ตร.เมืองอุดรฯ จับพ่อพิมพ์ซี 5 ชวนผู้ปกครองมั่วสุมเสพยาบ้าคาชุดกากี พร้อมของกลาง ผู้บังคับบัญชาเผย ได้รับร้องเรียนบ่อยครั้ง ซึ่งทำได้แค่เรียกมาตักเตือน ชั้นจับกุมสารภาพขายให้เด็กด้วย ก่อนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาชั้นสอบสวน...
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่หน้าศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมือง อุดรธานี พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมือง อุดรธานี พ.ต.ท.ประเสริฐ ธรรมชัย สวป.สภ.เมือง อุดรธานี และตำรวจสืบสวน “พิรุณ” ร่วมกันแถลงจับกุม นายสิทธิชัย ศรีสุวรรณ อายุ 20 ปี นายเชษฐา พิมพรมมา อายุ 37 ปี น.ส.เกศสุดา คำภู อายุ 31 ปี และนายชัยรัตน์ ผิวชัยภูมิ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 54 เม็ด
พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมือง อุดรธานี เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ประเสริฐ ธรรมชัย สวป.สภ.เมือง อุดรธานี สืบทราบว่ามีการมั่วสุมเสพยาบ้า ที่บ้านเลขที่ 303 หมู่ 2 ต.เชียงยืน จึงได้นำกำลังออกไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบนายสิทธิชัยกำลังเสพยาบ้ากับกลุ่มวัยรุ่นชาย อายุ 16 ปี จำนวน 2 คน ตรวจค้นพบยาบ้า 20 เม็ด ในกระเป๋ากางเกงนายสิทธิชัย จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวน ซึ่งนายสิทธิชัยให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาบ้ามาจากสาวประเภทสองที่เปิดร้านขายส้มตำอยู่บ้านแอง ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ตำรวจจึงเข้าจับกุมนายเชษฐา ขณะกำลังขายส้มตำอยู่ในร้าน ได้พร้อมของกลางยาบ้า 20 เม็ด สารภาพว่าซื้อยาบ้ามาจากนายชัยรัตน์ ซึ่งเป็นครูโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี
...
พ.ต.อ.โกวิท เปิดเผยต่อว่า ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุมนายชัยรัตน์ ได้พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด และ น.ส.เกศสุดา ของกลางยาบ้า 2 เม็ด โดยนายชัยรัตน์ยังสวมชุดข้าราชการครู และกำลังนั่งเล่นไพ่และเสพยาบ้าอยู่ภายในบ้านของ น.ส.เกศสุดา ภรรยาชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียน สอบสวนนายชัยรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นครูโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี (เทศบาล 5 ) สอนวิชาสังคมศึกษา ระดับชั้น ม.1-3 ก่อนถูกจับกุม ได้มาสอนพิเศษให้กับลูกของ น.ส.เกศสุดา หลังสอนเสร็จก็ได้ชวนกันเสพยาบ้า กระทั่งมาถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง ตำรวจแจ้งข้อหา เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.โกวิท เปิดเผยต่อไปอีกว่า จากการสอบถามผู้บังคับบัญชานายชัยรัตน์เล่าว่า นายชัยรัตน์เป็นครูสอนกลุ่มวิชาสังคมศึกษา ได้โอนย้ายมาจาก จ.สุโขทัย มาสอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้ประมาณ 1 ปีเศษ โดยเช่าบ้านอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และกำลังทำเรื่องขอย้ายภรรยาที่สอนอยู่ จ.ภูเก็ต มาอยู่ด้วย ต่อมาผู้บังคับบัญชาได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนบ้านว่า นายชัยรัตน์ มีพฤติกรรมมั่วสุมกับกลุ่มวัยรุ่น จึงได้เรียกมาตักเตือน แต่ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน นายชัยรัตน์มีพฤติกรรมไม่ค่อยมาทำงาน ขาดและลาบ่อย กระทั่งมาทราบว่าถูกจับ ซึ่งในชั้นจับกุม นายชัยรัตน์ให้การรับสารภาพว่าจำหน่าย จ่าย แจกยาบ้าให้เด็กนักเรียนจริง พอถึงชั้นสอบสวนกลับให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถทำได้ แต่ตำรวจชุดจับกุมก็จะดำเนินคดีไปตามพยานและหลักฐาน ผกก.สภ.เมือง อุดรธานี กล่าวในที่สุด.