ภีมเดช อมรสุคนธ์ หรือ ทนายอ๊อด ตัวแทนจากสโมสรจังหวัดระยอง ลุกขึ้นโจมตี นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ กลางที่ประชุมอย่างดุเดือด ชี้ทำผิดกฎจัดประชุมล่าช้าเกินกำหนด พร้อมจวกไร้แผนงานในอนาคต แถมทำเผด็จการชิ่งปิดประชุมหนีทันที เตรียมล่ารายชื่อถอดถอนจากตำแหน่ง...
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการประชุมใหญ่ประจำปี พ.ศ.2554 โดยมีสภากรรมการเข้าร่วมประชุม 12 จาก 19 คน และสโมสรสมาชิก 77 จาก 154 สโมสร พร้อมด้วยผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าร่วมรับฟัง
นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เริ่มต้นกล่าวก่อนเข้าสู่วาระประชุมทั้งเรื่องการส่งคลับไลเซนซิ่งของสโมสรสมาชิกในไทยให้กับเอเอฟซีโดยยืนยันว่าเวลานี้ยังไม่มีการบังคับใช้และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียได้ชะลอเวลาในการบังคับใช้คลับไลเซ่นซิ่งอีกอย่างน้อย 1-2 ปี ส่วนการปรับเปลี่ยนธรรมนูญปกครองของสมาคมฟุตบอลฯนั้นจะยังคงใช้ฉบับเดิม (ปี พ.ศ. 2546) ต่อไปเพราะ ฟีฟ่า ไม่ได้บังคับให้ปรับเปลี่ยนตามหลักของสากลในเวลานี้
ส่วนวาระในการประชุมนั้น ประมุขลูกหนังไทย เผยว่าในปี 2554 สมาคมฟุตบอลมีกำไรราว 1 ล้านบาทขณะที่ผลการดำเนินงานไม่ถือว่าล้มเหลวแม้ทีมฟุตบอลชายจะตกรอบซีเกมส์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันแต่ทีมชาติชุดอื่นๆล้วนคว้าแชมป์มาครองได้ทั้งหมด ส่วนประเด็น บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ถอนตัวจากการดูแลสิทธิประโยชน์ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก นายวรวีร์ กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกับ บ.สยามสปอร์ต ให้กลับเข้ามาทำหน้าที่อีกครั้ง เพื่อร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลเมืองไทยต่อไป
หลังการแถลงครบทุกวาระ นายวรวีร์ ได้เปิดโอกาสให้สโมสรสมาชิกได้ซักถาม โดย ภีมเดช อมรสุคนธ์ หรือ ทนายอ๊อด ตัวแทนจากสโมสรจังหวัดระยอง ได้ลุกขึ้นมากล่าวโจมตีการประชุมครั้งนี้ของสมาคมฟุตบอลอย่างดุเดือดโดยบอกว่าสภากรรมการได้ทำผิดข้อบังคับลักษณะปกครองของสมาคมฟุตบอล ปี พ.ศ. 2546 ที่กำหนดให้มีการจัดประชุมใหญ่ประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งโดยมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินเดือน มี.ค.ในปีถัดไป นอกจากนี้ ยังไม่มีการเสนอแผนกับที่ประชุมว่าในปีถัดไป สมาคมฟุตบอลฯ จะทำอะไรบ้าง ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารงาน
...

หลังจากนาย ภีมเดช กล่าวเสร็จสิ้น นายวรวีร์ แสดงสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนตอบข้อสงสัยของนายภีมเดช ว่า ในเรื่องระยะเวลาการประชุมนั้นสภากรรมการมีสิทธิ์ที่จะเลื่อนได้ แต่ต้องขอขอบคุณสมาชิกสำหรับข้อเสนอแนะเราจะนำกลับไปดำเนินการก่อนจะปิดประชุมทันที เพื่อปิดโอกาสสมาชิกสโมสรอื่นซักถาม
จากนั้น นายภีมเดช ได้เดินมาที่หน้าห้องประชุมและเขียนข้อความบนกระดาษขาวว่า “เผด็จการ” โดยชูขึ้นต่อหน้าสื่อมวลชนพร้อมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “สภากรรมการไม่มีสิทธิ์เลื่อนการประชุมใหญ่ที่มีกรอบระยะเวลากำหนดไว้ตามข้อบังคับ นี่คือการผิดธรรมนูญ พอผมพูดจบ เขารีบปิดประชุมทันที แสดงถึงความเผด็จการ ผมไม่รู้ว่าท่านนายกกลัวอะไร นอกจากนี้ ไม่ว่าหน่วยงานใดก็จะมีการเสนอแผนงานล่วงหน้าในที่ประชุมใหญ่ทั้งนั้น แต่สมาคมฟุตบอลของไทยไม่มี”
“ผมจะทำหนังสือถึงกกท.ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด รวมไปถึงการล่ารายชื่อสโมสรสมาชิกเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อยื่นถอดถอนนายวรวีร์ ออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ" ตัวแทนจากสโมสรจังหวัดระยอง กล่าวทิ้งท้าย.