รมว.ไอซีที พร้อม กสทช. เข้าร่วมงาน ITU Telecom World 2012 ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์...

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า ภายหลังการเดินทางไปเข้าร่วมงาน ITU Telecom World 2012 ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบว่า ประเทศไทยมีความพร้อมเต็มที่ในการเป็นเจ้าภาพ จัดงาน ITU Telecom World 2013 เนื่องจากประเทศไทยมีสิ่งอำนวยความสะดวกมีศูนย์จัดประชุมและจัดงานแสดงสินค้ามาตรฐานระดับโลกซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ รวมทั้ง พร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ระบสาธารณูปโภค การคมนาคมและการขนส่งอันทันสมัยเป็นศูนย์กลางการบินที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้าออกกว่า 500 เที่ยวบินต่อวันซึ่งเชื่อมโยงกว่า 190 ประเทศทั่วโลก มีระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อสนามบินกับใจกลางเมืองผ่านแอร์พอร์ตลิงก์ อีกทั้ง ความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าที่สำคัญในเวทีระดับนานาชาติ และเป็นประตูสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจของภูมิภาคอาเซียน ยังมีประสบการณ์ในการจัดงาน ITU Telecom Asia 2008 เมื่อปี 2551 ประเทศไทยจึงพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ITU Telecom World 2013 กว่า 20,000 คนจากทั่วโลกซึ่งจะมาร่วมงานที่กรุงเทพฯ ในปี 2556

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเข้าร่วมงานประชุมดังกล่าว รมว.ไอซีที ยังได้ร่วมอภิปรายโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีในหัวข้อ Emergency Communication โดยเน้นย้ำถึงนโยบายและการให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเตือนภัยและการสื่อสารในสภาวะวิกฤติ เพื่อสื่อสารกับประชาชนและผู้เสี่ยงภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการป้องกันและการเตือนภัยพิบัตินี้เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมกันนี้ ยังได้เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐมนตรีประเทศสมาชิกITU ในหัวข้อ ดิจิตอล ทีวี ด้วย โดย พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ร่วมอภิปรายในส่วนของประเทศไทย ซึ่งเวทีการเสวนาดังกล่าวได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีอนาล็อคทีวี สู่ ดิจิตอล ทีวี โดยได้ให้ความสำคัญใน 2 ส่วนคือ การเข้าถึงการรับชมของประชาชนที่จะต้องติดตั้งกล่องรับสัญญาณ ซึ่งพบว่าหลายประเทศต้องกำหนดเป็นนโยบายจากรัฐเพราะเกี่ยวข้องกับงบประมาณ เนื่องจากส่วนใหญ่รัฐต้องเป็นผู้ลงทุนในเรื่องกล่องรับสัญญาณ และการให้ความสำคัญกับคุณภาพรวมถึงเนื้อหารายการ เพราะการเปลี่ยนเป็นดิจิตอลทีวีจะทำให้ผู้ชมมีช่องสัญญาณในการรับชมมากขึ้นโดยกระทรวงฯ และสำนักงาน กสทช.จะได้ศึกษาและปฏิบัติงานร่วมกันในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

...