ทีโอที รับลูก รมว.ไอซีที เผยแผนธุรกิจใหม่ เร่งสร้างโครงข่ายเต็มตัว เร่งลงทุน 2 หมื่นสถานีฐาน หวังเปิดเอกชนร่วมทำตลาดทุกบริการ พร้อมยอมรับแผน 3จี เดิม ไปไม่รอด ขณะที่ขอเคลียร์ปัญหาภายในก่อนร่วมมือ กสท ทำเน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์...

นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานกรรมการ หรือบอร์ด บริษัท ทีโอที จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บอร์ดทีโอทีรับทราบนโยบายมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงข่าย หรือเน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์ เต็มตัว ของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีแล้ว โดยเบื้องต้นทีโอทีจะลงทุนโครงข่ายให้แล้วเสร็จก่อนเปิดให้เอกชนมาเช่าใช้บริการ จำนวน 2 หมื่นสถานีฐาน พร้อมยอมรับว่า แผนธุรกิจ 3จี เดิม ไม่สามารถดำเนินการได้อีกต่อไป ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการทำแผนใหม่ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสากิจ หรือ กนร.

“บอร์ดทีโอทีทราบมาตั้งแต่แรกแล้วว่า แผนธุรกิจ 3จี เดิม ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ รมว.ไอซีที อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างการเร่งทำแผนใหม่เพื่อเสนอให้ กนร.แต่ไม่ใช่วันที่ 18 พ.ค.นี้” ประธานบอร์ด ทีโอที กล่าว

สำหรับโครงการ 3จี เฟสแรก จำนวน 5,320 สถานี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ แต่จะลดการเช่าสถานีฐาน หรือโควไซต์จากเดิม 3-4 พันสถานีลง เหลือแต่ส่วนที่จำเป็น เพื่อประหยัดค่าเช่าที่ทีโอทีต้องมีจ่ายกว่า 1,000 ล้านบาทลง เพื่อนำเม็ดเงินดังกล่าวไปลงทุนส่วนที่เป็นทรัพย์สินของทีโอทีเอง

ขณะที่อีก 1.5 หมื่นสถานีในเฟส 2 นั้น ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเจรจากับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เพื่อนำสถานีฐาน 1.3 หมื่นแห่ง ที่ถือเป็นทรัพย์สินของทีโอทีตามสัญญาสัมปทานมาให้บริการในรูปแบบการใช้สถานีฐานร่วม สำหรับการประมูลใบอนุญาตให้บริการ 3จี ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.

นอกจากแผนการลงทุนโครงข่าย 2 หมื่นสถานีฐานแล้ว การเปิดกว้างให้เอกชนทำตลาดยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่จะเปลี่ยนจากรูปแบบเอ็มวีเอ็นโอ เป็นวีเอ็นโอ หรือการให้เอกชนช่วยทำตลาดในทุกธุรกิจที่ทีโอทีมีอยู่ ทั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ โทรศัพท์พื้นฐานที่ปัจจุบันมีเลขหมายเหลืออยู่ถึง 1 ล้านราย ส่วนความร่วมมือกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ในการเป็นเน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์นั้น ยินดีจะเดินหน้าต่อไป แต่ต้องจัดการกับปัญหาภายในองค์กรให้เรียบร้อยเสียก่อน

...