ไมโครซอฟท์ แนะสตาร์ทอัพไทยหนุนใช้คลาวด์เพื่อก้าวสู่สากล

ไมโครซอฟท์ จับมือเว็บไซต์ดังด้านไอที ThumbsUp ให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีคลาวด์ ติดอาวุธให้สตาร์ทอัพไทย ก้าวสู่ความสำเร็จในระดับสากล ยกตัวอย่างธุรกิจ "อุ๊คบี" ร้านหนังสือออนไลน์ชื่อดังของคนไทย...

เมื่อพูดถึง คลาวด์ คอมพิวต์ติ้ง (Cloud Computing) ในแง่ของผู้ใช้งานในปัจจุบัน หลายคนคงคุ้นเคยกับบริการบนระบบออนไลน์ ที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกสบายในการเข้าถึงบริการเหล่านั้นได้ทุกที่ทุกเวลา แต่สำหรับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหม่ หรือ สตาร์ทอัพ (Startup) แล้ว คลาวด์ คอมพิวต์ติ้ง มีประโยชน์อย่างมากในการทำธุรกิจ  โดยจากสถิติล่าสุด ได้เกิดการจ้างงานใหม่ที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์สูงถึง 14 ล้านตำแหน่งทั่วโลก และสร้างรายได้สูงถึง 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้วยเหตุนี้ ทางไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จึงได้จับมือกับ Thumbs Up ออนไลน์คอมมูนิตี้ เพื่อสนับสนุนและให้ความรู้กับสตาร์ทอัพในประเทศไทย โดยทาง Thumps Up ได้จัดงาน “Start It Up, Power It Up” เพื่อให้ความรู้และแง่มุมด้านการพัฒนาและการลงทุนในการเติบโตเป็นสตาร์ทอัพที่พร้อมในการแข่งขันในยุค AEC  รวมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวต์ติ้ง ที่สตาร์ทอัพไทยสามารถนำไปใช้สร้างประโยชน์เพื่อการพัฒนาและการทำธุรกิจได้ โดยภายในงาน มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากซอฟต์แวร์พาร์ค พร้อมผู้บริหารจากบริษัทด้านการลงทุน Intouch, Expara IDM Ventures, Sparx Ventures และ Angel Investors มาร่วมให้ความรู้ด้านการพิจารณาการลงทุนในสตาร์ทอัพ โดยในงานมีสตาร์ทอัพไทยกว่า 200 คน ให้ความสนใจเข้าร่วม

ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park) กล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท การ์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ด้านไอทีได้คาดการณ์ไว้ว่า ในปี 2556 เทรนด์ด้านเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปสู่สภาพแวดล้อมแบบ ไฮบริด ไอที และคลาวด์คอมพิวต์ติ้งมากขึ้น  (Hybrid IT and Cloud Computing) โดยเราจะเห็นสภาพแวดล้อมขององค์กรธุรกิจที่จะใช้ Private Cloud หรือคลาวด์สำหรับใช้ภายในองค์กร ผสมผสานกับการขยายดาต้าเซ็นเตอร์ไปยัง Public Cloud หรือคลาวด์แบบสาธารณะเพื่อการใช้งานเฉพาะอย่าง เทคโนโลยีคลาวด์จึงยังคงเป็นอนาคตแห่งโลกไอทีและเป็นยุทธศาสตร์ในการเปลี่ยนแปลงองค์กรที่ผู้บริหารให้ความสำคัญ ดังนั้นแน่นอนว่าตลาดการให้บริการด้านคลาวด์ย่อมมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น สตาร์ทอัพก็สามารถเข้ามาพัฒนาแอพพลิเคชั่นและโซลูชั่นโดยใช้ระบบคลาวด์เช่นกันโดยสามารถขยายและต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

ด้าน นายภฤศดา โกมุทบุตร Platform Strategy Manager  บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า ทุกวันนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์โดยเฉพาะในธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลกต่างประสบกับปัญหาในการเลือกหาผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีความน่าเชื่อถือและที่สำคัญเป็นระบบเปิดที่สามารถรองรับการทำงานของซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากหลากหลายแพลตฟอร์ม รวมถึงโอเพนซอร์สได้ เพราะด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้สตาร์ทอัพขาดความคล่องตัวในการสร้างธุรกิจ โดยเฉพาะสตาร์ทอัพที่มีเงินทุนจำกัด ทำให้ต้องลงทุนและใช้จ่ายส่วนใหญ่ไปกับระบบคลาวด์พื้นฐาน และการจ่ายค่าบริการระบบ ไมโครซอฟท์จึงได้พัฒนาระบบคลาวด์ ที่สามารถให้บริการและรองรับระบบเปิด (Open Cloud) ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่านักพัฒนาเหล่านี้จะเขียนโปรแกรมผ่าน PHP, Java หรือ Dot.net ก็ตาม ก็สามารถใช้บริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ที่เรียกว่า Windows Azure ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ผจก.ฝ่ายกลยุทธ์แพลตฟอร์ม ไมโครซอฟท์ฯ กล่าวต่อว่า ด้วยบริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ สตาร์ทอัพที่มีเงินทุนจำกัด ไม่จำเป็นต้องกังวลใจกับการที่ต้องลงทุนล่วงหน้าด้วยเงินก้อนใหญ่อีกต่อไป เพราะการบริการคลาวด์ Windows Azure เป็นการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง ที่สอดคล้องกับการเติบโตของการใช้บริการและรายได้ของบริษัท ทั้งนี้สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามการใช้งาน และเมื่อไม่ต้องการใช้บริการ นักพัฒนาก็จะไม่ถูกผูกมัดด้วยต้นทุนหรือจำกัดสิทธ์ด้านการใช้งานและค่าเสื่อมราคาจากการลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ เป็นการลดความเสี่ยง ลดความกังวลและประหยัดค่าใช้จ่าย ลูกค้าหรือนักพัฒนาทั้งหลายสามารถขยายและสร้างสรรค์ผลงานการพัฒนาใหม่ๆได้อย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบที่ต้องการและมีความถนัดเพราะระบบการบริการคลาวด์ Windows Azure   สามารถรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้ทันที

นายภฤศดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ภายใต้การให้บริการคลาวด์ของไมโครซอฟท์ ยังจัดให้มีการอบรมวิธีการใช้คลาวด์ทุกเดือน รวมถึงมีทีมสนับสนุนที่มีทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงานอันยาวนานในด้านธุรกิจองค์กรมากกว่า 15 ปี มาให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมระบบนิเวศน์ของเครือข่ายพันธมิตรและนักพัฒนา ที่จะมาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของสตาร์ทอัพในวิธีการและด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนเองออกสู่ตลาดภายนอก

ขณะที่ นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ บ.ไมโครซอฟท์ฯ กล่าวว่า ขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ธุรกิจสตาร์ทอัพต้องปรับกลยุทธ์ในการบริหารบริษัทเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปิดตลาดอาเซียน ที่จะมีตลาดประชากรรองรับเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนถึง 600 ล้านคน ซึ่งนอกจากไมโครซอฟท์จะมีบริการคลาวด์ที่ช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพแล้วไมโครซอฟท์ ยังมีโครงการระดับโลกอย่าง Microsoft BizSpark ที่เราได้เข้าไปสนับสนุนให้บริษัทสตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จได้ ผ่านการสนับสนุนสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีระดับโลกจากไมโครซอฟท์ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท รวมถึงการสนับสนุนจาก network partner ซึ่งเป็นนักลงทุนองค์กรขนาดใหญ่ และโฮสต์ติ้งเซอร์วิสที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงโอกาสในการเข้าถึงผู้สนับสนุนเงินทุน (venture capital) ในตลาดโลก

นางสาวปัญจพร กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยปีนี้นับเป็นปีที่ 4 ที่ไมโครซอฟท์ได้ดำเนินโครงการนี้ขึ้น โดยมีสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมในโครงการแล้วกว่า 200 ราย ซึ่งผู้ประกอบการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโปรแกรม Microsoft BizSpark ต้องเป็นบริษัทที่ให้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 ปีและมีรายได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท

อุ๊คบี (Ookbee) คือ ธุรกิจสตาร์ทอัพไทย ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่ได้พัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจสิ่งพิมพ์ดิจิตอลบนโปรแกรมที่ชื่อ อุ๊คบี (Ookbee) บนระบบคลาวด์ Windows Azure จนเติบโตเป็นร้าน E-bookstore ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมื่อไม่นาน  มานี้ อุ๊คบีได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศทั้งในประเทศเวียดนามและญี่ปุ่น

นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ซีอีโอหนุ่มไฟแรง บริษัท อุ๊คบี (Ookbee) ได้ให้ความเห็นแก่ผู้ที่สนใจในการตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพว่า ปัจจุบันสตาร์ทอัพหลายรายที่พัฒนาระบบที่ทำงานเป็น Web-based นั้นอาจทำการโฮสที่เซิร์ฟเวอร์ใดเซิร์ฟเวอร์หนึ่ง และอาจคิดว่าการเปลี่ยนมาใช้ระบบคลาวด์นั้นเป็นโซลูชั่นที่ยุ่งยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วการใช้คลาวด์ คอมพิ้วต์ติ้ง เป็นการลงทุนในระยะยาวที่คุ้มค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี (Tech Startup) เพราะระบบคลาวด์มีความยืดหยุ่น ใช้งานตามความต้องการได้ ไม่ต้องมีการลงทุนล่วงหน้า มีการรองรับภาษาโปรแกรมมิ่งสำหรับการสร้างและจัดการแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในแบบที่คุ้นเคย ทั้งแบบที่ผ่าน .NET Java และPHP ระบบคลาวด์จึงเปรียบเสมือนเครื่องมือสำคัญที่จะผลักดันให้ Startup เติบโตได้ในระยะยาว

“นอกจากนี้ อุ๊คบียังได้รับคำแนะนำจากไมโครซอฟท์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้กับบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์รายอื่นๆ และช่องทางธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จกับการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด สำหรับแผนในอนาคต บริษัทฯ จะขยายธุรกิจสู่การให้บริการบนคลาวด์ คอมพิวติ้งของไมโครซอฟท์ เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจอย่างเหมาะสม” ซีอีโอหนุ่มไฟแรง บ.อุ๊คบี กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าสตาร์ทอัพในประเทศไทยมีศักยภาพไม่แพ้ประเทศอื่นในอาเซียนครับ สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงเสมอคือ การบริหารจัดการอย่างชาญฉลาด ในฐานะผู้บริหาร สตาร์ทอัพยังจำเป็นต้องลงทุนทั้งในเรื่องการจ้างคน การทำการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริหารและการดูแลสถาปัตถยกรรมด้านไอที เราต้องแบ่งแยกการบริหารจัดการให้ชัดเจน หากเรามีคนที่มีความถนัดมาช่วยเราดูแลระบบ ก็จะทำให้เรามีเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และดูแลการเติบโตของบริษัทในภาพรวม ทำให้บริษัทเติบโต มีรากฐานที่แข็งแกร่งพร้อมก้าวสู่ระดับนานาชาติและเป็นที่ยอมรับอย่างที่บริษัทเราทำได้ครับ.