ศอฉ.แถลง จับกุมมือยิงอาร์พีจีกระทรวงกลาโหม เป็นคนสนิทแกนนำ “แดงพัทยา” รับสารภาพ เป้าหมายที่แท้จริงคือวัดพระแก้ว ได้รับเงินค่าจ้าง 500,000 บาท ... 

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 30 เม.ย. 2553 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายยิงอาร์พีจีใส่วัดพระแก้ว แต่ผิดพลาดว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคมเวลา 22.00 น. มีคนร้ายยิงอาร์พีจี ใส่กระทรวงกลาโหมมีผู้บาดเจ็บ 1 และทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 2 ราย คือ ส.ต.ต.บัณฑิต สิทธิทุม ออกจากราชการไป 10 ปี อายุ 43 ปี นายศุภณัฐ หรือโก้ อุยเวช อายุ 43 ปี โดยกล่าวหาว่ารวมกันใช้กระสุนปืนและอาวุธปืน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ อาศัยอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เชิญบุคคล 3 ราย เพื่อสักถาม คือ 1.นายภาสกร หรือ สมนึก ศิริลักษณ์ อายุ 50 ปี 2.นายวายุภักษ์ โนรี อายุ 48 ปี 3.พ.ต.ท.ศุภชัย ทุยแก้วคำ อายุ 39 ปี ผลการสอบสวน พบว่า ส.ต.ต.บัณฑิต เป็นเพื่อนกับ พ.ต.ท.ศุภชัย ซึ่งมีภรรยาเป็นแกนนำเสื้อแดงพัทยา โดย ส.ต.ต.บัณฑิต มีความรู้ความชำนาญการใช้อาวุธสงครามจากการรับราชการเขตชายแดน และทำหน้าที่ขับรถดูแลความปลอดภัยให้ นางจุรีพร สินธุภัย ภรรยา พ.ต.ท.ศุภชัย

“ส.ต.บัณฑิต ให้การรับสารภาพวันนี้ว่าได้เดินทางเข้า กทม. พร้อมนางจุรีพร เพื่อร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงสะพานผ่านฟ้า ซึ่ง พ.ต.ท.ศุภชัย บอกว่าการจะร่วมต่อสู้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องก่อวินาศกรรมในสถานที่สำคัญของราชการหรือสถานที่ ที่ประชาชนยึดเหนี่ยว จึงสั่งการให้เตรียมระเบิดอาวุธสงครามยานพาหนะ โดย พ.ต.ท.ศุภชัย ให้นำเครื่องยิงอาร์พีจี ไปที่เกิดเหตุและให้เงินค่าตอบแทน 5 แสนบาท และวันเกิดเหตุ ส.ต.บัณฑิต กับพวกรวมก่อเหตุ โดยการยิงอาร์พีจี มีเป้าหมายคือวัดพระแก้ว แต่ไม่โดนเป้าจึงรีบทิ้งอาวุธแล้วหนีไป” นายธาริต กล่าว

นายธาริต กล่าวว่า เบื้องต้นยังตอบไม่ได้ว่าคนร้ายมีเป้าที่พระบรมราชวังหรือไม่ ซึ่งดีเอสไอจะมีการแจ้งข้อหาการก่อการร้าย ซึ่งเป็นข้อหาใหญ่ เบื้องต้นเราแจ้งขอ กล่าวหาว่ามีอาวุธร้ายแรงและเครื่องยิงกระสุนไว้ก่อน ส่วนข้อหาก่อการร้ายจะดำเนินการสืบสวนต่อไป ซึ่งโทษของความผิดก่อการร้ายคือการประหารชีวิต ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสพบอาวุธร้ายแรงมาได้ที่เบอร์ 1202

...