กกท.ยัน สมาคมฟุตบอลฯ  นำกฎฟีฟ่ามาเปลี่ยนแนวทางเลือกตั้งได้ แต่ต้องผ่านขั้นตอนและใช้เวลานาน จากการลงมติสมาชิกในการประชุมสามัญใหญ่ สู่ กกท. ก่อนส่งต่อไปยังมหาดไทย ขณะที่ กมธ.กีฬา ส.ว.เชื่อฟีฟ่าไม่บังคับกับกฎระเบียบดังกล่าว เหตุเป็นเรื่องภายในประเทศ พร้อมสะกิด กกท. ร่างต้นแบบการรับสมัครสมาชิก ให้คำนึงถึงสิทธิของสโมสร และสิทธิมนุษยชน เป็นหลัก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่อาคาร วุฒิสภา นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา พร้อมคณะ กมธ.กีฬา ส.ว.ได้ประชุมเพื่อรับฟังเจ้าหน้าที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ชี้แจง กรณีการพิจารณากฎระเบียบ ข้อบังคับ และขั้นตอนในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฯ และ กก.สมาคมกีฬาฯ

นางนฤมลเผยภายหลังการรับฟังว่า สำหรับเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในช่วงปลายเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากผู้บริหารสมาคมฟุตบอลชุดปัจจุบันกำลังจะหมดวาระลง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และสังคมจะได้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล เราจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงมาให้ข้อมูล ซึ่งพบว่า สมาคมกีฬาของไทยมีทั้งสิ้น 68 สมาคม แบ่งการเลือกตั้งสมาคมออกเป็น 3 ระบบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเลือกนายกฯโดยตรง และนายกฯจะดำเนินการเลือกกรรมการบริหารเอง เพื่อความสะดวกการดำเนินกิจการของสมาคม

ส่วนที่นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ โดยให้ยึดหลักของทางฟีฟ่านั้น เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า สามารถทำได้แต่ต้องมีการเรียกสมาชิกทั้งหมดเพื่อประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อให้สมาชิกลงมติเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยส่งไปยัง กกท. พิจารณาว่ากรณีดังกล่าวขัดต่อระเบียบ กกท. และขัดต่อ พ.ร.บ.การกีฬาหรือไม่ หลังจากนั้นต้องส่งไปให้กระทรวงมหาดไทยเซ็นรับรองถึงจะดำเนินการได้ตาม ประสงค์ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องพิจารณากันอีกนานพอสมควร นอกจากนี้ตนยังทราบมาว่า การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ สมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติไม่ได้บังคับหรือยึดติดกับกฎระเบียบดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศ และเป็นสิทธิของแต่ละประเทศจะดำเนินการ

ประธาน กมธ.กีฬา ส.ว. กล่าวอีกว่า รู้สึกเป็นห่วงเรื่องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม โดยเฉพาะเรื่องสมาชิกบุคคล ที่มีสิทธิเทียบเท่ากับตัวสโมสร จึงได้ขอร้องให้ทาง กกท.ที่กำลังจะมีการปรับแก้ไขร่างต้นแบบการรับสมัครสมาชิก โดยให้คำนึงถึงสิทธิของสโมสรเป็นหลัก และให้คำนึงถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยไม่ได้ตัดสิทธิ์การสมัครเป็นสมาชิกสมาคมแบบบุคคล แต่ให้ปรับเปลี่ยนไม่ให้สมาชิกรายบุคคลได้สิทธิเลือกตั้งนายกฯ เพราะทุกฝ่ายรู้ว่าบุคคลที่ไม่หวังดีกับการกีฬาของประเทศไทย นำช่องว่างดังกล่าวไปแสวงหาผลประโยชน์ จึงกำชับ กกท.ให้ไปหามาตรการปิดช่องว่างดังกล่าวให้เรียบร้อยก่อนมีผลบังคับใช้ใน อนาคต.

...