แต่ต้องการช่วยเหลือช้างไม่ให้มีเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีก ด้านนักอนุรักษ์ช้างไทย เชื่อมาจากเจตนาดี และข้อมูลที่นำมาเขียนก็ถูกต้องและมีอยู่จริง...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 พ.ย.) น.ส.แอนโทเน็ต แวนเดอ วอเตอร์ นักอนุรักษ์ช้างเจ้าของโครงการพาช้างกลับบ้าน และเป็นนักเขียนชาวฮอลแลนด์ ได้เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.ดุษฎี นิลุบล เพื่อนสาวชาวไทย และเป็นล่ามประจำตัวได้เข้าพบกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงาน ศูนย์บริบาลช้างแม่แตง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของ นางแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้ก่อตั้งศูนย์ยบริบาลช้างแม่แตง โดย น.ส.แอนโทเน็ต ได้กล่าวถึงข่าวที่ลงในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ไม่ได้เป็นการประจานประเทศไทยแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อยากให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก

น.ส.แอนโทเน็ต กล่าวว่า ตัวเองเขียนหนังสือชีวิตของช้าง จะเห็นว่ามันเหมือนกับเป็นบันทึกส่วนตัวที่ตนได้ประสบมาในช่วงเวลา 5 ปีที่ได้มาใช้ชีวิตสัมผัสกับช้าง ถือว่าช้างมีชีวิตที่สวยงามทุกๆปางช้างที่ตนได้ไปได้เจอแต่สิ่งที่สวยงามของ ช้างในหลายๆอย่าง แต่ในสิ่งที่สวยงามของช้าง ตนก็ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของช้างซึ่งได้นำเสนอออกมา ตนขอบอกว่าหนังสือที่ตนเขียนอยู่ไม่ได้ด่าไม่ได้ประจานประเทศไทย แต่ในหลายประเทศที่เขาได้สัมผัสมาก็ไม่ได้มีประเทศไทยเพียงประเทศเดียว ประเทศอื่นที่นำช้างไปอยู่ในสวนสัตว์ก็ไม่ได้ดูแลช้างดีเหมือนกัน มีทั้งดูแลดี มีทั้งทารุณช้าง เช่นกัน แต่ตนเลือกจะมาอยู่เมืองไทย ก็เห็นทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีช้างโดนทารุณ จึงเกิดแรงบันดาลใจจนต้องเขียนบางอย่างออกมา ให้คนเห็นความสำคัญและแก้ไข ปัญหาตรงนี้

นักเขียนและนักอนุรักษ์ช้างฯ กล่าวต่อว่า ในการออกมาเขียนหนังสือ “ชีวิตช้างทีต้องปลดปล่อย” และมีการนำภาพเช่นนี้ออกมาก็หวังว่าในอนาคตก็คงไม่ได้เห็นภาพเช่นนี้อีก ช้างก็เหมือนคน คือต้องมีอารมณ์ก่อนที่ถึงทำกัน หากช้างมีอารมณ์โอกาสที่จะได้ลูกมาก แต่ก็ขอบอกว่าหากใช้คำว่าจับช้างข่มขืนช้างดูจะแรงไป แต่ก็จะขอพูดโดยอ้อม ว่าช่วยกันจับช้างตัวเมียและเอาตัวผู้เข้าไปถึงว่าไม่สมควร เมื่อนำภาพนี้ออกมาใครเห็นก็คงจะสะดุ้งตกใจ ว่ามันมีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ แต่มันเป็นเรื่องที่เสี่ยงจะต้องนำออกให้คนได้รู้กัน เพื่อจะได้มีการช่วยเหลือแก้ไขให้เป็นรูปธรรม ขอยืนยันว่าเป็นเจตนาที่ดีไม่ได้เป็นการประจานแต่อย่างใด แต่หวังว่าไม่มีภาพเช่นนี้เกิดขึ้นกับช้างอีก

ด้าน นางแสงเดือน ชัยเลิศ นักอนุรักษช้าง ผู้ก่อตั้งศูนย์บริบาลช้าง กล่าวว่า ข่าวที่เสนอออกมาตนดูแล้วไม่ได้เป็นการประจานแต่อย่างใดแต่ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับช้างว่าสิ่งที่เห็นในภาพมันเป็นเรื่องไม่ ถูกต้อง ควรจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้กับช้าง โดยขณะนี้ก็ยังไม่วิธีการแบบนี้อยู่ ประเทศไทยมีช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง ภาพที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่จะต้องมีการตรวจสอบและแก้ไข คนไทยบอกว่ารักช้างจริงก็ควรจะต้องออกมาช่วยกัน การที่ทางนักเขียนสาวฮอลแลนด์ได้ออกมาเปิดเผยถือเป็นการออกมาปกป้อง คนไทยต่างหากที่บอกว่ารักช้างแต่กลับไม่ทำอะไรเลย ถึงเวลาแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเช่นนี้

"ในศูนย์บริบาลช้างขอตัวเองมีช้างเพศเมียประเภทนี้ ที่ได้รับบาดเจ็บมาอยู่ จำนวนหลายเชือกที่ดูแลอยู่ ช้างพวกนี้จะเกลียดกลัวช้างตัวผู้ไปเลย เพราะถูกข่มขืนมาหรือบังคับผสมพันธุ์และในช่วงหลังจะเห็นแม่ช้างฆ่าลูกให้ เห็นบ่อยสาเหตุมาจากถูกข่มขืน โดยส่วนตัวขอบอกว่าในขณะนี้ ยังมีอยู่ในเรื่องนี้ชาวต่างประเทศคนนี้ที่เขียนออกมา ส่วนตัวรู้จักดีเขาเป็นคนที่รักช้างมาก เขาวิจัยเรื่องช้างมาตลอด และไปสังผัสและเห็นทุกครั้งที่เกิดขึ้นดังนั้น ข้อมูลของเขาจึงเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าเกิดเรื่องเช่นนี้จริงๆ" นักอนุรักษช้าง ผู้ก่อตั้งศูนย์บริบาลช้าง กล่าว

...