ตร.มักกะสัน รวบตัวผู้ต้องหาเศรษฐีกำมะลอ ก่อคดีหลอกลวงเงินเหยื่อมาแล้วกว่า 30 ราย ใช้วิธีอ้างรู้จักคนใหญ่คนโต เผยหนึ่งในผู้เสียหายเป็นชายพิการ ถูกขายฝันจะช่วยหาโควตาสลากกินแบ่งให้ถึง 2 พันเล่ม แถมอ้างรู้จักกับ "ทักษิณ" เชื่อสนิทใจมอบเงินให้เป็นค่าดำเนินการและค่าตั๋วเครื่องบินไปพบนายใหญ่ เบ็ดเสร็จถูกตุ๋นกว่า 2.5 ล้านบาท … 

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 มี.ค. พ.ต.อ.กิติ ยุกตานนท์ ผกก.สน.มักกะสัน พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ วิมุกติบุตร สว.สส.สน.มักกะสัน ร่วมกันจับกุมตัว นายศุภฤกษ์ อ่อนไทสง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 5 ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวพระนครเหนือ ที่ 1487/2554 ลงวันที่ 28 ธ.ค.54 ข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องพักย่านเตาปูน

สำหรับการรวบตัวผู้ต้องหาในครั้งนี้  สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา นายศุภฤกษ์ ได้กระทำการฉ้อโกงเงินจำนวน 550,000 บาท ไปจากเจ้าของสถานบริการชื่อดังแห่งหนึ่งบนถนนเพชรบุรี อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ นายศุภฤกษ์  รีบประสานทนายความและนำเงินสดมาเจรจาขอชดใช้ให้ผู้เสียหายในทันที เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน จึงถอนคดีและปล่อยตัวไปเป็นอิสระ แต่ระหว่างที่ นายศุภฤกษ์ กำลังจะเดินออกจากโรงพักได้มีกำลังฝ่ายสืบสวนเข้ามาจับกุมตัวอีกหน ตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ จ.1040/2548 ลงวันที่ 12 ก.พ.48 ข้อหาฉ้อโกง ในท้องที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม  ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ซึ่งเคยตกเป็นเหยื่อสูญเงินให้ นายศุภฤกษ์ ทราบข่าวเดินทางมารอที่ สน.มักกะสัน จำนวนกว่า 30 คน จากการสอบถาม นายรุ่งโรจน์ กัณหา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 5 ต.เม็กดำ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นคนพิการขาลีบจากโรคโปลิโอแต่กำเนิดจนต้องใช้วิธีคลานมาที่โรงพัก เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อช่วงต้นปี 2555 เคยรู้จักกับ นายศุภฤกษ์ โดยบังเอิญตอนไปขายสลากที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งธนบุรี เมื่อ นายศุภฤกษ์ พบตนก็แสดงความมีเมตตาอ้างว่าน่าสงสาร ทั้งยังอ้างว่า ตัวเองเป็นผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 1 สังกัดพรรคการเมืองดัง รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ระดับสูงหลายคนรวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความสามารถจะหาโควตาสลากกินแบ่งมาให้ตนขายได้ถึงงวดละ 2,000 เล่ม

นายรุ่งโรจน์ กล่าวอีกว่า ตนเห็น นายศุภฤกษ์ แต่งตัวดูดีมีฐานะและมีคนคอยติดตามดูแลตลอดก็เกิดหลงเชื่อ ติดต่อกันเรื่อยมา ไม่ว่า นายศุภฤกษ์ จะอ้างว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ต้องโอนเงินไปให้ผู้ใหญ่ หรือต้องการเงินค่าเครื่องบินเดินทางไปติดต่อธุระกับนายใหญ่ที่ดูไบ ตนก็โอนให้หนำซ้ำยังไปชวนเพื่อนๆ และญาติพี่น้องให้ลงขันขายที่นา กู้เงิน เพื่อนำมามอบให้ นายศุภฤกษ์ เป็นค่าใช้จ่ายตลอด 1 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น ตนและพวกต้องสูญเงินไปถึง 2,500,000 บาท หลังติดตามทวงถามหนักเข้าก็มีการชดใช้คืนมาแค่ 700,000 บาท ทั้งนี้มีเอกสารเป็นหลักฐานการลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางเสาธง และ สน.หลักสอง

...

“ผมไม่คาดคิดว่า นายศุภฤกษ์ จะใจร้ายทำกับคนพิการได้ขนาดนี้ ที่ผ่านมาทั้งผมและญาติๆ ต่างรอที่จะได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขาย เลยหลงเชื่อยอมทำตามใจทุกอย่าง ทั้งนี้หลังจากที่ผมรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่โดนหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน ยังทราบอีกว่า นายศุภฤกษ์ ไม่ได้อ้างถึงแค่อดีตนายกฯ ทักษิณ แต่ยังมีการกล่าวอ้างถึง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ดร.นริศร ทองธิราช ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย และผู้หลักผู้ใหญ่อีกหลายๆ ท่านด้วย” นายรุ่งโรจน์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กิติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ดำเนินการกับผู้ต้องหารายนี้ตามหมายจับของ สน.มักกะสัน เท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนที่มีผู้เสียหายเดินทางมาดูตัวจำนวนมากและอ้างว่า นายศุภฤกษ์ มักใช้กลวิธีแอบอ้างรู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในพื้นที่ตนและที่สำคัญผู้ที่ถูกแอบอ้างก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับ นายศุภฤกษ์ ได้หากคำพูดไม่เป็นความจริง