แหล่งข่าวไอซีที เผยแท็บเล็ตลอตแรก 2 พันเครื่อง ไม่ครบ หวั่นตีกลับสโคปเพราะเซ็นรับไม่ได้ ด้าน รมว.ไอซีที ลังเล ขอรอผลตรวจสเปกจากคณะกรรมการตรวจสอบสเปกก่อนชี้แจง...
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า ภายหลังการขนส่งเครื่องแท็บเล็ตจำนวน 2 พันเครื่อง มาตรวจเช็กสเปกที่กระทรวงไอซีทีแล้ว จะส่งต่อให้กระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ.ไปดำเนินการต่อ โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาตรวจสอบสเปกเสร็จภายในวันที่ 27 พ.ค.2555 ก่อนจะส่งหนังสือให้สโคปเพื่อผลิตจำนวน 4 แสนเครื่องต่อไป ขณะที่แท็บเล็ต จำนวน 2,000 เครื่องนี้ เป็นส่วนที่ใช้ในการอบรมคุณครูเรื่องการใช้งานก่อนนำไปถ่ายทอดความรู้ให้เด็กเท่านั้น
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดไอซีที เป็นผู้ลงนามในสัญญาจัดซื้อดังกล่าว เซ็นสัญญาจัดซื้อกับผู้บริหารของสโคปเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 1 ล้านเครื่อง ทั้งนี้ ตามสัญญาจะต้องส่งแท็บเล็ตจำนวน 4 แสนเครื่อง ภายใน 60 วัน หรือ 10 ก.ค.2555

...
ส่วนเนื้อหาที่บรรจุลงแท็บเล็ต มีทั้งหมด 5 กลุ่มวิชาเรียน คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และ 8 สาระวิชา โดยแบ่งเป็นการเรียนเทอม 1 เทอม 2 และมีเนื้อหาที่เข้าใช้งานได้ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
สำหรับสเปกแท็บเล็ต ป.1 เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำหลัก 1 กิกะเฮิรตซ์ แบตเตอรี่ลิเธียม 3600 แอมป์ หน้าจอ 7 นิ้ว มี 4 สี คือ แดง น้ำเงิน บรอนซ์เงิน และบรอนซ์ทอง รับประกันสินค้า 2 ปี ดำเนินการตามมาตรฐานสากล ราคา 82 เหรียญ หรือประมาณ 2,400 บาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงไอซีที กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจรับ ที่มีนายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธาน ชุดนี้ ไม่สามารถตรวจรับเครื่องได้ เนื่องจากแท็บเล็ตลอตนี้ มีจำนวน 1,990 เครื่อง เพราะวานนี้ (22 พ.ค.) กระทรวงไอซีทีได้รับมาจำนวน 10 เครื่องแล้ว ไม่สามารถตรวจรับได้ เนื่องจากไม่เป็นไปตามสัญญาการส่งมอบจำนวน 2,000 เครื่อง นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการตรวจสอบสมบัติ หรือสเปกจำนวน 4 คน ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สเปกของแท็บเล็ตไม่ตรงกับสินค้าที่ได้มาหลายอย่าง อาทิ ไม่มีสายดิน หรือมีปลั๊กแค่ 2 ช่อง จากข้อตกลง 3 ช่องด้วย

“แท็บเล็ตที่มาลอตนี้ไม่ถึง 2 พันเครื่อง ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับไม่กล้าเซ็นรับ เพราะหากไม่ตรงตามสัญญาที่กำหนดก็อาจเกิดปัญหาตามมาได้ ส่วน 10 เครื่อง ที่มาก่อนหน้านี้ ไม่มีเอกสารตามศุลกากร ไม่รู้ว่านำเข้ามาทางไหน และคณะกรรมการตรวจรับไม่ได้ถ้าไม่มีใบรับประกัน และสเปกบางอย่างก็ไม่ตรงกับที่ระบุไป” แหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากการตรวจรับครั้งนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ คณะกรรมการตรวจรับสามารถระงับการเซ็นรับ และขนแท็บเล็ตทั้งหมดกลับไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ ขณะที่คณะกรรมการกำลังพยายามหาทางออกอย่างดีที่สุด
ด้าน รมว.ไอซีที กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถบอกรายละเอียดเรื่องดังกล่าวได้ เพราะต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่สามารถตอบแทนได้ ทั้งนี้ หากกระบวนการตรวจสอบพบว่าไม่ผ่าน ต้องชี้แจงว่าเพราะอะไร ขณะเดียวกันยังไม่สามารถยืนยันว่า ทีโออาร์ตรงกับสเปกครั้งนี้ด้วย ส่วนแท็บเล็ต 10 เครื่อง ที่กระทรวงไอซีทีนำมาก่อนนั้น ก็ได้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอยู่เช่นกัน ทั้งนี้ หากตรวจสอบว่าผ่านประมาณ 1 พันเครื่องแล้วจะแจ้งให้ทราบ