แม่เครียดจัด ลูกชายวัย 16 ปีสติไม่สมประกอบมาแต่กำเนิด ชอบอาละวาดทำลายข้าวของและผู้อื่น ล่าสุดอาการกำเริบหนัก ตัดสินใจซื้อยาฆ่าแมลงผสมน้ำแดงให้ลูกดื่มชักดิ้นชักงอตายต่อหน้า และหวังจะตายตามแต่ไม่สำเร็จชาวบ้านเข้ามาช่วยได้ทัน...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ต.ค.  พ.ต.ท.วิริยะ สุจริต พงส.(สบ 3) สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย รับแจ้งว่า มีผู้ดื่มยาพิษเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 91 ม.5 บ้านหนองบัวสด ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภพกร คูณเจริญสุข ผกก. และ พ.ต.ท.สินทิช กรกฏกำจร รอง ผกก.สส. พร้อมแพทย์โรงพยาบาลเชียงแสน และหน่วยกู้ชีพอนุภาวธรรม ไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ข้างวัดหนองบัวสด ที่ระเบียงหน้าบ้านพบศพชายนอนเสียชีวิตในสภาพน้ำลายฟูมปาก สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เสื้อยืดแขนสั้นสีแดง ใกล้ศพพบขวดพลาสติกใส่น้ำหวานสีแดงวางอยู่ข้างประตูบ้าน และบริเวณเสาหน้าบ้านพบโซ่ยาวประมาณ 2 เมตร


เมื่อเข้าตรวจภายในบ้านพบ ขวดยาฆ่าแมลงยี่ห้อแลนเนท แก้วพลาสติก 2 ใบ วางอยู่บนหลังตู้เย็น ทราบชื่อผู้ตายว่า นายธีระพล พรมเมือง อายุ 16 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ภายในบ้านพบนางศรันยภัทร พรมเมือง อายุ 38 ปี แม่ของผู้ตาย ยืนน้ำตาคลอเบ้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเป็นคนใช้ยาแลนเนทผสมกับน้ำหวานให้นายธีระพล ลูกชายดื่มเอง สาเหตุเพราะนายธีระพล มีสติไม่สมประกอบตั้งแต่เกิด ไม่สามารถไปโรงเรียนหรือไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้ ตนเคยนำไปหาหมอรักษาหลายครั้งแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น พอโตขึ้นอาการเริ่มรุนแรงขึ้น มีอาการทางประสาทชอบอาละวาดทำลายข้าวของภายในบ้าน ถ้าออกไปนอกบ้านก็ชอบไปไล่ทำร้ายผู้อื่น จนถึงขั้นต้องล่ามโซ่ไว้หน้าบ้าน

ครั้ง ล่าสุดเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนได้นำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ และเพิ่งรับตัวกลับมาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาการก็กลับกำเริบขึ้นอีก ทำให้ตนเครียดมากและสงสารลูกที่มีชะตากรรมแบบนี้ จนตนเองนอนไม่หลับอยากจะหาทางให้ลูกหาย ไม่อยากให้ลูกต้องทุกข์ทรมานด้วยโรคนี้ จึงได้ซื้อยาแลนเนท และน้ำหวานสีแดง ผสมยาแลนเนทกับน้ำหวาน 2 แก้ว เอาให้นายธีระพลลูกชายดื่ม 1 แก้ว พอลูกดื่มเข้าไปก็ล้มลง ตนตกใจวิ่งไปแจ้ง นายประเสริฐ พรมเมือง ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทราบว่าตนเป็นคนให้ยาพิษลูกชายดื่ม แล้วตนก็วิ่งกล้บมาบ้านเพื่อจะดื่มยาที่ผสมไว้อีกแก้ว แต่เพื่อนบ้านที่รู้ข่าวต่างวิ่งตามมาที่บ้านดึงเอาแก้วยาไปทิ้ง

...


ด้าน นายฐิติกร พรมเมือง อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุสามีของนางศรันยภัทร ให้การว่า ตนได้ออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามาทำงานก่อสร้างในอำเภอเชียงแสน กระทั่งญาติมาแจ้งให้ทราบก็ตกใจรีบกลับมาที่บ้าน ไม่คิดว่านางศรันยภัทรจะเครียดถึงกับก่อเหตุแบบนี้กับลูกชายได้ แต่ในระยะหลังมานี้ตนสังเกตพบภรรยาของตนมักนั่งเหม่อลอย ชอบบ่นหรือพูดคนเดียว จึงแนะนำให้ไปหาหมอรักษา นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภรรยาของตนก่อเหตุแบบนี้ลงไป

พ.ต.ท. วิริยะ  จึงได้ควบคุมตัวนางศรันยภัทรไว้ในห้องควบคุม พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างใกล้ชิด เกรงว่านางศรันยภัทร ซึ่งมีอาการเครียดอย่างหนักจะคิดสั้นทำร้ายตนเอง.