข้อมูลใหม่ เล่นเกม-พนัน ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานเร็วขึ้นแต่ส่งผลร้ายระยะยาว เครือข่ายสังคมยื่นข้อเสนอ จี้รัฐเร่งกำหนดกฎหมายควบคุม หวั่นการพนันคุกคามเยาวชนในยุค 3จี...

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ เปิดเผยว่า งานวิจัยฉบับหนึ่งค้นพบว่าสมองของเด็กจะมีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่ออายุ 12-15 ปี จากนั้นเซลล์สมองบางส่วนจะลดลงเนื่องจากถูกกำจัดโดยเส้นประสาทและสมอง หากไม่มีการคิดลุ้นหรือเสี่ยงตัดสินใจตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป เซลล์สมองประเภทใช้เรียน อ่าน จำ คิดวิเคราะห์ ก็จะถูกสลายทิ้งไป แต่หากสมองถูกกระตุ้นด้วยเกมหรือการพนันจะพบว่าสมองส่วนดังกล่าวถูกฝึกฝน ส่งผลให้สมองส่วนดังกล่าวมีความว่องไวในการทำงาน แต่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สมองสูญเสียความสามารถในการควบคุมตนเองและการตัดสินใจในระยะยาว ส่งผลให้เยาวชนดังกล่าวเติบโตและกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ขาดวุฒิภาวะในอนาคต

เลขาธิการมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ภาครัฐยังไม่สามารถกำหนดกติกาเพื่อดูแล สังคมครอบครัวจึงต้องสร้างการป้องกันด้วยตนเอง ซึ่งคำแนะนำทางการแพทย์ที่สามารถทำได้เองนั้น ได้แก่ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบดูโทรทัศน์ เพราะอาจทำลายเซลล์และเนื้อสมองบางส่วน นอกจากนี้ยังห้ามเล่นเกมเกินวันละ 1 ชั่วโมงในคนทุกช่วงอายุ เพราะอาจทำลายสมองและความสามารถในการยับยั้งชั่งใจ

นอกจากนี้ จากการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อระดมความคิดเห็นและหาข้อเสนอเกี่ยวกับการป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน ใน 3 หัวข้อ ได้แก่ พนันออนไลน์ ความท้าทายในการจัดการการเข้าถึงการพนัน, สื่อกีฬาสร้างสรรค์ กับการป้องกันพนันฟุตบอล และกองทุนเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนจากการพนัน บทเรียนและความเป็นไปได้ในประเทศไทย โดยมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ ได้ข้อเสนอแนะว่า ควรมีการแก้ไขและกำหนดกฎหมายให้มีความเข้มแข็งในการกำกับดูแลเรื่องของการพนัน ขณะเดียวกันก็ต้องปลูกฝังศีลธรรมและชี้ให้เด็กและเยาวชนได้เห็นโทษของการเล่นพนัน และขยายเครือข่ายเกี่ยวกับการกำกับดูแลเรื่องดังกล่าวให้กว้างขวางขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับโรงเรียน ชุมชน สังคม และระดับประเทศ นอกจากนี้ก็จำเป็นนำเสนอสื่อสร้างสรรค์เพื่อเป็นมาตรฐานแก่วงการสื่อมวลชนและตระหนักถึงประโยชน์ในการรับสื่อของผู้บริโภคด้วย.

...