คณะแพทย์-พยาบาล จ.หนองคาย รวมใจแต่งชุดดำ ออกแถลงการณ์คัดค้านร่างพ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ระบุไม่เป็นธรรม และกดดันการทำงานของแพทย์ คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.ค. พญ.อภิญญา เกรียงบูรพา ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลหนองคาย พญ.ใจทิพย์ รุจนเวชช์ ทพ.สิทธิโชค รัตนสุวรรณ พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลหนองคาย ร่วมแถลงคัดค้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข โดยเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่วนใหญ่พร้อมใจกันแต่งชุดดำมาร่วมงาน เพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยที่จะมีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นกฎหมายบังคับใช้ โดยชี้แจงให้เห็นถึงปัญหาที่จะตามมาหาก พ.ร.บ.นี้ได้รับการรับรอง

พญ.อภิญญา กล่าวว่า เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข สาระสำคัญไม่สอดคล้องกับหลักการและเหตุผล หากมีการประกาศบังคับใช้ จะไม่สามารถลดความขัดแข้งในระบบบริการสาธารณสุขได้จริง แต่จะส่งผลให้เกิดความหวาดระแวงและกดดันในการให้บริการรักษาผู้ป่วย ทั้งที่แพทย์ทุ่มเทรักษาผู้ป่วยจนสุดความสามารถ แต่กลับต้องห่วงกังวลถึงความพึงพอใจของผู้ป่วยว่าจะมีการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและทางอาญาในภายหลังหรือไม่ อีกทั้งคณะกรรมการที่จะมีการจัดตั้งขึ้นทั้ง 21 คนนั้น ไม่มีตัวแทนหรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ การตัดสินถูกผิดจะพิจารณาจากเสียงข้างมาก ไม่ได้ยึดหลักทางวิชาการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่พึงกระทำ 

นอกจากนี้ยังเป็นการซ้ำเติมภาวะขาดทุนกับโรงพยาบาลของรัฐ ที่ขาดทุนไปแล้ว 505 แห่ง ส่งผลกระทบถึงคุณภาพการบริการประชาชนส่วนใหญ่ เนื่องจากต้องส่งเสริมสมทบเข้ากองทุน ทำให้โรงพยาบาลไม่มีเงินซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่ดีมารักษาผู้ป่วย กระทบต่องบประมาณของประเทศในระยะยาว ประชาชนผู้เจ็บป่วยที่มารับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชน จะต้องรับภาระค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนจะถูกบังคับจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนตาม พ.ร.บ.นี้ ทำให้โรงพยาบาลเอกชนมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ต้องมาเรียกเก็บจากผู้ป่วย รวมถึงยังเป็นการทำลายคลินิก ร้านขายยาขนาดเล็กที่ให้การรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ อาจต้องปิดกิจการลง เพราะถูกบังคับให้ร่วมจ่ายสมทบเข้ากองทุน ทั้งที่ต้องเสียภาษีให้รัฐอยู่แล้ว

...


ด้าน พญ.ใจทิพย์ กล่าวว่า แถลงการณ์ของสมาพันธ์แพทย์ และเครือข่ายสหวิชาชีพทางการแพทย์ เห็นว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขนั้น ไม่มีความเหมาะสม เพราะมีมาตรา 41 ใน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ เป็นหลักที่ดีในการให้และรับบริการอยู่แล้ว จึงควรพิจารณาขยายฐานตามหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมสิทธิประกันสังคมและข้าราชการ เพิ่มเพดานจ่ายมากขึ้น ใช้กลไกเดิมในการพิจารณาเงินชดเชย ซึ่งรวดเร็วและเป็นธรรม เมื่อมีการประนีประนอมรับเงินชดเชย ควรยุติคดีแพ่งและอาญา ถ้าไม่พอใจวงเงินควรสละสิทธิ์และฟ้องศาล รวมถึงองค์ประกอบของคณะกรรมการทุกคณะ ควรมีสัดส่วนที่เหมาะสม ทั้งตัวแทนภาครัฐ ผู้รักษา ผู้ป่วย และควรให้ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิชาชีพเป็นผู้ตัดสินมาตรฐานการรักษาผู้ป่วย ดังนั้นองค์กรแพทย์โรงพยาบาลหนองคาย ต้องการเรียกร้องให้ถอนร่าง พ.ร.บ.นี้ออกจากสภาผู้แทนราษฎร หรือให้มีการทำประชาพิจารณ์ให้เกิดความรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเสียก่อน

"แม้ว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายจะดี แต่สาระและเนื้อหากลับขัดแย้งกัน จะมีเพียงประชาชนส่วนน้อยที่ได้รับประโยชน์เท่านั้น"

พญ.ใจทิพย์ กล่าวด้วยว่า หากยังเพิกเฉยต่อการคัดค้านนี้ ก็จะมีการพิจารณามาตรการดำเนินการคัดค้านในรูปแบบต่อไป.