สาวเมืองคอนพาลูกชาย5ขวบเข้ากรุงกราบศพพ่อ อ้างเป็น "เมีย-ลูก" ของ "เสธ.แดง" ลั่นพร้อมตรวจดีเอ็นเอ ไม่คิดเรียกร้องอะไร แค่ต้องการให้ลูกอยู่ในสังคมได้อย่างมีเกียรติ...

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเดินทางไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปิ่นเกล้า เพื่อขอพบ และพูดคุยกับ น.ส.ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช หลังทราบข้อมูลว่า น.ส.ลัดดาวัลย์ อ้างว่าเป็นภรรยาอีกคนหนึ่ง ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยเธออ้างว่า ได้คบหากับ เสธ.แดง มานานจนมีบุตรชายด้วยกัน แต่ยังไม่เคยมีใครนำเรื่องนี้มาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินไปถึงที่ร้านตามนัดหมายก็พบ น.ส.ลัดดาวัลย์ พร้อมบุตรชายทราบชื่อคือ ด.ช.นักรบ สวัสดิผล หรือ "น้องแดงน้อย"  อายุ 5 ขวบ มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว จากการสอบถาม น.ส.ลัดดาวัลย์ เล่าให้ฟังว่า รู้จักกับ เสธ.แดง ตั้งแต่ปี 2546 ช่วงนั้นตนทำงานเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง มีภารกิจที่ต้องติดตามข่าวสารของ เสธ.แดง จึงมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ และติดต่อกันเรื่อยมา ทำให้ตนทราบว่า เสธ.แดง เป็นพ่อหม้ายมีลูกติด ส่วนภรรยาเสียชีวิตไปแล้วจึงตัดสินใจคบหากระทั่งเกิดความรู้สึกที่ดี และมีสัมพันธ์กัน หลังจากที่รู้จักกันได้ประมาณ 1 ปี

...


น.ส.ลัดดาวัลย์ เล่าต่อว่า จากนั้นเมื่อปี 2547 ตนได้ตั้งครรภ์กับ เสธ.แดง ซึ่งทาง เสธ.แดง ก็แสดงความรับผิดชอบมาตลอด จนคลอดลูกออกมาเป็นบุตรชาย ทำให้ เสธ.แดง ดีใจมาก โดยตั้งชื่อให้ว่า ด.ช.นักรบ และยินยอมให้ใช้นามสกุล สวัสดิผล พร้อมทั้งยังเป็นผู้ตั้งชื่อเล่นให้ด้วยว่า น้องแดงน้อย ซึ่งในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ตนพาลูกกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วน เสธ.แดง ก็คอยดูแลส่งเสีย และมักหาเวลานัดพบตนกับลูกอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กระทั่งปัจจุบันนี้บุตรชายเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เสธ.แดง ก็มักจะพาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์ ไปขี่ม้า และพาไปดูรถถัง โดยความฝันของ เสธ.แดง คืออยากให้ลูกเป็นนายทหาร และเป็นนักรบที่เก่งให้ได้เหมือนอย่างพ่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่าพอทราบข่าวการเสียชีวิตของ เสธ.แดง แล้วรู้สึกอย่างไร น.ส.ลัดดาวัลย์ ตอบว่า รู้สึกใจหาย และเสียใจมากเพราะ เสธ.แดง ถูกยิงก่อนวันที่น้องแดงน้อย จะเปิดเทอมเพียง 1 วัน ซึ่งในช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค. ตนพยายามโทรศัพท์หา เพื่อบอกว่าลูกกำลังจะไปโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีญาติสนิทมาแจ้งข่าวว่า เสธ.แดง ถูกยิงตั้งแต่ช่วงกลางดึกอาการเป็นตายเท่ากัน ตอนนั้นพยายามให้กำลังใจตัวเองด้วยการสวดมนต์ไหว้พระบอกกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ และทำใจเรื่อยมา จนเสธ.แดง สิ้นลมที่วชิรพยาบาลเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงสาเหตุที่ตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสังคม น.ส.ลัดดาวัลย์ ตอบว่า ตนพาลูกเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมากราบศพ เสธ.แดง เป็นครั้งสุดท้าย เพราะในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) ก็จะมีพิธีพระราชเพลิงศพที่วัดโสมนัสแล้ว ทีแรกตั้งใจว่าจะพากันไปที่วัดตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อถ่ายรูปหน้าศพเก็บไว้ เป็นที่ระลึก และจะอยู่กันอย่างเงียบๆ จนเสร็จพิธี พอคิดอีกทีก็รู้สึกสงสารลูกที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลับๆ มาตลอด 5 ปีแล้ว ซึ่งจากนี้ไปน้องแดงน้อย ควรอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี และบอกใครๆ ได้เต็มปากว่า เป็นลูกชายของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล โดยเฉพาะหากตนมีโอกาสทำความฝันของ เสธ.แดง ด้วยการส่งเสียผลักดันให้ลูกได้เป็นนายทหารจริงๆ ลูกจะได้ไม่รู้สึกลังเลที่จะบอกใครต่อใครว่าเป็นทายาทของ เสธ.แดง


"ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเรียกร้องเพื่อขอรับสิทธิ์หรือขอความช่วย เหลือจากผู้ใดทั้งสิ้น เพราะวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะทำธุรกิจหาเลี้ยงลูกด้วยลำแข้งของตัวเอง ที่ตัดสินใจเอาเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนก็เพื่อความชอบธรรมของลูก ที่ต้องใช้ชีวิตต่อไปในสังคมเท่านั้น โดยตนพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุกอย่างว่า น้องแดงน้อย เป็นทายาทของ เสธ.แดงจริงๆ และตนก็ไม่กลัวถ้าหากมีใครต้องการให้พิสูจน์เรื่องนี้ด้วยผลตรวจทางดีเอ็นเอ" น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าว

ด้าน ด.ช.นักรบ สวัสดิผล หรือ "น้องแดงน้อย" ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างไร้เดียงสาว่า "คุณพ่อหนูชื่อ ขัตติยะ สวัสดิผล ตอนนี้ตายไปแล้วเพราะถูกผู้ร้ายยิง หนูคิดถึงคุณพ่อมาก อยากให้คุณพ่อพาไปสวนสัตว์ ดูจระเข้ ดูฮิปโป ขี่ช้าง อยากให้คุณพ่อสอนยิงปืนใส่ก้อนหินให้อีก หนูจะตั้งใจเรียนเพราะอยากเป็นทหารเหมือนคุณพ่อ".