นายสือ ล้ออุทัย

ข่าวลือเบอร์มรณะละเมิดสิทธิผู้ใช้บริการหนัก สบท.ซัดต้นตอปล่อยข่าวระวังเจอความผิดฐานหมิ่นประมาท และให้ข้อมูลเท็จทางคอมพิวเตอร์ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับแสนบาท..

กรณีข่าวเบอร์โทรศัพท์มรณะที่สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในภาคเหนือโดยเฉพาะใน จ. เชียงราย  พะเยา ลำปาง นั้น เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายประวิทย์  ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สกทช.) กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวได้สร้างผลกระทบอย่างมาก ขนาดที่บางหมู่บ้านตื่นตระหนก จนมีการปิดโทรศัพท์มือถือหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้

"จากการตรวจสอบเลขหมายที่ปรากฏเป็นข่าวพบว่า เป็นเลขหมายระบบเติมเงินในเครือข่ายเอไอเอส 3 เลขหมายและรายเดือน 1 เลขหมาย แต่ทั้ง 4 หมายเลขมีผู้ใช้บริการอยู่ และต้องเดือดร้อนคอยรับโทรศัพท์จากผู้คนจำนวนมากที่ต้องการสอบถามข้อเท็จจริง  เป็นการรบกวนชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง จนบางรายต้องปิดเครื่องตลอดเวลา ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข่าวลือนี้แต่อย่างใด  จึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดการโทรไปที่หมายเลขที่เป็นข่าว"

ผอ.สบท.กล่าวต่อไปว่า ข่าวลือดังกล่าวกำลังลามไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกประเด็นล้วนไม่มีมูลความจริง โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการปล่อยไวรัสผ่านโทรศัพท์มือถือทำให้เครื่องระเบิด หรือปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงทำให้แก้วหูทะลุ เพราะหากเป็นไวรัสจะมีผลทำให้โทรศัพท์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติหรือหยุดทำงานเท่านั้น ไม่สามารถทำให้ระเบิดได้ และปัญหาไวรัสจะเกิดได้กับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ เท่านั้น อีกทั้งการระเบิดของโทรศัพท์มือถือจะเกิดจากส่วนแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันมีการเพิ่มชิปเพื่อป้องกันการลัดวงจรของแบตเตอรี่แล้ว 

ส่วนประเด็นเรื่องการส่งคลื่นเสียงทำให้แก้วหูทะลุนั้น  ก็เป็นไปไม่ได้เพราะแก้วหูจะทะลุได้ไม่ขึ้นกับความถี่แต่ขึ้นกับความดังของเสียง คือประมาณ 160 เดซิเบล ขณะที่ลำโพงโทรศัพท์มือถือไม่สามารถส่งเสียงดังในระดับนั้นได้ หรือแม้แต่เครื่องสลายการชุมนุมด้วยคลื่นเสียงที่ราชการใช้อยู่ ก็ดังสูงสุดที่ 151 เดซิเบลเท่านั้น การส่งคลื่นเสียงผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อให้แก้วหูทะลุจึงเป็นไปไม่ได้

นอกจากนี้ ผอ.สบท.ยังเตือนว่า การโพสต์เลขหมายตามข่าวลือในอินเทอร์เน็ตหรือส่งต่อทางอีเมล์เป็นการสร้างความเสียหายให้กับผู้ใช้บริการเลขหมายดังกล่าว และตรวจสอบแล้วเป็นข้อความที่ไม่เป็นความจริง ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ผู้ที่นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวตอร์ ผู้ที่เผยแพร่ หรือส่งต่อข้อความเกี่ยวกับเบอร์อันตรายรับแล้วตาย ซึ่งเป็นความเท็จ และทำให้เจ้าของเบอร์โทรศัพท์ได้รับความเสียหาย ถูกรบกวนสิทธิ และได้รับเสียหายแก่ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง  จึงมีความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ม. 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท และมีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 326

ส่วนผู้ให้บริการที่จงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ ส่งต่อข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 15

ด้าน นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ยอมรับกับไทยรัฐออนไลน์ เรื่องมาตรการจัดการกับข่าวลือในอินเทอร์เน็ตว่าเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำอะไรลงไป สิ่งที่กระทรวงไอซีทีจะทำได้ก็แค่เพียงแค่เช็ค URL เพื่อให้ได้ ISP ซึ่งคาดว่าวันนี้จะทำการถอดกระทู้ต่างๆ ที่มีมากมายในระบบ ที่โพสต์เรื่องราวและเบอร์มือถือที่อ้างว่าเป็นเบอร์มรณะต่อ-ติด-ตาย ออกไปจากระบบ

"ก็อยากจะให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเพราะว่า เรื่องข่าวลือโดยเฉพาะในอินเทอร์เน็ตมันรวดเร็ว อีกทั้งเรื่องกฎหมายของเรายังช้า ไม่ทันสมัยเราทำได้แค่การป้องปรามเท่านั้น" ปลัดกระทรวงไอซีทีกล่าว.

...