แผ่นดินไหวแม่ฮ่องสอน 3.1 ริกเตอร์ไม่มีรายงานความเสียหาย ด้านกรมทรัพยากรธรณีชี้แผ่นดินไหวถี่ขึ้น โดยจะจับตาดูรอยเลื่อนแม่ทา เนื่องจากอาจจะมีการขยับต่อเนื่องหลังจากรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน...

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย แผ่นดินไหว ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.เวลา 09.00 น. ถึง 25 พ.ค. เวลา 09.00 น. พบว่ามีแผ่นดินมากกว่าปกติ คือ มีช่วงขนาดแผ่นดินไหว 3.1 – 4.0 ริกเตอร์ จำนวน 5 ครั้ง ขนาด 4.1 – 5.0 ริกเตอร์ จำนวนถึง 16 ครั้ง ขนาด 5.1 – 6.0 ริกเตอร์ จำนวน 3 ครั้งและในเวลา 11.07 น.วันที่ 25 พ.ค.ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.1 ริกเตอร์ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในบริเวณแนวรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน แต่ไม่รายงานความเสียหายเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณีว่า แผ่นดินไหวขนาด 3.1 ริกเตอร์ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮองสอน ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นและไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติ แม้ว่าแผ่นดินไหวดังกล่าวจะเกิดขึ้นบนรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน ที่ถือว่าเป็น 1 ใน 13 รอยเลื่อน ที่มีพลังก็ตาม อย่างไรก็ตาม กรมฯ จับตาการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนในเขตภาคเหนือ โดยเฉพาะรอยเลื่อนแม่จันโดยนำอุปกรณ์ไปตรวจวัดความถี่ถึง 2 เครื่องพร้อมกับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังดูรอยเลื่อนแม่ทา ที่พาดผ่าน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูนด้วย เนื่องจากอาจจะขยับต่อเนื่องหลังจากรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน เพราะเหมือนกับว่ารอยเลื่อนพวกนี้เริ่มมีการจัดระเบียบตัวเอง

ผอ.สำนัก ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากนายอนุวัฒน์ ฉิมมี ตำแหน่งผู้ช่วยช่างโยธา อบต.บางหิน จ.ระนอง ว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดรอยแยกบริเวณพื้นที่สวนปาล์มของ นายอุทิศ ชูมี เลขที่ 245 ม.3 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ จากการประสานข้อมูลเบื้ยงต้น คาดสาเหตุเกิดจากการเลื่อนไหลของชั้นดิน ที่มีลักษณะของดินคืบบริเวณลาดเขา ทำให้เกิดรอยแยกในชั้นดิน ประกอบกับในระยะ 2 – 3 วันก่อนเกิดเหตุมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำฝนไหลซึมไปสะสมยังรอยแยก ต่อมาเมื่อมีการเลื่อนไหลของชั้นดิน ไปบีบน้ำในรอยแยกทำให้น้ำพุ่งกระฉูดขึ้นมา

...