นายสนธิ ลิ้มทองกุล  -  นางสโรชา พรอุดมศักดิ์

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก "สนธิ-สโรชา" คดีหมิ่นประมาท "ทักษิณ ชินวัตร" กล่าวหาละเมิดเบื้องสูง 6 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี ให้ลงโฆษณาบน นสพ. 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน...

ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 2 ก.ย. ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษา คดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย , นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี (ASTV) และ บริษัทแมเนเจอร์ มีเดียร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ศาลยกฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ) เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

โดยฟ้องว่า วันที่ 24 ส.ค. 2550 จำเลยที่ 1- 2 ร่วมกันจัดรายการ ยามเฝ้าแผ่นดินทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และ นสพ.ผู้จัดการรายวันของจำเลยที่ 3 ตีพิมพ์ข้อความที่จำเลยที่ 1 - 2 กล่าวปราศรัยให้กลุ่มพันธมิตรฯที่สหรัฐฯ มาเผยแพร่ ทำนองว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า สาเหตุที่ต้องออกจากรัฐบาล เนื่องจากทนไม่ได้ที่หลังการยึดอำนาจรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ประมาณ 8 ชั่วโมง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดจาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง

ศาลพิพากษาว่า โจทก์มีนายสมบูรณ์ คุปติมนัส เบิกความว่า จำเลยจัดรายงานโดยนำเทปที่นายสนธิพูดที่สหรัฐฯมาเผยแพร่ในรายการ มีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบัน ทำนองว่านายสุรเกียรติ เล่าให้นายสนธิฟังว่า หลังจากมีการปฏิวัติปี 49 นายสุรเกียรติทนไม่ได้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดจาจาบจ้วงสถาบัน จนออกมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คดีต้องพิจารณาว่าจำเลย ทำผิดจริงหรือไม่เห็นว่า ข้อความดังกล่าวอาจทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่าโจทก์ทำตัวเสมอสถาบัน จำเลยที่ 1 ได้ซักค้านข้อความดังกล่าวแล้ว แต่ก็ไม่ได้นำสืบแก้ตัวแต่อย่างใด และข้อเท็จจริงยังไม่มีการดำเนินคดีกับโจทก์ในข้อหาดูหมิ่นเบื้องสูง การกระทำของจำเลยจึงเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 2 คน คนละ 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 2 ปี.

...