เลขาธิการ ป.ป.ท. นำกำลังตรวจสภาพพื้นที่นับร้อยไร่บนป่าสงวนแห่งชาติ เทือกเขากมลาภูเก็ต หลังอดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต-ลูกสาวอดีตปลัด มท. ออกเอกสารสิทธิทับป่าอนุรักษ์อีกระลอก เพื่อยืนยัน ก่อนส่งเรื่องเข้าสู่อนุกรรมการกลั่นกรอง-ป.ป.ช.เอาผิดข้าราชการ- เพิกถอนโฉนดคืนแผ่นดิน...

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.  พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) นำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจวัดพื้นที่ที่มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้วจำนวนกี่แปลง-เนื้อที่จำนวนมากน้อยเพียงใด และอยู่ในหลักเกณฑ์ของระเบียบกฎหมายที่จะออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินได้หรือไม่ อย่างไร หลังมีอดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต-บุตรสาวอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ถือครองกรรมสิทธิ์รวมจำนวน 7 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ และพยายามจะออกเอกสารสิทธิอีกกว่า 10 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าโซนซี หรือป่าอนุรักษ์-ป่าต้นน้ำ หลังจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ป.ป.ท.ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง-ตรวจสอบข้อเท็จจริง ป.ป.ท.

...

จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่มีการออกเอกสารสิทธิไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอออกโฉนด ปรากฏว่าเป็นพื้นที่ป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีไม้ใหญ่นานาชนิดขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องใช้รถกระบะโฟร์วีลส์ขับขึ้นจากถนนใหญ่เข้าไปราว 7 กม. และต้องเดินเท้าเข้าไปต่ออีกราว 2 กม. ซึ่งแต่ละแปลงมีการแผ้วถางป่าและปลูกสิ่งก่อสร้าง เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล โดยมีการเขียนระบุชื่อรีสอร์ตเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพการปักมุดหรือหลักแนวเขตโฉนดแต่ละแปลงไว้อย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ทั้ง 7 แปลง ประกอบด้วย 1. โฉนดที่ดินเลขที่ 12735 และ 12736 เลขที่ดิน 13 และ 14 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 14 ไร่ ระบุชื่ออดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต ออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 192 เนื้อที่ 6 ไร่ 2.โฉนดที่ดินเลขที่ 13896 และ 13897 เลขที่ดิน 12 และ 27 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 14 ไร่ ระบุชื่อบุตรสาวอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยและคนสนิท โดยออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 215 เนื้อที่กว่า 15 ไร่ โดยผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินการออกโฉนดที่ดินแทนบุคคลทั้ง 2 คือ อดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต และต่อมามีการขายให้โฉนดที่ดินเลขที่ 17897 ให้อดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต 3.โฉนดที่ดินเลขที่ 14283 เลขที่ดิน 7 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เนื้อที่กว่า 20 ไร่ออกจาก ส.ค.1 เลขที่ 81 เนื้อที่ 15 ไร่ รวมที่ดินทั้ง 3 แปลง จำนวนกว่า 48 ไร่ โดยจากรายงานรังวัดของช่างรังวัด สำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต ระบุโฉนดที่ดินทุกแปลงมีการทำประโยชน์ปลูกผลไม้ เช่น สะตอ ทุเรียนเต็มแปลง และคณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดินระบุในรายงานว่าได้ปลูกผลไม้พื้นเมือง เช่น จำปาดะ ทุเรียน ยางพาราปะปนกับไม้ธรรมชาติ จากนั้นได้นำเรื่องแจ้งต่อ ผวจ.ภูเก็ต ในสมัยนั้น โดยไม่ขัดข้องที่จะออกโฉนดที่ดินให้ผู้ขอออกโฉนด

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า แต่จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. พบว่า ที่ดินมีสภาพเป็นป่าดิบชื้น ไม่พบสวนผลไม้ตามที่มีการรายงานการรังวัด มีสภาพเป็นป่าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และเป็นป่าต้นน้ำไม่มีการครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินแต่อย่างใด การรายงานของเจ้าหน้าที่จึงเป็นการรายงานเท็จ และเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน จำนวน 3 แปลงดังกล่าว รวม 13 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต 4 คน ปลัดอำเภอกะทู้ 3 คน เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินภูเก็ต 3 คน เจ้าหน้าที่ป่าไม้อีก 2 คน และเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินอำเภอกะทู้ อีก 1 คน

“ทั้งนี้ ตามข้อเท็จจริงจะพบว่าที่ดินทั้ง 3 แปลง ไม่มีการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อน จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะมาแจ้ง ส.ค.1 เพราะหลักเกณฑ์ในการแจ้งการครอบครอง ส.ค.1 ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 ต้องเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับคือ ก่อนวันที่ 1 ธ.ค. 2497 และที่ดินแปลงดังกล่าวไม่สามารถนำมาออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่มีการครอบครองและทำประโยชน์อยู่จริง จึงต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 พ.ศ.2537 เรื่องดังกล่าวจะต้องแจ้งกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว และแจ้งให้ ผวจ.ภูเก็ต สั่งการให้จำหน่าย ส.ค.1 ออกจากทะเบียนรับแจ้งการครอบครอง”

...

เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ยังมีที่ดินอีก 4 แปลงที่มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบบนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา หรือเรียกว่า ส.ค.1 บวม เนื้อที่กว่า 20 ไร่ โดยผู้ที่ลงนามอนุมัติให้ออกโฉนดที่ดินดังกล่าว คือ อดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกโฉนดจำนวน 4 แปลงนี้ แบ่งเป็นอดีตรอง ผวจ.ภูเก็ต-อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดและเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานที่ดิน จังหวัดภูเก็ตอีก 6 คน ทั้งนี้ ป.ป.ท.จะดำเนินคดีทางอาญากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินทั้ง 7 แปลงทุกคนอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการปราบปรามและเป็นการป้องปรามเจ้าหน้าที่ที่คิดจะกระทำการทุจริต และประพฤติมิชอบควบคู่กันไป.

...