ศอฉ.ผวาก่อการร้ายซ้ำสอง สั่งเร่งตามจับ "นายกบ" หัวโจกแดง ตร.เผย "ไอ้หรั่ง" เข้าไทยหวังป่วนซ้ำ รับพบแกนนำแดงซุกเขมรเพียบ เชื่อแดงป่วนต่อเนื่อง ชม "อรินทราช" เยี่ยมจับมือขวาเสธ.แดงได้...

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.เวลา 16.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (รอง ผอ.ศอฉ.) เป็นประธานในการประชุม ศอฉ. โดยมี พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา สบ.10 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ที่ติดภารกิจเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมทางหน่วยอรินทราช ได้มีการรายงานผลการจับกุมนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อดีตมือขวา พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้ที่ประชุมได้รับทราบ โดยในที่ประชุม ศอฉ. ได้ชื่นชมการปฏิบัติงานของหน่วยอรินทรราช ที่สามารถจับกุมได้ทั้งนี้ในที่ประชุม ศอฉ. ได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมสอบสวน เพื่อขยายผลติดตามเครือข่ายกลุ่มก่อการร้าย โดยข้อมูลจากการรายงานพบว่า นายสุรชัยได้พบกับแกนนำเสื้อแดง ที่หนีหมายจับเข้าไปในประเทศกัมพูชาหลายคน

นอกจากนี้รายงานข่าวแจ้งยังแจ้งอีกว่า จากการรายงานพบว่า นายสุรชัย เข้ามาในประเทศไทย เพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มฮาร์ดคอร์และกองกำลังติดอาวุธ ยังคงได้รับการว่าจ้าง เพื่อให้เข้ามาก่อเหตุสร้างความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร เป็นห่วงสถานการณ์ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามจับกุมขยายผลเครือข่ายก่อการร้าย ที่ศาลได้อนุมัติหมายจับให้ได้ ซึ่งประกอบด้วย 4 คน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.ขัตติยะ นายสุรชัย และนายกบ ไม่ทราบชื่อ นามสกุล ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงนายกบ ที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าหลบหนีอยู่ที่ใด และยังกำลังพยายามติดตามตัวอยู่ ซึ่งที่ประชุมเกรงว่า หากยังไม่สามารถเร่งจับกุมตัวนายกบได้ อาจทำให้มีการก่อเหตุความรุนแรงอีกครั้งได้

...