“บุญยืน ศิริธรรม” ยื่นหนังสือต่อวุฒิสภา ชี้ กสทช.เข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.ฮั้ว ขณะที่ กก.สรรหา กสทช. ยอมรับผิดหวังกับประวัติที่เลือกเข้ามาทำหน้าที่ เผยยอมรับไม่ได้การประมูล 3จี เอื้อประโยชน์เอกชน...

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริตและธรรมาภิบาลฯ วุฒิสภา โดยมี นางรสนา โตสิตระกูล เป็นประธาน หลังพบว่าการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว)

นางสาวบุญยืน กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นกรรมการสรรหา กสทช. ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังมาก เพราะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา กสทช. ในรอบ 44 คน เพื่อส่งต่อให้วุฒิสภาคัดเลือกเหลือ 11 คน ขณะที่เลือกเข้ามาแต่ละคน นับว่ามีประวัติหน้าที่การงานดี และแสดงวัสัยทัศน์ที่ดีมาก ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม แต่เมื่อเข้ามากลับเปลี่ยนไป อยางไรก็ตาม ยืนยันสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค จะไม่หยุดตรวจสอบ กสทช.แน่นอน

“ต้องขอโทษสังคม ขอโทษประชาชนจริงๆ ที่เลือก กสทช.ชุดนี้เข้ามาทำหน้าที่ ต้องขอโทษจริงๆ เพราะไม่รู้เลยว่า สันดานคนจะเปลี่ยนไป รู้สึกผิดหวัง เสียใจ ไม่คิดว่าคนที่มีประวัติดี แสดงวิสัยทัศน์ดีมาก จะเป็นแบบนี้" นางสาวบุญยืน กล่าว

นอกจากนี้ ยังยอมรับว่า สิ่งที่รับไม่ได้คือ การทำหลักเกณฑ์ก่อนการประมูลจนสามารถเอื้อให้บริษัทที่มีอยู่ในตลาดเพียงแค่ 3 ราย ได้เข้ามาประมูล แต่สิ่งนี้ไม่ได้เรียกว่า การประมูล แต่คือ การประเคน มากกว่า กสทช.กำลังเล่นลิเก หรือเล่นจำอวดหน้างานศพให้สังคมดู

ด้านนางรสนา ประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและธรรมาภิบาลฯ วุฒิสภา กล่าวว่า กรรมาธิการได้รับเรื่องจากสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคไว้ตรวจสอบ เนื่องจากเป็นหน้าที่ที่ในความรับผิดชอบ ส่วนประเด็นที่ยื่นให้ตรวจสอบนั้น เป็นประเด็นเดียวกันกับที่สังคมเกิดข้อสงสัย โดยเฉพาะทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว หรือไม่ ซึ่งหากผลสอบออกมาพบว่าผิดปกติ จะต้องดูว่าจะส่งผลสอบไปให้หน่วยงานใดเอาผิดตามความรับผิดชอบ เหมือนเช่นที่เคยส่งให้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมาแล้ว 

ประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบการทุจริตและธรรมาภิบาลฯ วุฒิสภา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่า การจัดประมูล 3จี ครั้งนี้ เหมือน กสทช.ไปเอื้อให้เกิดการผูกขาดสำหรับค่ายมือถือ ทั้งนี้ จากการออกหลักเกณฑ์การประมูลที่ มีใบอนุญาต 9 ใบ แต่มีคนแข่ง 3 ราย แล้วมาบอกว่าแข่งขัน โดยลักษณะดังกล่าวคือ การผูกขาด และไม่เปิดโอกาสให้รายเล็กเข้ามามีส่วนร่วม 

นายสุรศักดิ์ ศิริพรอดุลศิลป์ แกนนำเครือข่ายภาคประชาชน กล่าวว่า เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่กรณีจัดประมูลใบอนุญาต 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ โดยเฉพาะอาจขัดต่อ พ.ร.บ.ฮั้ว รวมถึงส่อเจตนา หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้จ่ายงบประมาณฟุ่มเฟือย ไม่คำนึงถึงเงินภาษี และประโยชน์สูงสุดของประชาชน อีกทั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญหลายมาตรา เช่น มาตรา 30 37 และ 47

ขณะที่วันเดียวกัน ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน นำโดยกลุ่มลูกศิษย์หลวงตามหาบัว กว่า 50 คน นำรายชื่อประชาชนใส่ลังมาประมาณ 30 ลัง รวมทั้งหมด 57,904 รายชื่อ ยื่นต่อ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เพื่อให้ถอดถอนกรรมการ กสทช.

นายนิคม กล่าวว่า ขณะนี้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว โดยหลังจากนี้จะนำไปตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อที่ยื่นมา จากนั้นจะส่งต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกระบวนการถอดถอน โดยอาจใช้เวลานานกว่า 2 เดือน อีกทั้งยังยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังมาก ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกรรมการเลือก กสทช.ชุดนี้ โดยเฉพาะผลการจัดประมูลเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ราคาไม่เกิดการแข่งขันมากถึง 6 ใบ ขณะที่โดยรวมที่ได้เข้ารัฐนับว่าเป็นราคาที่ต่ำมาก.

...