พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 มุ่งปม สังหารลูก ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ เหตุการณ์ซึ่งหน้าเหตุขับรถปาดหน้า เปิดไฟสูงไล่ พบทั้ง 2 ฝ่าย ยิงตอบโต้กันสนั่น สั่งเร่งตามล่า กระบะโหลดเตี้ย...

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2555 ที่ห้องรับรองสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวถึงความคืบหน้าคดียิงถล่มลูกชาย ส.ส.อุทัยธานีจนเสียชีวิตว่า คดีนี้ตำรวจให้น้ำหนักเป็นเหตุเฉพาะหน้า สาเหตุน่าจะเป็นเรื่องการเปิดไฟสูงส่องตามหลังกันแล้วขับรถแซงปาดหน้าสลับ กันไปมาจนเกิดมีการใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กัน โดยกระสุนปืนที่ใช้จากการตรวจของรถผู้เสียชีวิตเป็นกระสุนปืน จุด 380 ซึ่งปลอกที่ตำรวจเก็บรวบรวมได้ทั้งในรถ 2 ปลอด และ นอกรถรวมแล้ว 11 ปลอก และมีปลอกกระสุนที่เก็บข้างทางอีก 2 ปลอก รวมทั้งหมด 13 ปลอกที่เราเก็บไว้ได้ ส่วนอีกฝั่งเป็นรถคันก่อเหตุใช้กระสุนขนาด 9 ม.ม.โดยตำรวจเก็บได้ 2 ปลอก โดยมีการยิงต่อสู้กันแล้วก็หลบหนีไป ฉะนั้นน้ำหนักน่าจะอยู่เรื่องเหตุเฉพาะหน้า ส่วนเรื่องการแก้แค้นหรือล้างแค้นในเรื่องเก่าตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นทิ้งไป ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ตร.ภ.3 โดยการนำของ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.ศสส.ภ.3 และชุดสืบสวน ตร.ภ.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.อ.ชลาสินธุ์ ชลาลัย ผกก.สส.ภ.นครราชสีมา ไปหาข่าวเชิงลึกในพื้นที่ ต.หมูสี และ อ.ปากช่อง รวมทั้ง ตร.ภาค 6

ผบ.ตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นเหตุจังหวะมาเจออาจจะเข้าใจผิดที่เห็นปลอก กระสุนจำนวนมากแล้วน่าจะเป็นเรื่องการยิงถล่มกันหรือเปล่า แต่ตนเรียนว่าปลอกกระสุนจำนวนมากน่าจะเป็นจำนวนมากจากฝั่งรถที่ถูกยิง มากกว่า ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะไม่เกิน 2 คน และเป็นรถกระบะตอนเดียว โดยตนอยากขอความร่วมมือคนในรถคันที่ผู้เสียชีวิตขับมีด้วยกัน 6 คน เสียชีวิตไป 1 คน เหลืออีก 5 คน ตอนนี้มาให้ปากคำแล้ว 2 คนคือคนที่นั่งหลังสุดทั้งคู่ แต่ยังเหลืออีก 3 คนที่จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้รู้ว่าเหตุเกิดจากอะไร มีปัญหาขัดแย้งรุนแรงอะไรกัน โดยเฉพาะคนที่นั่งคู่กับคนขับด้านซ้ายยังไม่มาแสดงตัวให้ปากคำกับตำรวจ รวมทั้งคนที่นั่งเบาะกลางด้วย

"จากการที่ตนให้กองพิสูจน์หลักฐาน 3 แกะประตูรถตรวจสอบ และตนไปดูรถคันที่ประสบเหตุที่น่าสังเกตคือ กระจกรถโตโยต้า แลนครุยเซอร์ด้านคนขับเปิดอยู่ครึ่งบาน แต่ด้านคนนั่งคู่คนขับเปิดเต็มบาน ไม่แตก แสดงว่า คนที่นั่งซ้ายต้องเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ต้องเห็นลักษณะรูปร่างรถต้องเห็นหมดทุกอย่าง ขณะนี้การสอบพยานเป็นคนในรถแล้ว 2 ปาก และพยานในรายทางมีการสอบไปแล้วกว่า 10 ปาก พบว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้วขับรถแล้วปิดไฟหน้าหลบหนีไปตามเส้นทาง อ.วังน้ำเขียวฯ เราคิดว่าคนที่ขับรถปิดไฟวิ่งต้องมีความชำนาญรู้เส้นทางพื้นที่พอสมควร" ผบ.ตำรวจภูธรภาค 3 กล่าว

พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวอีกว่า ส่วนการส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบตามโรงพยาบาลหรืออู่ซ่อมรถต่างๆ เนื่องจากคาดว่ารถคนร้ายน่าจะถูกกระสุนปืนด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าในเรื่องนี้ และเราได้ส่งไปในพื้นที่จังหวัดข้างเคียงด้วย ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะการใช้อาวุธปืนตนว่าไม่ใช่เป็นพวกมืออาชีพ เพราะลักษณะปืนที่ใช้และการก่อเหตุ สมมุติถ้าคนเป็นคนร้ายจะก่อเหตุยิงคนสักคนที่มีคนคุ้มครองจำนวนมากคงไม่ เตรียมการณ์แค่นี้แน่

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกี่ยวกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิดได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมที่เป็นชนวนการไล่ ยิ่งกันบ้าง ผบ.ตำรวจภูธรภาค 3  กล่าวว่า กล้องวงจรปิดเก็บหลักฐานได้อยู่ 3 จุด ดูแล้วไม่มีอะไรน่าสงสัย โดยมีทั้งบริเวณแม็คโดนัล , เซเว่นฯ และที่ด่านป่าไม้ โดย ส.ส.และลูกชายขับรถตามกันมา เนื่องจากไม่คุ้นเส้นทางขับรถหลงทางทั้ง 2 ครั้ง โดยขับมาจากถนนมิตรเข้าเส้นทางถนนธนะรัตน์ ครั้งแรกทั้งสองคันเลี้ยวผิดตรงบริเวณสถานีตำรวจตำบลหมูสี ครั้งสองขับตรงเข้าไปถึงด่านอุทยานเขาใหญ่ทำให้กล้องจับภาพได้หมด แต่รถนำหน้าและรถตามหลังของคนร้ายเราไม่พบในช่วงนี้ เราเข้าใจว่ารถน่าจะเป็นรถที่อยู่ในแนวเส้นถนนไป อ.วังน้ำเขียวฯมากกว่า สำหรับเรื่องขาดพยานอีก 3 คนตั้งแต่วันแรกเราติดต่อผ่านน้องสาวนายธาดาฯไป โดยบอกว่าตัวเขาเองอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว โดยอีก 2 วันจะพาทั้ง 3 คนมาให้ปากคำทั้งหมด ขณะนี้ เรายังไม่ได้รับการติดต่อมาให้ปากคำ ซึ่งจริงๆความกระจ่างจะอยู่ทั้ง 3 คนนี้ ส่วนเรื่องกลัวผู้มีอิทธิพลอะไรนั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่ และไม่เห็นต้องมีอะไรน่ากลัวอิทธิพลของฝ่ายตรงข้าม และเราก็ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ตนคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องนี้ การมาให้ปากคำกับตำรวจจะเป็นประโยชน์ต่อรู้คดีมากที่สุด

