ม็อบข้าวโพดบุกศาลากลางเพชรบูรณ์ ปิดถนน 2 ฝั่ง รวม 10 เลน เรียกร้องรัฐช่วยเหลือราคาตกต่ำ ผวจ.เพชรบูรณ์ รุดเคลียร์ไม่ได้ผล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ มีรายงานว่า นายผิน วังสำเภา อายุ 70 อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 4 บ้านบัววัฒนา ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ แกนนำเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดพร้อมด้วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจำนวนกว่า 1,200 คน จากทุกอำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์เดินทางมาชุมนุมเพื่อทวงถาม นายจิรายุทธ วัจนะรัตน์ ผวจ.เพชรบูรณ์ ที่บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กรณี 2 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มเกษตรกรได้ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลรวม 3 ครั้งเพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำด้วยการเข้าแทรกแซงราคา ด้วยการประกันราคารับซื้อข้าวโพดที่ก่อนหน้านี้ความชื้น 30 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมกิโลกรัม 8 บาททุกวันนี้เหลืออยู่กิโลกรัมละ 6.33 บาท ข้าวโพดแห้ง 14.5 เปอร์เซ็นต์ กิโลกรัมละ 10.50 บาท เหลือ 8.65 บาท โดยเกษตรกรได้ยื่นเงื่อนไขขอให้รัฐบาลรับซื้อที่ความชื้น 14.5 เปอร์เซ็นต์ ในราคากิโลกัมละ 9.50 บาท กระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากรัฐบาล มีเพียงข้าราชการและตำรวจชั้นผู้น้อยเข้ามาสอบถามเท่านั้น จึงทำให้กลุ่มเกษตรกรเกิดความไม่พอใจที่ไม่มีใครให้คำตอบได้

...


ต่อมาเวลา 10.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้เคลื่อนย้ายออกมากางเต็นท์และชุมนุมเพื่อปิดการจราจร บริเวณถนนสายหลักสระบุรี-หล่มสัก ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลทำให้ ผวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้ามาพบเพื่อเจรจากับผู้ชุมนุม เบื้องต้น ผวจ.เพชบูรณ์ กล่าวว่า จังหวัดได้รับรับทราบปัญหาและได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงพาณิชย์หลายครั้งแล้ว และช่วงเช้าวันนี้ก็ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังกระทรวงพาณิชย์ก็ได้รับคำตอบกลับว่า ยังอยู่ระหว่างประชุมหาข้อสรุปคาดว่าจะได้รับคำตอบช่วงบ่ายวันนี้ และเจรจาขอให้กลุ่มผู้ประท้วงเปิดถนนเพื่อให้รถสัญจรและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ แต่แกนนำได้ยื่นคำขาดว่าหากไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล ก็จะปิดการจราจรทั้งสองฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ และขาออกกรุงเทพฯ จำนวน 10 เลนทันที พร้อมกับได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลเปรียบเทียบ กรณี ของการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ปลูกปีละหลายครั้งกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่ปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตเพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่รัฐบาลกลับไม่ได้ให้ความสำคัญช่วยเหลืออย่างจริงจัง


อย่างไรก็ตาม ผวจ.เพชรบูรณ์ ได้พยายามขอให้แกนนำขึ้นมาเจรจากันในห้องประชุมแต่ไม่เป็นผล เพราะเกษตรกรยืนยันคำตอบจากรัฐบาลเท่านั้น พร้อมประกาศย้ำจะยกระดับการชุมนุมปิดถนนบริเวณสี่แยกราหุลอำเภอบึงสามพัน ซึ่งเป็นเส้นการจราจรหลักของภาคอีสานภาคเหนือสู่กรุงเทพฯ และจะทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทันที พร้อมจะปิดล้อมศาลากลางไม่ให้ข้าราชการออกจากสถานที่ราชการทั้งหมดและให้ อยู่เป็นเพื่อนกับผู้ชุมนุมด้วยกัน


กระทั่งช่วงบ่ายกลุ่มเกษตรกรได้ทำการปิดถนนทั้งสองฝั่งทั้งขาเข้าและขาออก กรุงเทพฯ พร้อมนำข้าวโพดจำนวนสองคันรถปิกอัพเตรียมพร้อมที่จะเทลงพื้นถนนเพื่อกดดันรัฐบาลให้ช่วยเหลือโดยเร่งด่วน โดยฝ่ายปกครองและตำรวจได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.กว่า 200 นายเข้าตรึงกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบ พร้อมกับเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วจังหวัดเตรียมพร้อมกำลังเสริมอีกหลายร้อยนายเพื่อรอสมทบ ซึ่งล่าสุด กลุ่มเกษตรกรยังคงปิดถนทั้งสองฝั่งดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง.