มารศาสนายังไม่หยุดก่อเหตุ ล่าสุดเข้าไปตัดเศียรพระพุทธรูปสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในวัดแดง ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา อีก 4 องค์ และทุบทำลายตัวองค์พระเพื่อหาของเก่าด้วย ...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่วัดแดง ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีคนร้ายโจรกรรมตัดเศียรพระไปเช่นเดียวกับ วัดดงหวาย อ.นครหลวง จึงเดินทางไปตรวจสอบซึ่งวัดแดงอยู่ห่างไปจากวัดดงหวายประมาณ 2 กม.เส้นทางเดียวกันพบพระสมุห์สมยศ ยะสะวะทะโก อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดแดง พาเข้าตรวจสอบโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่กลางวัด บอกว่าเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 52 ที่ผ่านมาถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนตัดกุญแจโบสถ์ แล้วเข้าไปตัดเศียรพระพุทธรูปปูนปั้น สมัยรัชกาลที่ 3 ที่ประดิษฐานภายในโบสถ์จำนวน7 องค์ถูกทุบทำลาย 4 องค์ คนร้ายตัดเอาเฉพาะเศียรพระไป ส่วนอีก1 องค์คนร้ายทุบเศียรหักเสียหายเพื่อค้นหาวัตถุโบราณและของมีค่าทิ้งซากไว้เป็นหลักฐาน

พระสมุห์สมยศ กล่าวว่า พระพุทธรูปดังกล่าวถูกคนร้ายเข้าไปโจรกรรมตั้งแต่คืนวันที่ 4 พฤศจิกายน เป็นต้นมา แต่ยังไม่ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะปกติของในวัด อาทิ โต๊ะหมู่ แจกัน หรือที่กรวดน้ำจะหายเป็นประจำ และเคยแจ้งความแล้วตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งนี้วัดดังกล่าว ได้เข้าร่วมโครงการตู้เหลืองคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยมีตู้เหลือติดภายในวัดถึง 2 ตู้ คือข้างโบสถ์ที่ถูกคนร้ายเข้าไปตัดเศียรพระ และบริเวณทางขึ้นกุฏิ

ด้านนายอเนก สีหามาตย์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โบสถ์หลังดังกล่าวสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พระประธานภายในได้รับการบูรณะมาแล้วตั้งแต่สมัยรัชการที่ 3 โดยเศียรของพระที่ถูกตัดออกไปนั้น คาดว่าเป็นเนื้อหิน หรือเนื้อหินทรายสมัยโบราณ ต่อมาได้มีการหล่อองค์พระขึ้นมาใหม่ แล้วใช้เศียรดังกล่าวสวมทับ และใช้ปูนปั้นพอกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนอื่นดูว่าเป็นพระใหม่ ส่วนกรณีที่คนร้ายทุบองค์พระนั้นเชื่อว่า ต้องการเข้าไปหาของเก่า ว่ามีฝังอยู่ในตัวองค์พระหรือไม่ ทั้งนี้ยอมรับว่าการโจรกรรมตัดเศียรพระเงียบหายไปนานมาก แต่ในระยะนี้เชื่อว่าน่าจะมีใบสั่งจากต่างชาติที่ต้องการนำของเก่าไปประดับบ้าน โดยในห้วง 3 ปี ที่ผ่านมา มีวัดที่ถูกโจกรรมตัดเศียรพระพุทธรูปไปแล้ว ประมาณ 5 วัด

...