นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

เตรียมเข้าพบ "ดีเอสไอ" รับข้อกล่าวหา 11พ.ค.นี้ "ปณิธาน" เผย "นายกฯ-สุเทพ" พร้อมสู้คดีสั่งทหารสลายการชุมนุม ขณะที่ศอฉ.กำชับห้ามมีเหตุบึมอีก...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (10 พ.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อเวลา 17.00 น. ว่า ที่ประชุมมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ. เป็นประธานการประชุมศอฉ.นั้น ในที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานการณ์เหตุระเบิดที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนรัชดาภิเษกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ศอฉ.เฝ้าสังเกตลักษณะการใช้อาวุธ เป็นปืนเล็กชนิดเอ็ม 203 ที่สามารถใช้ยิงกระสุนได้สองชนิด เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้งที่ผ่านมาคือ เหตุการณ์คนร้ายกราดยิงที่พรรคการเมืองใหม่ และเหตุการณ์ที่อาคารทีพีไอ ทั้งนี้ตำรวจกำลังเก็บรายละเอียดหลักฐาน และที่ประชุมศอฉ.ได้กำชับให้เข้าไปดูแลในพื้นที่ให้ดีขึ้น ไม่ให้มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก และได้กำชับในเรื่องของการดูแลพื้นที่โดยรอบพื้นที่ชุมนุมและรอบชุมนุมด้วย

นายปณิธาน กล่าวว่า ที่ประชุมศอฉ.ยังได้เฝ้าสังเกตผู้ที่มาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น แต่ในช่วงฤดูฝนเข้ามา จะทำให้การชุมนุมมีปัญหามากขึ้น และประชาชนจะต้องกลับไปดูแลพืชผลทางเกษตรกรรม รวมถึงเรื่องการเปิดเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดแรงกดดันของกลุ่มนปช.มากขึ้น ขณะเดียวกันศอฉ.ยังมีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่ของศอฉ. ในการเตรียมการ หากมีการยุติการชุมนุมจะมีขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ส่วนมาตรการการดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม สำหรับประเด็นการดำเนินคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยที่ประชุมรับทราบถึงการกล่าวหานายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ได้ปรึกษาหารือกันแล้ว

...

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รองนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจที่จะไปพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในช่วงบ่ายของวันที่ 11 พ.ค.นี้ ตามคำร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่วนกรณีนายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องผ่านขั้นตอนทางรัฐสภาก่อน ทั้งนี้การตัดสินใจเป็นไปตามแนวทางของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ก่อนที่นปช.จะแถลงเรียกร้องให้นายสุเทพเข้ามอบตัว

นอกจากนี้ นายปณิธาน กล่าวอีกว่า การประชุมศอฉ.มีการตั้งข้อสังเกตของยอดผู้ชุมนุมที่จะเห็นได้ว่า ตัวเลขผู้ชุมนุมของศอฉ.ในช่วงเย็นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 4-5 พันคน ซึ่งในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ จะมีการเดินทางเข้าออกตลอดเวลา ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะมีผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นไม่มาก

ด้านนายธาริต กล่าวว่า นายสุเทพได้โทรศัพท์แจ้งมายังตนว่า วันที่ 11 พ.ค.นี้เวลา 08.30 น. จะเดินทางมาพบกับตน เพื่อรับทราบการร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีที่นายสุเทพ ในฐานะผอ.ศอฉ. มีการสั่งทหารให้มีการขอคืนพื้นที่บริเวณแยกคอกวัว จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งนี้สืบเนื่องจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยและญาติผู้เสียชีวิตได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษที่ดีเอสไอเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อนายสุเทพรับทราบ จึงต้องการเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมเรียกร้อง เพราะเชื่อว่าการเข้ารับทราบการร้องทุกข์กล่าวโทษ จะสามารถลดเงื่อนไขหนึ่งของนปช. และจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้