พ่อใหญ่จิ๋วสภาโจ๊ก เส้นเลือดในสมองแตก ลูกเมียหามส่งโรงพยาบาล สมาคมตลกแห่งประเทศไทยรุดเยี่ยมมอบเงินช่วยเหลือ 10,000 บาท  

วันที่ 24 พ.ค.  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งว่า นายชาติชาย จินดา หรือที่รู้จักกันดีในวงการตลกว่า “พ่อใหญ่จิ๋ว” อายุ 60 ปี มีอาการป่วยหนัก เส้นเลือดในสมองแตก แขนขาไม่มีแรง ขณะนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลแพทย์รังสิต จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ

ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ผู้สื่อข่าวพบพ่อใหญ่จิ๋ว หรือนายชาติชาย จินดา นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงคนไข้ โดยมีพยาบาลและภรรยาคู่ชีวิตคือนางอุบล จินดา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/113 ม.18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเมื่อพ่อใหญ่จิ๋วเห็นนักข่าวเดินทางเข้าไปหา ก็ทักทายและพูดคุยกับผู้สื่อข่าว แต่การออกเสียงยังไม่ชัดเจน และยังมีอาการเหมือนอ่อนเพลีย ด้านนาง อุบล จินดา ภรรยาของพ่อใหญ่จิ๋ว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้คือเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อพ่อใหญ่จิ๋วตื่นนอน และลงไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งเป็นปกติวิสัยของพ่อใหญ่จิ๋วที่จะลงมาเข้าห้องน้ำ และจากนั้นก็จะเปิดทีวีเพื่อติดตามข่าวสารต่างๆ แต่ในวันนั้นเมื่อพ่อใหญ่จิ๋วลงมาแล้ว ก็เงียบไป ไม่มีเสียงทีวีดังขึ้นมาอย่างเช่นปกติทุกวัน ลูกสาวจึงรู้สึกเป็นห่วงและเดินลงไปดู ก็พบว่าพ่อใหญ่จิ๋วนั้นมีอาการอ่อนเพลียไม่มีแรง และนั่งอยู่บนโซฟา ลูกสาวจึงได้สอบถามด้วยความเป็นห่วง โดยพ่อใหญ่จิ๋วบอกว่าแขนและขาซ้ายไม่มีแรง จากนั้นลูกสาวก็ได้เรียกให้ตนเองลงไปดู ซึ่งตนเองก็สอบถามอาการ และทำการบีบนวดตามแขนขาให้ ระหว่างนั้น ก็สังเกตเห็นว่าพ่อใหญ่จิ๋วเริ่มมีอาการปากเบี้ยวและเริ่มพูดไม่ชัด ตนเองและลูกสาวจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิตที่อยู่ใกล้บ้านโดยเร่งด่วน ซึ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลและแพทย์ได้นำเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจสอบอาการ ระหว่างนั้นพ่อใหญ่จิ๋วได้มีอาการชักกระตุก ซึ่งทราบในภายหลังว่ามีอาการเลือดคั่งในสมองเพราะเส้นเลือดในสมองแตก

...

ส่วนสาเหตุตนเองคิดว่าคงไม่ใช่ว่ามาจากการรับงานแสดงเยอะหรือพักผ่อนไม่เพียงพอแต่อย่างใด เพราะปกติแล้วก็จะรับงานไม่มากในช่วงนี้ สาเหตุนั้นน่าจะมาจากการที่พ่อเขาไม่เคยตรวจสุขภาพเลย จึงไม่ทราบว่าร่างกายนั้นเป็นอย่างไรบ้าง พอมาเข้าโรงพยาบาลจึงรู้ว่ามีทั้งโรคความดัน เบาหวาน และอื่นๆ ตอนนี้อาการก็ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ อาการปากเบี้ยวก็หายไป พูดได้บ้างแต่ยังพูดได้ช้า ตอนนี้พ่อใหญ่บ่นแต่อยากจะกลับบ้าน เพราะเป็นห่วงลูกน้องในคณะพ่อใหญ่จิ๋ว ที่มีอยู่กว่า 10 ชีวิต ยิ่งเข้าโรงพยาบาลนานๆ ก็กลัวว่าลูกน้องในคณะจะลำบากกัน นางอุบล เพิ่มเติมอีกว่า เรื่องค่ารักษาพยาบาลนั้นตนเองก็ไม่ห่วงเพราะพ่อใหญ่จิ๋วนั้นได้ทำประกันสังคมตัวเองตามมาตรา 39 ซึ่งตรงนี้คงไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมาก จะมีก็แต่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เมื่อเสาหลักของครอบครัวล้มป่วยก็อาจจะลำบากหน่อย เงินทองที่หามาได้ก็พอที่จะมีเหลือเก็บไว้บ้าง ซึ่งตอนนี้เมื่อไม่มีรายได้ใหม่เข้ามา เราก็ใช้เงินเก็บที่พอมีอย่างประหยัด

ทางด้าน พญ.สุนิสา ชัยประเสริฐ แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า อาการของตนไข้เมื่อแรกรับนั้นมีอาการหนัก แขนขาไม่มีแรง ชักเกร็ง ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเราก็ให้ยาลดความดัน และเฝ้าดูอาการมาตลอด ซึ่งขณะนี้ถือว่าอาการดีขึ้นคงไม่ต้องผ่าตัด แต่คงต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นก็คงต้องทำกายภาพบำบัดและพักฟื้นประมาณ 6 เดือนจึงจะเป็นปกติ

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ได้มีบรรดาตลกและเพื่อนร่วมงานในสภาโจ๊กเดินทางเข้าเยี่ยมโดยมี ถั่วแระ นายกสมาคมตลกแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าเยี่ยมด้วยพร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือให้กับทางครอบครัวพ่อใหญ่จิ๋ว ทั้งเงินของสมาคมและเงินส่วนตัวเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท.