ส.ป.ก.โคราช รับนโยบายจาก รมว.ทรัพยากรฯ ลุยตรวจสอบจำนวนรีสอร์ต โฮมสเตย์ บ้านตากอากาศหรู คาดใช้เวลา 2 เดือน เล็งเตือนก่อนแล้วดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายขู่ฟ้องขับไล่...
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 28 ก.ค.54 ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ถ.เดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ วิศิษฏจินดา ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการนำที่ดินไปสร้างรีสอร์ท โฮมสเตย์ บ้านพักตากอากาศหรู ในพื้นที่ของ ส.ป.ก. ว่า เรื่องนี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเลขาธิการ ส.ป.ก. มีคำสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมาย กับผู้กระทำความผิด ไม่ว่าผู้ประทำความผิดนั้น จะไปสร้างรีสอร์ท ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที่ดิน หรือไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งกฎหมายห้ามไว้ ในส่วนนี้มีคำสั่งให้ตนดำเนินการตามกฎหมายได้เลย โดยขณะนี้ทาง ส.ป.ก.ส่วนกลาง ได้ส่งเจ้าหน้าที่มา 8 นายด้วยกัน เบื้องต้น 1. เพื่อไปทำการตรวจสอบว่า รีสอร์ทที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินทั้งหมดตอนนี้มีอยู่จำนวนเท่าไหร่ 2. มีการเปลี่ยนมือมากน้อยแค่ไหนอย่างไร และให้ตนดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายของ ส.ป.ก. สำหรับในส่วน ส.ป.ก.คู่สัญญาเราก็คือ ตัวเกษตรกร ถ้าเขาได้ที่ดินไปแล้วไม่ทำตามวัตถุประสงค์ของการปฏิรูป ประการที่ 1 เราจะต้องดำเนินการเตือนไปก่อน โดยเตือนไปในกำหนด และเมื่อเตือนแล้วไม่ปฏิบัติตาม เราถึงจะสั่งให้เขาสิ้นสิทธิตามกฎหมาย แล้วถึงมาเพิกถอน ส.ป.ก. 4-01 ประการที่สอง ถ้าผิดแล้วเราให้เขาปฏิบัติให้ถูกต้อง แต่เขาไม่ยอมปฏิบัติตามต่อไป ถ้ามีสิ่งก่อสร้าง เช่น รีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ อะไรก็ตาม ตรงนี้เราคงต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยอาจจะต้องดำเนินการตามคดีแพ่งคือ ฟ้องขับไล่ พร้อมทั้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อันนี้เป็นเรื่องของระเบียบและกฎหมายของ ส.ป.ก.
นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องเรียนว่า อ.วังน้ำเขียว พื้นที่ทั้งหมดทั้งอำเภอมีทั้งหมด 706,243 ไร่ แต่ว่าทั้งอำเภอนี้ เราได้รับมอบที่จากกรมป่าไม้มา 241,018 ไร่ มาเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. เราจัดให้เกษตรกรไปแล้ว 6,412 ราย รวม 139,300 ไร่ ในส่วนของรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์มีจำนวนเท่าไร่ ตอนนี้เรากำลังให้เจ้าหน้าที่ของเราทั้งส่วนกลาง และ ส.ป.ก.จังหวัด เข้าไปร่วมตรวจสอบ โดยเข้าไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (26 ก.ค.54) แล้วว่ามีมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการได้ถูกต้อง โดยต้องใช้เวลาที่กำหนดไว้ 2 เดือน เราก็จะรู้ได้ว่า มีรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ มากน้อยแค่ไหน อย่างไร และมีการเปลี่ยนมือไปสร้างรีสอร์ท หรือจะเป็นคนเดิมที่เป็นเกษตรกรที่สร้างรีสอร์ท เราจะได้เกิดความชัดเจน และจะได้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายของ ส.ป.ก.ได้ เพราะของเราไม่ใช่กฎหมายป่าไม้ หรือไม่ใช่อุทยานฯ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานต้องดูแลรักษาป่า แต่ ส.ป.ก.เราก็รับมอบป่ามาจากกรมป่าไม้ ก็คือเป็นป่าเสื่อมโทรมที่ราษฎรเข้าไป บุกรุกครอบครองไปใช้ประโยชน์แล้ว ซึ่งไม่สามารถที่จะเอาไปปลูกป่าได้แล้ว ตรงนี้เรารับมาก็ต้องมาแก้ปัญหา โดยวิธีการปฏิรูปที่ดิน ตรงนี้เป็นหลักการของเรา แต่เมื่อทำผิดระเบียบ เราก็คงจะต้องดำเนินการตามระเบียบและตามกฎหมายต่อไป เรามีทั้งระเบียบรองรับอยู่และเรื่องกฎหมายด้วย ก็คือตามระเบียบถ้าไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เราต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อฟ้องขับไล่และให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่เป็นมาตรการของเรา เวลา 2 เดือนนี้ เราจะรู้หมดว่า ที่ ส.ป.ก.มีรีสอร์ทอยู่เท่าไหร่ ทำผิดระเบียบกันอยู่เท่าไหร่
"ผมเรียนว่า การะกระทำความผิดมีสองอย่างว่า จริงๆ เราจัดที่ดินให้เกษตรกร พอจัดไปแล้วเกษตรกรบางราย อาจจะเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ถูกตามวัตถุประสงค์ของการปฏิรูป ตรงนี้เขาก็จะไปสร้างรีสอร์ท โฮมสเตย์ หรือบ้านพักตากอากาศ อันนี้หมายถึงว่ายังเป็นเกษตรกร ที่ได้รับการจัดที่ดิน แต่ไปเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้ที่ดิน กับส่วนหนึ่งคือเกษตรกรของเรา ได้รับการจัดที่ดินไปแล้วนำไปขายที่ดิน โดยขายไปให้กับใครก็ได้ และบุคคลนั้นไปสร้างรีสอร์ท มันก็กลายเป็นว่าคนท่ีส ร้างรีสอร์ทก็เป็นอีกคนหนึ่ง และคนที่ได้รับการจัดที่ดินก็เป็นอีกคนหนึ่ง ฉะนั้นตรงนี้เราก็คงต้องดำเนินคดีทั้งเกษตรกรของเราและผู้ที่มาทำผิดระเบียบ หลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก.ด้วยที่มาก่อสร้างรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์ หรือบ้านพักตากอากาศด้วย ซึ่งขณะนี้ที่เราให้เจ้าหน้าที่ไปสำรวจ เราสำรวจถึงว่า เบื้องต้นเรารู้อยู่แล้วว่า ที่ตรงนี้เราจัดที่ให้ใคร แต่คนที่สร้างรีสอร์ทเราก็ไปสำรวจด้วยว่าเป็นของใคร และหาข้อมูลว่าใครคือเจ้าของรีสอร์ท เพื่อจะได้ดำเนินการโดยถูกต้อง"
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปอีกว่า เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง และขณะที่ตนมาพอเห็นปัญหาเกิดอย่างนี้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในขณะที่ตนมาได้ปีเศษ คือ ทำอย่างไรป้องกันไม่ให้มันเกิดพื้นที่ตรงนี้ให้มากไปกว่านี้ ทั้งทำเรื่องประชาสัมพันธ์ ทำประกาศ ร่วมประชุมกับอำเภอ อบต. ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทำป้ายไว้ด้วยในอำเภอฯ ที่มีอยู่ 5 ตำบล ว่าที่ดิน ส.ป.ก.อยู่ตรงไหนบ้าง โดยไม่ติดป้ายไว้ที่อำเภอ อบต.ทุก อบต. เมื่อนโยบายตอนนี้ สั่งว่าให้ดำเนินคดีเราก็ต้องดำเนินคดี ตนมั่นใจเลยว่ามาอยู่ที่ จ.นครราชสีมา พยายามทุกอย่างที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่มันผิดกฎหมายเกิด ขึ้นทุกรูปแบบทุกวิธีการ ถามว่า อึดอัดใจหรือไม่ ตนไม่อึดอัดใจ ถ้าเราทำตามกฎหมาย 1.เราก็ไม่โดนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 2.ทุกอย่างมันเป็นไปตามขบวนการ ไม่ใช่เราไปแกล้งเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าพี่น้องเกษตรกรมาพบ ตนก็จะต้องชี้แจงให้เข้าใจเหมือนกัน เพราะมันเป็นการผิดระเบียบหลักเกณฑ์ แต่ ส.ป.ก.รับพื้นที่มา เราพยายามแก้ไขเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่แก้ไข ตนอยากจะฝากไปยังพี่น้องประชาชนพี่น้องเกษตรกรทุกอำเภอ ไม่ใช่เฉพาะ อ.วังน้ำเขียวอย่างเดียวว่า ตอนนี้เราจะซื้อที่ เราจะทำอะไรก็ตามต้องศึกษาก่อน ว่าพื้นที่ที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของใคร และมีกฎหมายระเบียบเป็นอย่างไร ไม่ใช่อยากได้ก็ไปซื้อเลย ก็จะเกิดปัญหาในเรื่องข้อกฎหมาย
สำหรับ จ.นครราชสีมาเรารับผิดชอบ 25 อำเภอ อ.วังน้ำเขียว มีปัญหามากที่สุด ที่อื่นแทบจะไม่มีเลย หรืออาจจะน้อย บางอำเภอไม่มีเรื่องอย่างนี้เข้ามาเกี่ยวข้องเลย ฉะนั้นก็เลยไปหนักที่ อ.วังน้ำเขียว ส่วนเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่เขาใช้ไปทำการซื้อขาย ตนเรียนว่าเอกสารนี้ไม่ได้แสดงถึงสิทธิในที่ดิน แต่เป็นเรื่องของการเสียภาษีบำรุงท้องที่ แต่ตนไม่ทราบว่าทำไมคนที่ซื้อ ถึงไปเชื่อและไปซื้อที่ดินได้ ไม่เคยมาปรึกษา ส.ป.ก. ประกอบกับทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเอง มีพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบในการจัดสรรเพื่อใช้ประโยชน์มากกว่า 4 ล้านไร่ แต่เจ้าหน้าที่มีเพียง 26 ราย ซึ่งก็มีงานหลักที่ต้องรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก ไม่เฉพาะเพียงงานจัดสรรที่ดินแต่ละปีเท่านั้น ยังจะต้องรับผิดชอบงานด้านการจัดสรรที่ดินให้กับทางกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาค ในการจัดซื้อที่ดินเอกชนเพื่อมาจัดสรรให้เกษตรกรสมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค ตามนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน รวมถึงเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ทาง ส.ป.ก.ได้ทำข้อตกลงกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะต้องจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่เหล่านี้ด้วย ฉะนั้นภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบกับจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงไม่สามารถที่จะดูแลได้อย่างทั่วถึง ดังนั้นการตรวจสอบในบางเรื่องก็อาจจะไม่สมบูรณ์อยู่บ้างแต่ยืนยันว่าทาง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่แล้ว
นายประเสริฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯและ เลขาธิการ ส.ป.ก.ได้มอบนโยบายว่า เบื้องต้น 1.ให้ตรวจสอบว่า รีสอร์ต ซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินของ อ.วังน้ำเขียวมีจำนวนเท่าไหร่ 2.ในส่วนของผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.ไปทำผิดระเบียบโดยการเปลี่ยนมือไปแล้วเท่าไหร่ สองเรื่องนี้เมื่อตรวจสอบแล้วให้ดำเนินคดีตามระเบียบและกฎหมายต่อไป สั่งไว้แค่นี้ โดยให้เวลา 2 เดือน เหมือนกับเป็นการตรวจสอบติดตามการใช้ประโยชน์ในที่ดินทุกๆ แปลงที่เราจัดไป แล้ว รวม 6,412 ราย ในพื้นที่ 139,300 ไร่ ยืนยันว่า ส.ป.ก.เป็นหน่วยงานที่เรารับปัญหามาแล้วเราต้องแก้ปัญหา ฉะนั้นไม่ใช่ว่าเราจะมาทำร้ายพี่น้องประชาชน เราจะให้ความเป็นธรรมเขามากที่สุด ทุกอย่างเราต้องตรวจสอบให้มันครบถ้วนถูกต้อง และให้โอกาสเขาที่จะชี้แจงกับเรา แล้วเราถึงจะดำเนินการตามระเบียบหรือตามกฎหมายต่อไป และต่อไปนี้เราจะรายงานไปทางเลขาธิการ ส.ป.ก.ทุกวันจันทร์ และวันพุธ เรื่องความคืบหน้าว่าการทำงานไปได้อย่างไร และจากนี้ไปตนจะรวบรวมข้อมูลส่งไปยัง ส.ป.ก.ส่วนกลาง และมีอะไรก็ให้ไปขอข้อมูลที่ ส.ป.ก.ส่วนกลางได้เลย นายประเสริฐฯกล่าว.
...