พนิช วิกิตเศรษฐ์ เปิดใจถึงภารกิจและข้อมูลสุดท้าย ในการไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมารับโทษในประเทศไทย ก่อนลาบัวแก้ว มาสู้ศึกชิงเก้าอี้ ส.ส.กทม.เขต 6 กับพรรคเพื่อไทย...

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์พิเศษ ไทยรัฐออนไลน์  ยอมรับ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุที่อยู่ที่ชัดเจน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ โดยล่าสุดเท่าที่ตนเองสามารถรวบรวมข้อมูลได้ ก่อนหน้าที่จะลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 6 นั้น ทราบเพียงว่า อดีตนายกรัฐมนตรี  เดินทางอยู่ใน 2 - 3 ประเทศ ในทวีปยุโรป และ ในตะวันออกกลาง และในประเทศครึ่งยุโรปครึ่งเอเชีย ที่มีรายงานว่า เดินทางไปบ่อย เป็นประจำทุกเดือน

ทั้งนี้ เนื่องจากในเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีธุรกิจหลายอย่าง อยู่ในหลายประเทศที่เดินทางไป อีกทั้งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีพาสปอร์ต 2 เล่ม ที่สามารถสลับการใช้งานเพื่อให้เหมาะสมกับประเทศที่ต้องการจะเดินทางไป จึงทำให้เป็นการยากที่จะระบุถึงแหล่งพำนักที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ เท่าที่ทราบ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีเครือข่ายจำนวนมาก ที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ ซึ่งพร้อมจะให้การสนับสนุนและร่วมมือกับ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักธุรกิจอีกด้วย  โดยเฉพาะในประเทศมหาอำนาจ ที่เป็นประเทศครึ่งยุโรปครึ่งเอเชีย ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปเยือนบ่อย เพื่อดูแลธุรกิจ และเพื่อดูแลสุขภาพ 

ด้านประเภทของธุรกิจ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปลงทุนในประเทศ เหล่านั้น เท่าที่ทราบมีหลายประเภท เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และล่าสุด กำลังดูลู่ทางการเข้าไปลงทุนในประเทศซาอุดิอาระเบีย และ มอนเตเนโกร

อย่างไรก็ดี นายพนิช ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ยังคงไม่มีข้อมูลว่าแหล่งเงินทุนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ นำมาใช้ในการไปลงทุนในหลายๆ ประเทศ นั้น มีที่มาจากที่ใด และไม่สามารถที่จะทราบได้ เพราะถือว่าเกินกว่ากรอบอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ อีกทั้งหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้น ถือเป็นหน้าที่โดยตรงของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และ กระทรวงการคลัง

ส่วนเรื่องสัญชาติมอนเตเนโกร ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับนั้นมีความผิดปรกติไปจากกระบวนการให้สัญชาติตามปกติหรือไม่นั้น นายพนิช กล่าวว่า การที่ประเทศหนึ่งประเทศใด จะให้สัญชาติกับบุคคลใดก็แล้วแต่ ไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะถือเป็นสิทธิของประเทศนั้นๆ ในการดำเนินการตามกรอบของกฎหมายของประเทศตนเอง ในการที่จะให้สัญชาติกับบุคคลใดก็ตาม

ส่วนแผนการเดินทาง ที่จะไปเยือนประเทศมอนเตเนโกร ในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งตามกำหนดเดิม จะมีขึ้นในเดือน ก.ค. หากไม่ตัดสินใจลาออกมา ลงชิงเก้าอี้ ส.ส.กทม.เขต 6 นั้น จะมีการหารือในประเด็นการสัญชาติมอนเตเนโกร ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยหรือไม่นั้น นายพนิช กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด โดยประเด็นหลักในการเดินทาง จะเป็นเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างไทย และมอนเตเนโกร รวมถึงภาคการลงทุนเท่านั้น แต่หากจะมีการหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้าง ก็จะเป็นการชี้แจงให้รัฐบาลมอนเตเนโกร ได้ทราบถึงคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องถึง อดีตนายกรัฐมนตรี และการขอจับกุมตัวชั่วคราว เท่านั้น

ด้านการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว คือ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในลักษณะโลกล้อมไทยนั้น นายพนิช ปฏิเสธ ที่จะให้ความเห็น โดยกล่าวเพียงตนเองอาจพอที่จะทราบประวัติและพฤติกรรมของ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ดีพอที่จะไม่จำเป็นต้องเปิดเผย แต่ถึงแม้จะรู้ ตนเองก็คงไม่สามารถพูดถึงแนวทางในการรับมือความเคลื่อนไหว ของทนายความส่วนตัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนนี้ เพราะปัจจุบันตนเองพ้นหน้าที่ความรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวไปแล้ว

...