โดยเขื่อนศรีนครินทร์ ต้องปล่อยน้ำเพิ่มเป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม.แต่เขื่อนวชิราลงกรณปล่อยลดลงเหลือแค่ 3ล้านลบ.เมตร/วัน ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองลดผิดปกติ...
จากกรณีที่สมาคมชาวแพชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรีได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำแควใหญ่กับแม่น้ำแควน้อยมีระดับน้ำลดลงจน เกิดผลกระทบต่อแพล่องและธุรกิจทางน้ำ
นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าววันนี้ (24 ก.ค.) เกี่ยวกับสถานการณ์การระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์กับเขื่อนวชิ ราลงกรณว่า ในส่วนทางเขื่อนศรีนครินทร์มีปริมาณน้ำดิบจำนวนมากพอที่จะสนองตอบการบริหาร จัดการน้ำของกรมชลประทานที่จะให้เพิ่มการปล่อยน้ำที่มีการวางแผนไว้ก่อนล่วง หน้า โดยปริมาณน้ำดิบสามารถเข้าไปเสริมระบบสำรองน้ำดิบของกปน.ได้อย่างพอเพียง
ผช.เขื่อนศรีนครินทร์- ฝ่ายบริหาร กฟผ.กล่าวต่อว่า แต่เดิมในช่วงเดือน มิ.ย.2553ทาง เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีการปล่อยน้ำตามปกติรวมวันละ 39 ล้านลบ.เมตร โดยเขื่อนศรีฯระบายน้ำวันละ 20ล้าน ลบ.เมตร ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ ระบายวันละ 19 ล้าน ลบ.เมตร โดยปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งสองแห่งยังมีปริมาณมากพอเพียงสำหรับการผลิตไฟฟ้า และใช้ในการอุปโภคบริโภครวมถึงช่วยในการทำการเกษตรได้ตลอดช่วงฤดูแล้ง
นายวีรชัย กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากขณะนี้เขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลดระดับลงมาก ดังนั้นจึงสามารถปล่อยน้ำได้แค่วันละ 3 ล้าน ลบ.เมตรเท่านั้น ส่วนทางเขื่อนศรีนครินทร์ในช่วงเดือน ก.ค.2553 จะต้องปล่อยน้ำแค่ 15 ล้านลบ.เมตร ต่อวัน จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่และแม่น้ำแควน้อยรวมถึงแม่น้ำแม่กลองลดลง ได้ แต่เมื่อได้รับการแจ้งเรื่องผลกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวล่องแพ ดังนั้นทางเขื่อนศรีครินทร์จึงปรับแผนการระบายน้ำเพิ่มเป็น 20 ล้าน ลบ.เมตรเหมือนเดิม จึงทำให้สถานการณ์การลดลงของระดับน้ำเป็นปกติแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแม่กลองสูงขึ้นเกือบเท่าระดับปกติ ทำให้เรือแพที่เกยตื้นอยู่สามารถ นำมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาเที่ยวล่องแพเป็นจำนวนมากตามปกติ
...