แข้ง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พร้อมเต็มอัตราศึกในการลงสนามเตะรอบรองชนะเลิศศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ นัดที่ 2 กับ ทีมเสือเหลืองมาเลเซีย ค่ำวันนี้ โดย “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ ยืนยัน “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ฟิตเกินร้อยพร้อมลงกะซวกตาข่ายพาทีมไทยเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ขณะที่แฟนบอลเดือดซื้อตั๋วไม่ทันเลยระบายอารมณ์ด้วยการระดมปาไข่ใส่สมาคมฟุตบอลฯร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาคุมสถานการณ์ก่อนจะมีเรื่องบานปลาย ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณถ่ายทอดสดให้แฟนบอลทั่วประเทศได้ลุ้นเชียร์ตั้งแต่ 19.00 น.

ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012” รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่ขุนพลนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย กำลังจะลงสนาม โม่แข้งกับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย แชมป์เก่าในค่ำวันนี้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสดให้ชมทั่วประเทศ โดยเกมแรกเสมอกันมา 1-1 ซึ่งเกมนี้ ทีมไทยต้องการเพียงผลเสมอ 0-0 หรือคว้าชัยชนะก็จะเข้ารอบชิงชนะเลิศทันที

โดย “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เกมนี้ลูกทีมชาติไทยทุกคนพร้อมเต็มที่ โดยเราจะเปิดเกมรุกเข้าใส่มาเลเซีย และจะเล่นเพื่อคว้าชัยชนะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้เพื่อตอบสนองแรงศรัทธาของแฟนบอล ส่วนเรื่องที่ตัวเองไม่ได้คุมทีมข้างสนามเพราะติดโทษแบนจากเอเอฟเอฟ จากเกมที่แล้วนั้น ก็ไม่ได้กังวลใจแต่อย่างใด เพราะตนเชื่อมั่นในทีมงานของเราว่าจะทำหน้าที่แทนได้ดี ส่วนตนจะไปอยู่จุดใดจุดหนึ่งของสนามที่มองเห็นเกมได้ชัดเจน

ขณะที่เรื่องของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไม่ได้ลงฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันอังคารนั้น “วินนี่” ยืนยันว่า ไม่ใช่ปัญหาเพราะเจ้าตัวฟิตสมบูรณ์ดีทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง

...

แฟนเดือด!! ตั๋ว'ไทย-มาเลย์'หมด รุมประท้วงปาไข่สมาคม

สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนามในแมตช์นี้ ในระบบ 4-5-1 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์, แบ็กขวา ปิยพล บรรเทา, แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ชลทิตย์ จันทคาม กับ นิเวส ศิริ–วงค์ กองกลางตัวตัดเกม อดุล หละโสะ กับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ปีกขวา จักรพันธ์ พรใส, ปีกซ้าย อนุชา กิจพงษ์ศรี ตัวรุก ดัสกร ทองเหลา และกองหน้าตัวเป้า ธีรศิลป์ แดงดา

ทางด้าน ราจาโกปาล กุนซือทีมชาติมาเลเซีย ออกมาบอกให้ลูกทีมของเขาลืมเรื่องปัญหาสนามฝึกซ้อมในประเทศไทยและกลับมามุ่งมั่นกับเกมนี้ โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ตั้งแต่เดินทางมาถึงเราได้รับความสะดวกสบายทุกอย่างยกเว้นเรื่องสนามฝึกซ้อมที่เป็นเรื่องสำคัญ แต่เราจะลืมเรื่องตรงนี้ไปและให้นักเตะเล่นเพื่อชนะเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

ขณะเดียวกัน ในส่วนของบัตรเข้าชมที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำการเปิดขายลอตสุดท้ายจำนวน 1,000 ใบ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า เวลาเพียงไม่ถึง 40 นาที บัตรได้ถูกจำหน่ายให้กับแฟนบอลที่มารอต่อคิวซื้อจนหมดเกลี้ยง ทำให้แฟนบอลที่ไม่ได้บัตรกว่า 200 คน เกิดความไม่พอใจ จึงได้ประท้วงหน้าสมาคมฟุตบอลฯเป็นเวลานานกว่า 20 นาที ก่อนสุดท้ายจะหมดความอดทนก่อนระดมขว้างปาไข่ไก่ใส่ป้ายสมาคมฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจจาก สน.ปทุมวัน เข้ามาควบคุมสถานการณ์

นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า หลังจากบัตรเข้าชมล่วงหน้าถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้พยายามหาบัตรจากผู้สนับสนุนรายต่างๆ มาได้อีกราว 1,000 ใบ โดยเปิดขายให้แฟนบอลคนละ 5 ใบ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ปรากฏว่าขายหมดลงภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ทำให้แฟนบอลที่ผิดหวังเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งตนในฐานะนายกสมาคมฯขอขอบคุณแฟนบอลทุกท่านที่มีความรักและความศรัทธาต่อทีมฟุตบอลชาติไทย และมีความต้องการเข้าไปให้กำลังใจนักเตะไทยในสนามแข่งขัน แต่เนื่องด้วยความจุของสนามศุภชลาศัย จุผู้ชมได้เพียง 19,000 คน สมาคมฟุตบอลฯ ได้ให้ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จำหน่ายบัตรไป 17,000 ใบ แล้วได้ติดต่อขอแบ่งจากผู้สนับสนุนรายต่างๆ กลับมาได้อีก 1,000 ใบ ตอนนี้บัตรไม่เหลือแล้ว เดิมทีสมาคมฟุตบอลฯ กำหนดไว้ตั้งแต่รอบแรก จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทยจะไปแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งมีความจุผู้ชมได้ 49,700 คน รองรับแฟนบอลได้ มากกว่าสนามศุภชลาศัยอีก 2 เท่าครึ่ง แต่เนื่องจากช่วงนี้ สนามราชมังคลากีฬาสถานไม่ว่าง เพราะติดกิจกรรมแข่งรถยนต์ระดับโลก ที่จัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ในรอบชิงชนะเลิศ หากไม่มีปัญหาติดขัดจริงๆ ทีมชาติไทยจะกลับไปแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถานตามเดิม

ด้าน “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ  ก่อสินค้า  เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกมากล่าวว่า “ตอนนี้ได้มีการติดต่อกับทางกรมพลศึกษาในการขอใช้สนามเทพหัสดินซึ่งก็คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเตรียมที่จะนำจอยักษ์หรือจ่อเอลอีดี เข้ามาติดเพื่อลองรับแฟนบอลที่มากันล้นสนาม โดยจะมีการเชื่อมต่อกับระบบดาวเทียมถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 7 ซึ่งก็จะให้แฟนบอลไปนั่งชมบนอัฒจันทร์ได้เลยคาดว่าจะจุแฟนบอลได้ถึง 8,000 คน”

ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 รอบรองชนะเลิศ “นัดที่ 2” ที่สนามจาลัล บาซา ประเทศสิงคโปร์ เมื่อค่ำวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า เป็นเจ้าถิ่น ทีมชาติสิงคโปร์ เฉือนชนะฟิลิปปินส์ หวุดหวิด 1-0 รวมผล 2 นัด สิงคโปร์ ชนะ 1-0 ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก โดยรอบชิงจะมีขึ้น 2 นัดเหย้า-เยือน ในวันที่ 19 และ 22 ธ.ค.นี้