รายงานวันจันทร์-กลับมาอีกตามคำเรียกร้อง “จราจรตาเพชร” เวอร์ชั่นใหม่แจ้งผลใน 3 วัน หลังจากปิดปรับปรุงระบบไปนานหลายเดือน...
ข่าวดีสำหรับผู้ติดตามเว็บไซต์ของตำรวจจราจรกลาง www.trafficpolice.go.th ล่าสุดนี้ “โครงการจราจรตาเพชร” ได้กลับมาเป็นสื่อกลางระหว่างประชาชนกับตำรวจตามเดิมแล้ว หลังจากปิดปรับปรุงระบบไปนานหลายเดือน
และการกลับมาเที่ยวนี้จะมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆ มานำเสนอบ้างนั้น รายงานวันจันทร์ขอยกพื้นที่ให้ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงด้วยตนเอง รายละเอียดจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ต้องลองติดตาม...
-------------
ถาม...สาเหตุที่ต้องหยุดให้บริการไปพักใหญ่ เพราะอะไร
รอง ผบช.น. ... “ โครงการจราจรตาเพชร” ถือว่าเป็นเครื่องมือทำงานของตำรวจจราจรอีกอย่างหนึ่ง มีประชาชนสนใจส่งข้อมูลร้อง เรียนเข้ามาผ่านทาง www.trafficpolice.go.th จำนวนมาก ประมาณเกือบ 2 หมื่นราย สาเหตุที่ต้องหยุดให้บริการ เพราะระบบเซิร์ฟเวอร์มีปัญหา และช่วงนั้นมีการโยกย้ายตำรวจที่รับผิดชอบ ตามด้วยปัญหาน้ำท่วม จึงเกิดความไม่พร้อมในหลายๆด้าน หลังจากทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ จึงได้สั่งการให้เดินหน้า “โครงการจราจรตาเพชร” อีกครั้ง
...
ถาม...จราจรตาเพชรเวอร์ชั่นใหม่มีจุดเด่นแตกต่างจากเดิมหรือไม่
รอง ผบช.น. ...ระหว่างที่ปิดปรับปรุงมีประชาชนถามหาเข้ามาจำนวนมาก เพราะต้องการสื่อสารโดยตรงกับตำรวจหลังพบเห็นปัญหาเกี่ยวกับจราจร ทีมงานก็เลยมานั่งประชุมกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและเห็นผลเร็วขึ้น
จุดแรกที่เปลี่ยนก็คือ ยกเครื่อง ลดขั้นตอนการทำงานของตำรวจ จากเดิม บก.02 จะรับผิดชอบรวบรวมข้อมูลเรื่องร้องเรียนผ่าน “โครงการจราจรตาเพชร” ส่งต่อให้ สน.ท้องที่ตรวจสอบ แก้ไข และแจ้งผลเสร็จภายใน 30 วัน ต่อไปนี้จะให้แต่ละ สน.ซึ่งมีคอมพิวเตอร์ใช้ทุกแห่งตรวจสอบเองทุกวัน พร้อมกับแก้ไขและแจ้งผลภายใน 3 วัน วิธีนี้น่าจะถูกใจเจ้าของเรื่องที่ร้องเรียน ไม่ใช่ร้องแล้วร้องเลย และคิดว่าคนน่าจะส่งเรื่องเข้ามาเพิ่มขึ้น เดิมเฉลี่ยประมาณ 50 เรื่องต่อวัน น่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ถาม...ตอนนี้จะเน้นรับเรื่องร้องเรียนอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
รอง ผบช.น. ...การร้องเรียนคงไม่สามารถไปกำหนดว่าจะต้องร้องเรียนเรื่องนั้น เรื่องนี้ เพราะปัญหาความเดือดร้อนมาจากหลายสาเหตุของแต่ละบุคคล บช.น. จึงเปิดกว้าง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของจราจรเท่านั้น ปัญหาอาชญา-กรรมก็ได้ เพราะทุกวันนี้ปัญหามันเชื่อมโยงกัน เช่น รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนถือว่าทำผิดกฎหมายจราจร และถ้ารถคันนั้นไป ก่อเหตุร้ายต่ออีก ก็จะพ่วงการทำผิดอาชญากรรมเข้าไปด้วย เพราะฉะนั้นหากประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติควรแจ้งข้อมูลให้ตำรวจทราบโดยเร็ว เพราะถ้าแจ้งเร็ว บวกกับการตรวจสอบที่เร็วขึ้น จะช่วยสกัดกั้นการก่อเหตุร้ายได้ทันท่วงที
นอกจากเรื่องร้องเรียนคนกระทำผิดกฎหมายแล้ว อยากให้ประชาชนส่งข้อมูลเกี่ยวกับการจราจร อาทิ ถนนเส้นไหนมีปัญหาจราจรติดขัด ถนน เป็นหลุมบ่อ ป้ายจราจรไม่ชัดเจน จุดที่มักพบคนทำผิด เช่น คอสะพาน ทางร่วมทางแยก หรือสัญญาณไฟจราจรมีปัญหา เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวม เพราะปัญหาจากจุดเล็กๆอาจส่งผลกระทบทำให้รถติดได้ทั้งเมือง
ทั้งนี้ การตรวจสอบ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่าไม่มีลำเอียง อย่างรายล่าสุด มีคนส่งภาพฟ้อง “เด็กขี่รถจักรยานยนต์ของตำรวจจราจรซ้อน 3 แถมไม่สวมหมวกกันน็อก” พอตรวจสอบพบว่าเป็นลูกชายตำรวจจราจร สน.ทุ่งสองห้อง แอบเอารถพ่อไปขี่เล่น ตอนนี้สั่งลงโทษทางวินัยจราจรเจ้าของรถ และเปรียบเทียบปรับข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อกตามกฎหมายด้วย เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าเรื่องที่ส่งเข้ามาถ้าตรวจสอบพบมีความผิด ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ไม่มียกเว้น.
จิรากร พุ่มพวง รายงาน