พระลูกวัดบางขุนเทียนนอกเปิดศึกกันเอง ขึ้นโรงพักร้องตำรวจถูกข่มขู่และทำร้ายร่างกาย เหตุบิณฑบาตทับเส่้่นทาง ขณะที่อีกฝ่ายโต้ถูกหาเรื่อง เหตุแค้นจะถูกจับสึก...
จากกรณี พระจิรวัฒน์ ปสฺนโน อายุ 44 ปี พระลูกวัดบางขุนเทียนนอก แขวงและเขตจอมทอง กทม. เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพระลูกวัดเดียวกัน จำนวน 2 รูป ในข้อหาทำร้ายร่างกายและข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนทำให้เกิดความตกใจกลัว เหตุเกิดเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเดินบิณฑบาตทับเส้นทาง ทำให้ได้รับเงินปัจจัยจากญาติโยมน้อยลงตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 ก.ย. พระภิชญ์ หรือพระโจ้ ปภัสฺสโร อายุ 26 ปี และหลวงตาอ้วน (สงวนชื่อและนามสกุล) พระลูกวัดบางขุนเทียนนอก เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ไกรสรณ์ บุญญามิ่ง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางมด เพื่อขอคำปรึกษากรณีที่พระจิรวัฒน์เข้าแจ้งความ ทำให้วงการพระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย และมีการให้ข่าวระบุตัวตนของคู่กรณี ส่งผลให้ได้รับความอับอาย โดยพระทั้ง 2 รูป นำทะเบียนประวัติพระภิกษุของพระจิรวัฒน์ มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูด้วย
พระภิชญ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้มีญาติโยมติดต่อมาหาเจ้าอาวาสวัดบางขุนเทียนนอกว่า พระจิรวัฒน์เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพระลูกวัดเดียวกันชื่อ พระโจ้และพระอ้วน ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนทำให้เกิดความตกใจกลัว ตนในฐานะหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาจนได้รับความเสียหาย อยากบอกสังคมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความจริง เนื่องจากพระจิรวัฒน์เข้าแจ้งความเท็จ เพราะไม่พอใจที่จะถูกพระอ้วน ซึ่งเป็นพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระจับสึก ด้วยสาเหตุที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่า พระจิรวัฒน์เที่ยวไปแอบอ้างชื่อวัดเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านไปใช้ส่วนตัว
พระภิชญ์ กล่าวอีกว่า ทันทีที่พระจิรวัฒน์ถูกร้องเรียนเรื่องไปเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน หลวงตาอ้วนและตนจึงรีบดำเนินการสืบสวนพฤติกรรม จนทราบว่ามีมูลเหตุจริง จึงไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้ร่วมเดินทางไปเชิญตัวพระจิรวัฒน์มาลาสิกขา ขณะกำลังเดินบิณฑบาตเรี่ยไรชาวบ้านอยู่ในตลาดเนินสูง ท้องที่ สน.ท่าข้าม แต่ปรากฏว่า พระจิรวัฒน์ไหวตัวทันหลบหนีออกจากวัดไปก่อน ทำให้พระอุปัชฌาย์ที่วัดราชโอรสารามไม่สามารถทำพิธีจับสึกให้ได้ คาดว่าพระจิรวัฒน์คงเกิดความโกรธแค้นที่จะถูกจับสึกจึงเดินทางไปแจ้งความเท็จที่กองปราบปราม ทำให้ทางวัดเสื่อมเสียได้รับความเสียหาย
...
ขณะที่หลวงตาอ้วน กล่าวว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีการชักปืนข่มขู่เพราะบิณฑบาตทับเส้นทางนั้นไม่เป็นความจริงแน่นอน เนื่องจากอาตมาเดินไม่ไหว ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ที่เดินทางมาวันนี้ก็อยากขอคำปรึกษาจากตำรวจว่าจะทำอะไรได้บ้าง
ส่วนเรื่องการแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาททำให้ได้รับการดูหมิ่นเกลียดชัง อาตมาให้อภัยได้ ขอแค่มากราบขอขมาก็พอ โดยหลังจากนี้จะไปที่กองปราบปราม เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนและติดตามความคืบหน้าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน ร.ต.อ.ไกรสรณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงบันทึกประจำวันเนื่องจากต้องการให้พระที่ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รูป เดินทางไปที่กองปราบปรามเพื่อขอดูเอกสารทางคดีให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า พระจิรวัฒน์ไปแจ้งความให้ดำเนินคดี หรือแค่ร้องทุกข์กล่าวโทษให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของพระคู่กรณีเท่านั้น เบื้องต้นได้แนะนำให้พระทั้ง 2 รูปไปที่กองปราบปรามเพื่อขอตรวจสอบสำนวนคดี จากนั้นให้ผู้ถูกกล่าวหาตัดสินใจเองว่าจะแจ้งความกลับหรือไม่.