ในวันอาทิตย์นี้ สโมสร "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุดในอังกฤษอย่างเป็นทางการ ที่ 19 สมัย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" ในฐานะแฟนผี จึงขอสาธยายลำดับความสำเร็จ ของเหล่าพลพรรค "เรดเดวิลส์" ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลังจากก่อตั้งสโมสรมานานร้อยกว่าปี มาให้เพื่อนพ้องน้องพี่ได้ชื่นชมกัน...
1908

ผู้จัดการทีม : เออร์เนส แมงนอลล์
สตาร์ของทีม : แซนดี เทิร์นบูลล์ กองหน้าชาวสกอตติช ซึ่งย้ายจากแมนฯซิตี้ มาเล่นให้กับอริร่วมเมืองอย่างแมนฯยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม เขาเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 33 ปี ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
อันดับห่างคะแนน : 9 แต้ม (อันดับ 2 แอสตัน วิลลา)
1911

...
ผู้จัดการทีม : เออร์เนส แมงนอลล์
สตาร์ของทีม : อีนอช เวสต์ กองหน้าซึ่งยิงไป 19 ลูก จากการลงเล่น 35 เกม หลังย้ายมาจาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แต่เขาและ เทิร์นบูลล์ ก็ถูกพบว่ากระทำความผิดล้มบอล ในปี 1915
อันดับห่างคะแนน : 1 แต้ม (อันดับ 2 แอสตัน วิลลา)
1952

ผู้จัดการทีม : แมตต์ บัสบี
สตาร์ของทีม : แจ๊ค รอว์ลีย์ กองหน้าชาวไอร์แลนด์เหนือ ย้ายจากทีม บอร์นมัธ ซึ่งเขาไม่เคยอยู่ในทีมชุดแรกเลย แต่ที่แมนฯยู เขากลับยิงประตูถล่มทลาย และปัจจุบันเป็น 1 ใน 3 นักเตะประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ยิงได้มากกว่า 200 ประตู กับสโมสร เคียงข้างกับ บ็อบบี ชาร์ลตัน และ เดนิส ลอว์
อันดับห่างคะแนน :4 แต้ม (สเปอร์ส)
1956

ผู้จัดการทีม : แมตต์ บัสบี
สตาร์ของทีม : ทอมมี เทย์เลอร์ กองหน้าตัวเป้าซึ่งได้รับความสนใจจาก อินเตอร์ มิลาน ยื่นข้อเสนอซื้อตัวสูงถึง 65,000 ปอนด์ ซึ่อถือว่ามากในสมัยนั้น ต้องจบชีวิตด้วยเพียง 26 ปี จากโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่มิวนิก ปี 1958
อันดับห่างคะแนน :11 แต้ม (แบล็คพูล)
1957

ผู้จัดการทีม : แมตต์ บัสบี
สตาร์ของทีม : บิลลี ฟีแลน ดาวเตะพรสวรรค์สูงชาวไอริช ซึ่งซัดไป 52 ประตู จากการลงเล่นให้ แมนฯยู 92 นัด เป็นนักบอลอีกหนึ่งราย ที่ต้องจากโลกนี้ไปก่อนเวลาอันสมควร จากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่ มิวนิก เช่นกัน โดยเขาถือเป็นนักเตะที่มีทักษะการเลี้ยงบอลได้อย่างมหัศจรรรย์
อันดับห่างคะแนน : 8 แต้ม (สเปอร์ส)
1965

...
ผู้จัดการทีม : แมตต์ บัสบี
สตาร์ของทีม : เดนิส ลอว์ ได้รับการยกย่องเป็น "เดอะคิง" ระหว่างค้าแข้งในโอลด์แทรฟเฟิร์ด ตลอดระยะเวลา 13 ปี แม้ว่าประตูสุดท้ายของเขากับแมนฯซิตี้ จะทำให้แมนฯยู ตกชั้นในปี 1974 ก็ตาม
อันดับห่างคะแนน : แต้มเท่ากับ ลีดส์ แต่ประตูได้เสียดีกว่า
1967

ผู้จัดการทีม : แมตต์ บัสบี
สตาร์ของทีม : จอร์จ เบสต์ ยอดศูนย์หน้าพรสวรรค์สูง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของเกาะอังกฤษ นำทัพแมนฯยู คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ (ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก) ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรและของทีมจากอังกฤษ ในปีถัดมา
อันดับห่างคะแนน : 4 แต้ม (นอตติงแฮม ฟอเรสต์)
1993

...
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : มาร์ค ฮิวจ์ส ซึ่งเฟอร์กี้ บรรยายว่าเขาคือ ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเกมใหญ่ๆ เท่าที่ตนเองรู้จัก และฮิวจ์ส ได้เข้ามาประสานงานกับ เอริค คันโตนา ในเกมรุกของแมนฯยู ได้อย่างเข้าขารู้ใจ
อันดับห่างคะแนน : 10 แต้ม (แอสตัน วิลลา )
1994

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : เอริค คันโตนา ดาวเตะมาดเจ้าพ่อชาวฝรั่งเศส ย้ายจากลีดส์ มาช่วยนำทัพให้ แมนฯยู คว้าแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ ภายใต้ชื่อใหม่ "พรีเมียร์ลีก" เป็นปีแรกได้สำเร็จ จากนั้นอีกหนึ่งปี เขาก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกกับ เอฟเอคัพ ได้ติดต่อเป็นปีที่สอง
อันดับห่างคะแนน : 10 แต้ม (แบล็คเบิร์น)
1996

