ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถยนต์ฮอนด้าซีวิคพุ่งชนรถตู้ เผย ไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยแค่เป็นการให้ข้อมูลประกอบกระบวนการเหตุอีกฝ่ายไม่ได้ยอมรับผิด ระบุฝ่ายจำเลยไม่ได้มาเอง เริ่มทำใจรับได้กับเหตุการณ์บางส่วนเพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง นัดไกล่เกลี่ยในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย ซึ่งในขณะเกิดเหตุเป็นเยาวชนอายุ 18 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค ชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับโทลล์เวย์ ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ในรถตู้เสียชีวิต 9 ศพ โดยศาลได้นัดให้ฝ่ายโจทย์และจำเลยในคดีดังกล่าวมาตกลงไกล่เกลี่ยก่อน เพื่อที่จะมีการอ่านคำพิพากษาต่อไปนั้น พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ บิดาของ น.ส.สุดาวดี หรือน้องนุ่น หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาในวันนี้ไม่ใช่เป็นการไกล่เกลี่ยอย่างที่เข้าใจแต่อย่างใด แต่เป็นการมาเพื่อถามและให้ข้อมูลมากกว่า เพราะในศูนย์ดังกล่าวมีทั้งนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์มาร่วมฟังในการนี้ด้วย เพื่อที่จะนำเอาข้อมูลไปประกอบกับการพิจารณาคดี อีกทั้งในวันนี้ฝ่ายจำเลยก็ไม่ได้มาด้วยตนเอง มีเพียงแต่ฝ่ายผู้เสียหายเท่านั้นที่ได้เดินทางมากัน หลังจากนี้เห็นว่าถ้าไม่จำเป็นฝ่ายผู้เสียหายบางคนก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเดินทางมาก็ได้ เพราะว่าแต่ละคนก็มีที่พักอยู่ไกล อาจจะให้นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ไปเก็บข้อมูลที่บ้านแทน
พ.ต.อ.ศรัญ กล่าวต่อไปว่า เรื่องการเยียวยานั้นก็มีการเยียวยาไปบ้างแล้วบางส่วน ก็ทำให้มีกำลังใจกันและกัน และในวันนี้ภายในห้องที่หารือก็แน่นอนว่ายังมีญาติผู้เสียชีวิตบางคนยังทำใจกับเหตุการณ์ไม่ได้ก็มีบางส่วนก็เริ่มที่จะรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะชีวิตก็ต้องดำเนินกันต่อไป วันนี้ไม่ใช่การไกล่เกลี่ยซึ่งเป็นข้อผิดพลาดเรื่องการสื่อสาร แต่เป็นการพูดคุยกันเพื่อนำข้อมูลเอาไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้วจะให้ไกล่เกลี่ยกันได้อย่างไร อีกทั้งจำเลยก็ไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเอง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะมาหรือไม่ก็ได้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการภายใน 30 วันที่ศาลได้กำหนด แต่ถ้าคู่กรณีไม่พอใจไม่ว่าฝ่ายใดก็สามารถอุธรณ์คดีต่อไป.
...