มือปืนพระกาฬประกบยิงหนุ่ม ซึ่งเป็นแกนนำครอบครองปรปักษ์ชายหาดแปลงงาม มูลค่านับพันล้านบาทในภูเก็ตจากเอกชน ขณะควบจยย.กลับบ้านก่อนจ่อยิงซ้ำ จำนวนกว่า 11 นัดไปตาย รพ. ก่อนถึงกำหนดศาลนัดไกล่เกลี่ย...

เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 13 ม.ค.ที่่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีระศักดิ์ บุญแสง ร้อยเวร สภ.กะทู้ รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้ากะหลิมซอย 6 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว รอง.ผกก.สส.สภ.กะทู้นำกำลังและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนเลียบชายหาดยาวประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ไม่ค่อยมีแสงสว่างพบร่างชายนอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่บนถนนข้างๆ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีมสีน้ำเงินดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งล้มคว่ำอยู่ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าตอง แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทราบชื่อคือ นายจักรกฤต หนูทัด อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/11 หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. บริเวณหลัง หน้าอก และตามร่างกายกว่า 11 นัด ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่เกลื่อนจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายจักรกฤตขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากรับจ้างเย็บผ้าในที่หาดป่าตองกำลังจะกลับบ้านในกะหลิมซอย 8 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อถึงที่เกิดเหตุสภาพเปลี่ยวและไม่มีบ้านคนมีชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาจากด้านหลัง จากนั้น คนซ้อนท้ายชักปืนจ่อยิง ทำให้รถจักรยานยนต์ของนายจักรกฤตล้มกลางถนน ก่อนคนร้ายจะเดินลงไปยิงใส่หน้าอกและตามร่างกายไม่ยั้งอีกกว่า 10 นัด จนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วจึงหลบหนีไป

ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า นายจักรกฤตและพรรคพวกกว่า 70 ครัวเรือน ได้เข้าครอบครองที่ดินบริเวณกะหลิมซอย 7-8 ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง โดยปรปักษ์ แต่ตามเอก สารสิทธิ์ระบุเป็นของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีอดีตนักการเมืองระดับประเทศ และเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงผู้หนึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหาร โดยที่ดินแปลงดังกล่าว อยู่ตรงข้ามอ่าวป่าตองหรือ ชายหาดกะหลิม ที่ถือว่าเป็นแปลงสวยงามแปลงหนึ่งใน จ.ภูเก็ต และมีมูลค่านับพันล้านบาท กระทั่งเมื่อหลาย   ปีก่อน เจ้าของเอกสารสิทธิได้ร้องต่อศาลเพื่อขอสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง จากนั้น จังหวัด-ฝ่ายปกครอง อ.กะทู้และตำรวจนับสิบนายพร้อมรถแบ็กโฮได้เข้ารื้อสิ่งปลูกสร้างตามคำสั่งศาล แต่นายจักรกฤตและพวกร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่ารื้อถอนและค่าเสียหาย

...

ล่าสุด เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล เพื่อนัดคู่ความไกล่เกลี่ย โดยนายจักรกฤต และพวกได้เรียกค่าเสียหายในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินทั้งสิ้น 9 ล้านบาท ซึ่งในวันที่ 19 ม.ค. 2555 ศาลจะนัดคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันอีกครั้ง แต่นายจักรกฤตมาถูกยิงเสียชีวิตเสียก่อน ขณะที่ตำรวจ   ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นๆ เช่น ปัญหาส่วนตัว และชู้สาวทิ้ง ทั้งนี้ จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป