นักศีลนักบุญ ตลอดจนศิษยานุศิษย์ ร่วมทำบุญ 15 ปี หลวงพ่อเกษม เขมโก ละสังขารแน่นสุสานไตรลักษณ์ โดยมีประชาชนทั่วสารทิศมารอรับการแจกทานกันจำนวนมาก...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 ม.ค. ที่สุสานไตรลักษณ์ ประตูม้า อ.เมือง จ.ลำปาง ได้มีนักศีลนักบุญ ตลอดจนศิษยานุศิษย์ของอดีตนักบุญแห่งล้านนาไทยหลวงพ่อเกษม เขมโก มาร่วมทำบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลและเพื่อรำลึกการละสังขารของหลวงพ่อเกษม ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 15 ของการละสังขาร เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2538
โดยพิธีในสุสานไตรลักษณ์มีการตักบาตรพระสงฆ์ และมีการทำบุญทำทานให้แก่ผู้ยากไร้ โดยมี "เสี่ย ป." นายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ ซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อเกษม ได้มาร่วมทำบุญรำลึกถึงหลวงพ่อเกษม ในครั้งนี้ เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา และมีประชาชนทั่วสารทิศมารอรับการแจกทานกันจำนวนมาก ส่วนสังขารของหลวงพ่อเกษม ก็ยังอยู่ในโรงแก้วที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑป โดยมีประชาชนไปกราบไหว้บูชา และขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวกันอย่างเนืองแน่น ส่วนคำถามที่ว่าจะมีการเผาร่างกายของหลวงพ่อเกษมนั้น ยังไม่มีใครตอบได้ ซึ่งยังเป็นที่กังขาของชาวลำปางอยู่จนทุกวันนี้
นอกจากนั้น ยังมีประชาชนนักบุญที่เลื่อมใสศรัทธาในบุญบารมีของหลวงพ่อเกษม พากันแห่บูชาเหรียญรูปเหมือนของหลวงพ่อกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ทุกคนก็เลื่อมใสด้วยศรัทธา โดยไม่คำนึงถึงว่าไม่ผ่านปลุกเสกจากหลวงพ่อก็ตาม
สำหรับหลวงพ่อเกษม เขมโก หรือหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก เป็นพระสงฆ์ที่มีศีลาจาริยวัตรที่ควรเคารพ กราบไหว้รูปหนึ่งของชาวลำปาง และชาวล้านนา ท่านกำเนิดในสกุลของเจ้า มีบิดาชื่อ เจ้าน้อยหนู มณีอรุณ และมารดาชื่อ เจ้าแม่บัวซอน ณ ลำปาง เกิดเมื่อวันพุธที่ 24 พ.ย. 2453 ตรงกับเดือนยี่เหนือ ปีชวด หรือปีไจ้ ณ บ้านท่าเก๊าม่วงริมแม่น้ำวัง จ.ลำปาง สายตระกูลทั้งบิดา มารดา เป็นหลานของเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้าย หลวงพ่อเกษม เขมโก จบชั้นประถมปีที่ 5 จากโรงเรียนบุญทวงศ์อนุกุล ปัจจุบันคือ โรงเรียนเทศบาล 3 อ.เมือง จ.ลำปาง
เมื่ออายุได้ 13 ปี พ.ศ. 2463 บวชหน้าไฟ ในงานฌาปนกิจศพ เจ้าอาวาสวัดป่าดัวะ และปี 2470 ได้บวชฉลองโรงไฟฟ้า จ.ลำปาง และจำพรรษาอยู่ ณ วัดบุญยืน ครั้นอายุได้ 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีเจ้าคุณพระธรรมจินดานายกเจ้าคณะจังหวัด เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูอุตรวงศ์ธาดาวัดหมื่นกาดเป็นพระกรรมวาจาได้ฉายาว่า “เขมโก”.
...