...
ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : เอริค คันโตนา ยังคงเป็นแกนหลักให้กับแมนฯยู ซึ่งผสมผสานนักเตะดาวรุ่ง ในแก๊งเด็กผี อะคาเดมี และเขาคว้ารางวัลนักฟุตบอลอาชีพยอดเยี่ยมแห่งปีของเอฟเอ ในปีนี้ด้วย
อันดับห่างคะแนน : 4 แต้ม (นิวคาสเซิล)
1997

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : เดวิด เบคแคม เด็กหนุ่มหน้าหล่อ แจ้งเกิดจากการยิงประตูจากครึ่งสนาม เข้าประตูไปอย่างเหลือเชื่อ ในเกมเปิดสนามของฤดูกาล และกลายเป็นนักฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดไปทั่วโลกในปัจจุบันนี้
อันดับห่างคะแนน : 7 แต้ม (นิวคาสเซิล)
1999

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : ดไวท์ ยอร์ก ดาวยิงผิวสีชาวตรินิแดดฯ ถือเป็นกองหน้าที่ยิงได้มากที่สุดจากบรรดา 4 คน ในยุคนั้น ซึ่งมีระบบการเล่นแบบโรเตชั่นจนทำให้แมนฯยู สร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเปิลแชมป์มาครองได้สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
อันดับห่างคะแนน : 1 แต้ม (อาร์เซนอล)
2000

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : รอย คีน มิดฟิลด์พันธุ์ดุชาวไอริช เป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมายของแมนฯยู จากบทบาทจอมทัพที่ช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจบรรดาเพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังมีทักษะและแทคนิกการเล่นในระดับเวิลด์คลาสอีกด้วย
อันดับห่างคะแนน : 18 แต้ม (อาร์เซนอล)
2001

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : เท็ดดี เชอร์ริงแฮม กองหน้าวัยเก๋าชาวอังกฤษ โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ ด้วยวัย 35 ปี แทนที่ของ ยอร์ก และด้วยผลงานดังกล่าว ก็ทำให้เขายังคว้าแชมป์นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองประดับบารมีช่วงปลาย อาชีพค้าแข้ง
อันดับห่างคะแนน : 10 แต้ม (อาร์เซนอล)
2003

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : รุด ฟาน นิสเตลรอย ดาวยิงชาวดัตช์ ย้ายมาร่วมทีม "ปิศาจแดง" ด้วยค่าตัว 18.5 ล้านปอนด์ ในปี 2001 และเขายิงไป 23 ประตู ในฤดูกาลแรกของตนเองกับยูไนเต็ด หลังจากนั้น ก็ยิงไปอีก 25 ประตู และช่วยให้ทีมทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกกลับคืนมาได้สำเร็จ
อันดับห่างคะแนน : 10 แต้ม (แบล็คเบิร์น)
2007

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : คริสเตียโน โรนัลโด ปีกดาวรุ่งโปรตุเกส ย้ายมาอยู่กับทีมด้วยวัยเพียง 18ปี แต่ในการค้าแข้งฤดูกาลที่ 3 ของเขา เขาก็พิสูจน์ความเยี่ยมยอดในฝีเท้ากระหึ่มเกาะอังกฤษ ในปี 2006-07 และทำให้เขาได้รางวัลนักบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเอฟเอ ร่วมกับ แอนดี เกรย์ ในฤดูกาลนั้น
อันดับห่างคะแนน : 6 แต้ม (เชลซี)
2008

ผู้จัดการทีม : อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : คริสเตียโน โรนัลโด กลายเป็นหนึ่งในนักบอลที่ดีที่สุดของโลก โดยเขายิงไป 31 ประตู จากเกมลีก 34 นัด
อันดับห่างคะแนน : 2 แต้ม (เชลซี)
2009

ผู้จัดการทีม : เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : ไรอัน กิกส์ ปีกจอมเก๋าชาวเวลส์ ควรคู่แก่การยกย่อง แม้ว่า เนมันยา วีดิช ได้รับการโหวตเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของ แมนฯยู ในปีนั้น แต่ คงไม่เทียบเท่ากับการที่ กิกส์ คว้ารางวัล นักกีฬายอดเยี่ยมแห่งปีของ บีบีซี สถานีข่าวชื่อดังของอังกฤษ
อันดับห่างคะแนน : 4 แต้ม (ลิเวอร์พูล)
2011

ผู้จัดการทีม : เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สตาร์ของทีม : เนมันยา วีดิช และคู่หู เซนเตอร์ฮาล์ฟ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้รับการยอมรับว่า เป็นคู่กองหลังที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนฯยู แต่คงไม่มีใครปฏิเสธหากเราจะมอบตำแหน่งนี้ให้กับ "เจ้าหนูชิชาริโต" ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ที่กระหน่ำประตูถล่มทลาย เพียงฤดูกาลแรกที่ย้ายมาร่วมทีม
อันดับห่างคะแนน : (ยังไม่ยืนยัน)
ส่วน บรรยากาศจะสนุกสุดมันส์ เมื่อ 18 ครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ คงต้องติดตามกันเอาเองในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งแมนฯยู จะเล่นในบ้านตัวเอง พบกับ แบล็คพูล ที่กำลังดิ้นหนีตาย