"สุขุมพันธ์ุ" พาดูศักยภาพอุโมงค์ยักษ์ ระบุแค่ช่วยระบายน้ำแค่บางส่วนในใจกลางกรุงเท่านั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ อ้างต้องเร่งสร้างอุโมงค์อีก 3 จุด ปรามพวกวิจารณ์หยุดได้แล้ว อย่าโยงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง...
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังการตรวจอุโมงยักษ์พระราม 9 ว่า หลังจากเมื่อคืนนี้มีฝนตกหนักมีปริมาณฝน 100 มิลลิเมตร อุโมงค์ยักษ์สามารถระบายน้ำด้วยการเดินเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 4 เครื่อง ซึ่งแต่ละเครื่องสามารถสูบน้ำได้ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปัจจุบันเปิดเพียง 3 เครื่อง เนื่องจากระดับน้ำลดลง จึงแสดงให้เห็นว่าอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 สามารถช่วยระบายน้ำจากปริมาณฝนและน้ำล้นตลิ่งในบางส่วนได้ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมของ กทม.ได้ทั้งหมด เพราะสามารถรองรับระบายน้ำได้เพียง 50 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นใจกลางเมือง เช่น ลาดพร้าว ห้วยขวาง มีนบุรี จากพื้นที่ของกรุงเทพฯ ทั้งหมดประมาณ 1,600 ตารางกิโลเมตร ดังนั้น การเร่งสร้างอุโมงค์อีก 3 จุด คือ รัชดาภิเษก-สุทธิสาร ดอนเมือง และสวนหลวง ร.9 จะทำให้ระบบระบายน้ำฝั่งพระนครดีขึ้น ยกเว้นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำในฝั่งตะวันออก ซึ่งเห็นว่ามีความจำเป็นกว่าแนวคิดการขยายท่อระบายน้ำตามถนนสายต่าง ๆ ที่มีมาตรฐานอยู่แล้ว
...
ส่วนการรับมือปริมาณน้ำฝนในช่วงต้นเดือนตุลาคม ได้ประสานกรมชลประทาน ที่จะเพิ่มเครื่องสูบน้ำระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกงและอ่าวไทยเป็น 2 เท่า ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมของกทม.โดยเฉพาะการเตรียมแผนผังพื้นที่เสี่ยงทั้งปัจจุบันและอดีต ซึ่งจะทำให้การระบายน้ำฝั่งตะวันตกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กทม. ได้เปิดประตูระบายน้ำในจุดต่าง ๆ แล้ว จึงขอให้ผู้ที่ออกมาวิจารณ์หยุดวิจารณ์รวมถึงฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานด้านเทคนิคเต็มที่