รมว.ไอซีทีเผย ครม.อนุมัติแท็บเล็ตกับจีน แบบเซ็นสัญญาราคา 81 ดอลลาร์ฯ ไม่พลิกโผ เซ็น "สโคป" ก่อนสิ้นเดือน มี.ค. ด้าน รมว.ศธ.แจงเหตุเปลี่ยนจากระบบจีทูจี เป็นแบบเอ็มโอยู ย้ำมั่นใจทันแจกเด็กเปิดเทอมแน่...
เมื่อวันที่ 20 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.สัญจร ที่ จ.ภูเก็ตว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติโครงการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพีซีแบบพกพา หรือ One Tablet Pc Per Child จากประเทศจีน แบบเซ็นสัญญา หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายแท็บเล็ต ชุดที่มีนายสุชาติ ธาดาธํารงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ. เป็นประธาน นำเสนอเข้า ครม.
ทั้งนี้ บริษัท เซิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในราคา 81 ดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 2,400 บาท ลดลงจากราคาที่กำหนดไว้เบื้องต้น ที่ 3,100 บาท นำส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเซ็นสัญญาร่วมกันได้ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ พร้อมทั้งมั่นใจว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเปิดเทอมเดือน พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การจัดหาแท็บเล็ตลอตแรกนั้นอยู่ที่ 860,000 เครื่อง งบประมาณเบื้องต้นอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท โดยเป็นงบประมาณจัดสรรของปี 2555
สำหรับสเปกของแท็บเล็ต เด็ก ป.1 ที่ภาครัฐกำหนดไว้คือ ขนาดจอแสดงผลขั้นต่ำ 7 นิ้ว ความละเอียดขั้นต่ำ 1024x768 Pixel หน่วยบันทึกข้อมูล ขนาดไม่น้อยกว่า 16 GB หน่วยประมวลผลกลางไม่ต่ำกว่า 1 GHz และเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Dual Core และหน่วยความจำหลักไม่น้อยกว่า 512 MB ระบบปฏิบัติการนั้นต้องออกแบบมาเฉพาะแท็บเล็ต หรือเป็นระบบ Android 3.2 ZHoneycomb) Linux Kernel 2.6.36 ขึ้นไป และรองรับ Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) Linux Kernel 3.0.1 ได้
ด้าน นายสุชาติ ธาราดำรงค์เวช รมว. ศึกษาธิการ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ชี้แจง กรณี มติ ครม. เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการทำข้อตกลงเอ็มโอยูระหว่างประเทศระหว่างไทย-จีน ในโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต แจกนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 จำนวน 860,000 เครื่อง แทนการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ว่า เนื่องจากทางรัฐบาลจีน แจ้งมาว่า กรณีที่รัฐบาลไทยจะซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บแล็ตกับบริษัทเอกชนของประเทศจีนนั้ัน รัฐบาลจีนคงไม่สามารถที่จะไปทำการรับรองแทนบริษัทเอกชนที่ได้รับคัดเลือกได้ เพราะจีนไม่เคยทำอย่างนี้จะไปการันตีแทนบริษัทเอกชนดังกล่าวไม่ได้ เพียงแต่รัฐบาลจีนสามารถจะช่วยติดตามและดูแลให้ได้เท่านั้น ส่วนตัวเห็นว่าหากจะให้ทางรัฐบาลจีนรับรองบริษัทเอกชนของตนที่มาทำการค้ากับต่างประเทศในรูปแบบการทำจีทูจีนั้น ที่ผ่านมาก็มีแต่กรณีการซื้อขายอาวุธระหว่างประเทศกันเท่านั้น ที่รัฐบาลจีนประกาศรับรองบริษัทขายอาวุธนั่นเพราะเป็นบริษัทของรัฐบาลโดยตรง
"ดังนั้น จึงต้องเป็นการทำเอ็มโอยู หรือทำข้อตกลงกัน ขณะที่กรณีที่เกรงกันว่า อาจดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนไม่ทันนั้น เมื่อ ครม. มีมติออกมาแล้ว จากนี้ไปก็เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา สามารถที่จะดำเนินการจัดซื้อได้ทันในช่วงเดือน พ.ค. อย่างแน่นอน" นายสุชาติ กล่าว
ขณะที่ปัญหาการบรรจุสาขาวิชาลงในเครื่องแท็บเล็ตนั้น นายสุชาติ ยังเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นมารองรับ และยืนยันว่าจะบรรจุเนื้อหาลงไปใน 8 สาขาวิชา ไม่ใช่ 5 สาขาวิชา อย่างที่มีข่าวก่อนหน้า.
...