"รมว.ไอซีที" พบ กสทช. หาทางออกหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน 1800 เมกะเฮิรตซ์ 15 ก.ย.นี้ เห็นพ้องมาตรการเยียวยา กสทช. ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศเป็นหลัก...

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 56 ได้มาเข้าพบ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรรมการ กกสทช. และเลขาธิการ กสทช. เพื่อหารือในเรื่องมาตรการรองรับ และการดำเนินการต่อไปเมื่อสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน กสทช.  ใน 2 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นแรก กรณีการสิ้นอายุสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ระหว่างคู่สัญญาสัมปทานบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ที่จะสิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย. 2556 นี้ ในเรื่องมาตรการการเยียวยาผู้บริโภคที่อยู่ในระบบ ความเหมาะสมในการเตรียมพร้อม ระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ประเด็นที่ 2 แนวทางดำเนินการ หรือมาตรการปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ การขอคืนคลื่นความถี่ สิทธิในการบริหารจัดการคลื่น

“การหารือที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในทิศทางตรงกัน ตามระเบียบข้อกฎหมายภายใต้ประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง รับทราบเจตนา เป้าหมายของทั้งสองฝ่าย ในเรื่องหลักการ โดยยังไม่มีการเสนอแนวทางใดๆ จากกระทรวงไอซีที แต่จะหารือกันในเรื่องของเหตุผลความจำเป็นในการดำเนินการ เพื่อให้บริการลูกค้า ภายใต้สัญญาสัมปทานได้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องในภายหลังหมดอายุสัมปทาน ทั้งนี้ ทั้งกระทรวงไอซีทีและ กสทช. มีความเห็นตรงกัน ที่จะไม่มีการยุติการให้บริการ หรือสวิตช์ ออฟ อย่างเด็ดขาด รวมถึงแนวทางการให้บริการจะต้องดำเนินการต่อเนื่องอย่างมีคุณภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่ยังอยู่ในระบบหลักสิบล้าน” รมว.ไอซีที กล่าว

...

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า การหารือวันนี้ ได้พูดกันเรื่องบริหารจัดการ วิธีการการดำเนินการต่างๆ จะอยู่ภายใต้กฎหมายกำหนด ไม่สามารถทำอะไรที่ผิดไปจากกฎหมายได้ กฎหมายกำหนดอย่างไรก็ดำเนินการตามนั้น ใช้เส้นทางนี้เป็นตัวกำหนดการดำเนินการให้ดีที่สุด โดยมองประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องมีความขัดเจนในเรื่องการให้บริการต่อเนื่องกับลูกค้าที่ใช้บริการระบบ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งอย่างน้อยที่สุด กสทช.ได้มีมาตรการดำเนินการเยียวยาไว้ ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่ กสทช. สามารถดำเนินการได้เพื่อให้มีการบริการอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลา 12 เดือน สำหรับการหาทางออกภายใต้ของกฎหมาย

ทางด้าน พล.อ.อ.ธเรศ กล่าวว่า กสทช. ยืนยันการดำเนินการทุกขั้นตอนดำเนินการตามข้อกฎหมาย ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีการหารือทำความเข้าใจ เพราะมีประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่หลายเรื่อง แต่สำคัญที่สุดต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ส่วนบางเรื่องต้องใช้เวลาก็มีระยะเวลามาตรการเยียวยาที่มีข้อกำหนดไว้ไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ ปัญหาทุกสิ่งย่อมมีทางออกเสมอ และการหารือระหว่าง 2 องค์กรในครั้งนี้ มีความเห็นพ้องกัน 100% จึงมั่นใจว่าจะมีทางออกทัน ช่วงเวลาก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทานแรกนี้ได้.