ตร.สำโรงเหนือ บุกค้นคลินิกในซอยด่านสำโรง พบลักลอบจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้กับเยาวชนโดยไม่มีการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์...
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.ภาคภูมิ โห้ใย สว.สส. พ.ต.ตชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ เข้าตรวจสอบ คลินิกแพทย์เสรี เลขที่ 1211 ม.4 ซ.วัดด่านสำโรง ถ.ศรีนครินทรินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังมีผู้ปกครองเยาวชนอายุ 17 ปีแจ้งว่า คลินิกดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้กับเยาวชนโดยไม่มีการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ พร้อมกับนายจีรภัทร พลายงาม เภสัชกร ชำนาญการ นายภินันท์ สิงห์กฤตยา เภสัชกร ชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ
โดยคลินิกดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนน ภายในซอยวัดด่านสำโรง เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง ด้านล่างเปิดเป็นสถานพยาบาลชื่อ คลินิกแพทย์เสรี มีนายเสรี ศิริเศรษฐ์ อายุ 46 ปี เป็นแพทย์เจ้าของคลินิก นอกจากนั้น ยังพบ น.ส.พิกุล อาจดีลัง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/1 ม.6 ต.วังม่วง อ.วังม่วง จ.สระบุรี ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ในคลินิกดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหลักฐานคือยาโดมิคุม เม็ดสีฟ้า จำนวน 5 เม็ด บรรจุอยู่ในแผง พร้อมสำเนาเงินสด ที่ได้ทำการล่อซื้อมาขอตรวจสอบ และจากการตรวจสอบพบว่าเงินสดที่ล่อซื้อ วางอยู่ในลิ้นชัก น.ส.พิกุล ให้การยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาโดมิคุมให้กับลูกค้าก่อนหน้านี้ นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบยาชนิดเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง อยู่ในลิ้นชักบริเวณเคาท์เตอร์ด้านหน้าและในห้องตรวจของแพทย์ด้วย
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า คลิกนิกดังกล่าวมีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการอย่างถูกต้อง แต่ได้มีการลักลอบจำหน่าย ยาชื่อโดมิคุม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 โดยไม่มีการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นและจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฯได้รับแจ้งมาว่า ที่คลินิกดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่าย วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเมื่อมีลูกค้ามาขอซื้อยาชนิดดังกล่าว จะมีผู้ช่วยแพทย์ประจำคลินิก จำหน่ายให้ทันทีโดยไม่การตรวจวินิจฉัยจากแพทย์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าจับกุมด้วยการให้สายลับเข้าล่อซื้อ จนสามารถจับกุมได้
จากการสอบถามในชั้นการจับกุม น.ส.พิกุล ให้การยอมรับว่า เงินจำนวน 300 บาท ที่พบในลิ้นชักหน้าเคาท์เตอร์ เป็นเงินที่ได้มาจากการจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (Dormicum) ให้กับลูกค้าในจำนวน 5 เม็ดจริง
ด้าน นายจีรภัทร พลายงาม เภสัชกร ชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ยาโดมิคุม เป็นยาสำหรับคลายเครียดหรือยานอนหลับ ซึ่งเป็นยาที่แพทย์จะต้องวินิจฉัยว่า คนไข้สมควรได้รับยานี้หรือไม่ เนื่องจากยาดังกล่าวให้ผลออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทโดยตรง ส่งผลให้เกิดอาการเบลอและหลับไปในที่สุด ดังนั้นการซื้อยาดังกล่าวทุกครั้งจะต้องมีคำสั่งแพทย์และไม่สามารถหาซื้อได้ ตามร้ายขายยาโดยทั่วไป และจากการตรวจสอบภายในคลินิก ดังกล่าวพบว่ามีการจำหน่ายยาโดมิคุม โดยไม่มีการตรวจหลายครั้ง จึงทำให้มีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มีโทษจำคุก 5-10 ปี และปรับ 100,000-400,000 บาท ส่วนที่คลินิกดังกล่าวเปิดให้จำหน่ายยาชนิดนี้ อย่างผิดกฎหมายนั้นก็มีความผิดตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล 2541 มาตรา 34(1) และมาตรา 35(3) มีโทษจำคุกและปรับตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ไม่ลงลายมือชื่อโดยอ้างว่าขอให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ฯจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
...