นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี หารือกับ "อภิรักษ์" สั่งตั้งศูนย์รับข้อมูลน้ำท่วมในทำเนียบฯ คาดเริ่มทำงาน 25 ต.ค.นี้ ขณะที่เตรียมถกกับครม.เยียวยาผู้ประสบภัย และเปลี่ยนเกณฑ์ช่วยเหลือเกษตร และเปิดสายด่วน 1111 รับแจ้งข้อมูล...
เมื่อ เวลา 14.40 น.วันที่ 23 ต.ค.2553 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่จ.ชัยภูมิว่า ขณะนี้การรายงานสถานการณ์น้ำและภาวะอากาศส่งตรงมาที่ตนทุกเช้า ยังมีอุปสรรคและปัญหาในการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานรายงานเข้ามาด้วย โดยที่ผ่านมาเราพยายามใช้วิธีการกระจายอำนาจเพื่อให้เกิดความคล่องตัว เช่น การขยายวงเงินในการให้ความช่วยเหลือของแต่ละจังหวัดยกเว้นกรณีที่เกินความสามารถของจังหวัดก็ให้ทำเรื่องร้องขอมา นอกจากนั้น หน่วยงานต่างๆยังมีการประสานงานให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ภาพรวมของสถานการณ์ ขณะนี้ ในภาคเหนือน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่น้ำได้ไหลไปยังพื้นที่ใหม่ที่ได้มีการแจ้งเตือนภัยกันไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมีการประสานงานกับแต่ละจังหวัด ส่วนภาคกลาง ได้กำชับให้จังหวัดที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ เช่น จ.ปทุมธานี ต้องมีการเสริมแนวคันกั้นน้ำ เพราะหลังจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนและในวันที่ 24 ต.ค.ตนจะเดินทางไปตรวจพื้นที่ตามแนวกันน้ำ เพราะคาดว่าสถานการณ์จะน่าเป็นห่วงที่สุดในช่วง 3-4 วันนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนได้หารือกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และจะออกคำสั่งตั้งคณะทำงานที่น่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในวันที่ 25 ต.ค.โดยศูนย์ดังกล่าวจะเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานต่างๆที่จะทำให้มีความเป็น เอกภาพมากขึ้น และเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานและเครือข่ายต่างๆที่มีการดำเนินการอยู่ แล้ว จะมอบหมายให้คณะทำงานดังกล่าวสอบทาน และติดตามการทำงานของรัฐบาล เพื่อให้มีความเป็นเอกภาพ และตรงกับความต้องการของประชาชน รวมทั้งคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่ดูแลในช่วงเวลาการฟื้นฟูหลังน้ำลด รวมทั้งทำงานเชื่อมโยงกับภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลมาได้ที่สายด่วน 1111
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการประชุมครม.วันที่ 26 ต.ค.นี้จะมีการพิจารณาเปลี่ยนหลักเกณฑ์ การให้ความช่วยเหลือทั้งภาคการเกษตร ผู้ประกอบการ ชุมชนเมือง ที่อยู่อาศัย ทรัพย์สินและความเสียหายอื่น เพราะระเบียบที่ใช้อยู่ในขณะนี้อาจจะต้องมีการยกเว้น และเบื้องต้นอาจจะมีการเพิ่มวงเงินในการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากแต่ละพื้นที่ประสบภัยแตกต่างกัน โดยตนได้ให้แนวทางเอาไว้ ว่าพื้นที่ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษ คือ พื้นที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และพื้นที่ที่การเตือนภัยทำได้กระชั้นทำให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินอย่างมาก เพราะไม่สามารถเคลื่อนย้าย หรือ อพยพได้ทัน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 ต.ค.ตนได้เชิญอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา มาพูดคุยนในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 หลังจากนั้นจะลงพื้นที่ตรวจแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้าน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเป็นการยกระดับการรับเรื่องราวศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ประชาชน 1111 และจะเชื่อมโยงกับข้อมูลของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยหลังจากที่มีคำสั่ง จากนายกฯสามารถดำเนินการได้เลยและจะมีการรายงานนายกฯทุกวัน รวมทั้งจะบูรณการในส่วนต่างๆออกมาในรูปของเว็บไซต์ ที่ตอนนี้เปิดแล้วโดยจะอยู่ คือ www.pm.go.th /flood โดย จะเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของประชาชน และการเข้าไปช่วยเหลือโดยให้สำนักนายกรัฐมนตรีที่มีการกระจายอำนาจประสาน เชื่อมตรง ทั้งในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เป็นอบจ. อบต. และเทศบาลในพื้นที่ ทั้งนี้จะมีการทำงานบูรณาการร่วมกันทั้งจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดก็รับทราบแล้ว
...