ผลกระทบพายุวีเซนเต ฝนตกตลอดสัปดาห์ ล่าสุดแม่น้ำโขงมีระดับสูงขึ้น จนเกือบเข้าขั้นวิกฤติ ด้าน นายก อบต.บ้านแซว เผย ไร่ข้าวโพด นาข้าว ใน อ.เชียงแสน จมน้ำแล้ว 300 ไร่ หากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกอาจต้องอพยพประชาชน
วันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุวีเซนเต ซึ่งแม้จะอ่อนตัวไปแล้ว แต่ยังส่งผลกระทบต่อ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เนื่องจากระดับแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน เพิ่มขึ้นจนน่าเป็นห่วง บวกกับทางประเทศจีนได้เปิดเขื่อนระบายน้ำลงแม่น้ำโขงอีก
ทั้งนี้ ศูนย์สำรวจอุทกวิทยาที่ 12 เชียงราย อ.เชียงแสน ที่วัดระดับน้ำโขง ริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณสามแยกหน้าสถานีตำรวจภูธรเชียงแสน ได้วัดระดับน้ำโขงเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา วัดได้ 5.56 เมตร และวันนี้ 29 ก.ค.55 เวลา 06.00 น. วัดได้ 7.91 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นถึง 2.35 เมตร หากฝนยังไม่หยุดตกและประเทศจีนยังระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงต่ออีก จะทำให้อำเภอเชียงแสนเข้าสู่วิกฤติแน่นอน เนื่องจากระดับน้ำโขงที่เข้าขั้นวิกฤติอยู่ที่ระดับ 11.50 เมตร ซึ่งถ้าหากเกินระดับนี้เมืองเชียงแสนจะถูกน้ำโขงเข้าท่วมทั้งหมด
...
นายสมควร สุตะวงค์ นายก อบต.บ้านแซว เปิดเผยว่า ตำบลบ้านแซวมีพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงหลายหมู่บ้าน โดยที่บ้าน สบกก ม.7 และบ้านเกาะผาคำ ม.6 น้ำโขงได้ไหลเอ่อเข้าท่วมไร่ข้าวโพด และนาข้าว จมไปแล้วกว่า 300 ไร่ โดยเฉพาะที่บ้านแซว ม.1 บ้านท่าขันทอง และบ้านสวนดอก ไร่นาถูกน้ำโขงไหลเข้าท่วมได้รับความเสียหาย ขณะนี้ตนได้ออกสำรวจความเสียหายและได้รายงานให้ทางป้องกันภัยจังหวัดเชียงราย และทางอำเภอเชียงแสนทราบ พร้อมทั้งได้ออกประชาสัมพันธ์ให้กับราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัยริมแม่น้ำโขงให้เตรียมพร้อมและคอยติดตามข่าวที่ทางการแจ้ง หากระดับน้ำโขงถึงขั้นวิกฤติสูงขึ้นมาก จะได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงได้ทันท่วงที
ด้านนายทอง ผาจอง นักธุรกิจนำเข้า - ส่งออก สินค้าจีนทางเรือในแม่น้ำโขง กล่าวว่า ได้ทราบข่าวจากนักธุรกิจจีนว่า จีนได้ระบายน้ำลงแม่น้ำโขงจนระดับน้ำโขงที่อำเภอเชียงแสนสูงขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม หากฝนหยุดตก ก็คาดว่าทางจีนจะชะลอการระบายน้ำลงแล้ว ภายใน 2-3 วันนี้