ต่อข้อถามถึง คนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเป็นคนมีสีในพื้นที่หรือไม่ เพราะปืนขนาด 9 ม.ม.เดี๋ยวนี้มีใช้กันเกร่อไปหมดทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน ประชาชนก็มีและยิงเป็นกันหมด พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวว่า เรื่องนี้คิดว่าปืนขนาด 9 ม.ม.ตำรวจก็ใช้มาก และมีใช้ได้หลากหลาย และเป็นปืนที่ใช้กันทั่วไป ถ้ากลุ่มมือปืนที่ยิงถล่มคงจะเป็นแบบเอ็ม 16 หรืออาก้า และ 11 ม.ม.มากกว่า โดยเฉพาะถล่มคนที่มีคนคุ้มครองคงต้องใช้แบบนั้น เรื่องนี้ก็ตั้งข้อสังเกตไว้ ตนจึงทิ้งน้ำหนักว่าเป็นเหตุเฉพาะหน้า เพราะจากคำให้การของพยานที่นั่งในรถ 2 คนบอกว่ามีการเปิดไฟสปอตไลท์ใส่กัน โดยเฉพาะของปิคอัพมีการขับแซงกันไปมา 2 ครั้งและเปิดไฟใส่กัน ลักษณะการยิงที่เกิดขึ้นมีการจำลองเหตุการณ์คือ รถของผู้เสียชีวิตขับแซง พอถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งทางแคบและมีสะพานแล้วรถปิคอัพขับแซงเฉียงขึ้นไป และรอยกระสุนโดยรถของผู้เสียชีวิต 2 นัด โดยนัดแรกมีหัวกระสุนพุ่งเข้าเฉียงๆที่ประตูหน้าซ้ายแล้วทะลุผิวนอกของรถไป โดนเหล็กข้างในรถตกอยู่ในร่องกระจก ส่วนอีกหนึ่งนัดเข้าที่กระจกด้านหลังซ้ายพุ่งเฉียงๆทะลุไปโดนกกหูซ้ายของผู้ ขับขี่เพียงนัดเดียวทำให้ถึงแก่ความตาย

พล.ต.ท. ภาณุ กล่าวว่า ส่วนประเด็นการเมืองตำรวจก็ไม่ได้ตัดทั้ง แต่ ณ เวลานี้ให้น้ำหนักน้อยจากรูปการ แต่คนที่จะให้ความกระจ่างมากที่สุดคืออีก 3 คนที่เหลือ ส่วนกระสุนปืน 11 ม.ม.เราเก็บได้จากข้างทาง จำนวน 2 ปลอก แต่ปลอกกระสุนในรถผู้ตายเป็นจุด 380 และปลอกกระสุนในรายทางส่วนใหญ่เป็นจุด 380 ทั้งนี้ปลอกกระสุนทั้งหมดเราเก็บได้จำนวน 13 ปลอก และเรายังเก็บซองปืนที่เท้าคนขับด้วย ส่วนคนร้ายจะเป็นคนในพื้นนั้น ตนว่าน้ำหนักน่าจะเป็นคนแถวๆนี้ เพราะขับรถปิดไฟหน้าวิ่งได้ ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนตอนนี้ชุดสืบสวนทั้งของ ตร.ภาค 3 และ ตร.ภ.นครราชสีมาลงพื้นที่แล้ว ตระเวรหาพยานอื่นๆ และหาข่าวเบาะแส และตระเวนตามแหล่งต่างๆที่คาดว่า คนร้ายน่าจะหลบไปกบดาล คดีนี้คงต้องใช้เวลาบ้าง

"ตนยืนยันว่าคดีนี้ไม่หนักใจ แต่อยากขอความร่วมมือพยาน 3 คนรีบมาให้ปากคำ เพราะเป็นผู้เสียหาย การมาเร็วที่สุดจะเป็นแสที่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้เร็วที่สุด คดีนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ว่าที่ ผบ.ตร.ได้กำชับสั่งการมาว่า ไม่ให้ทิ้งประเด็นความขัดแย้งในอดีตด้วย เพราะตัว ส.ส.เองก็มีคู่กรณีหลายกรณีด้วยกันที่ยังเป็นคดีความกันอยู่ ประเด็นนั้นตำรวจก็ไม่ทิ้ง ซึ่งทาง ตร.ภ.นครราชสีมาส่งชุดสืบสวนไปประสาน ตร.ภาค 6 ดูเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งเรารู้หมดแล้วว่า มีกรณีอะไรบ้าง ค่อนข้างจะมาก เป็นข่าวเปิดพอสมควร เหตุการณ์ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา แต่น้ำหนักตอนนี้ตนยังให้เรื่องเฉพาะหน้ามากกว่า คดีนี้จริงๆมันไม่อยากอะไร" ผบ.ตำรวจภูธรภาค 3  กล่าว.