คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช - นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
ส.ว.จอมแฉ "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" ชี้กรณีแจงบัญชีทรัพย์ของ "คุณหญิงกัลยา" โอนหุ้นให้ลูก เป็นกรณีที่ใกล้เคียงกับ "ทักษิณ" ที่โอนหุ้นให้กับลูกที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ลั่นต้องตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกัน...
เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ออกมาตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้มีพฤติกรรมเข้าข่ายซุกหุ้นเช่นเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกศาลตัดสินยึดทรัพย์ ว่า ได้เก็บข้อมูลการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของนักการเมืองทุกคน เมื่อได้รับฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว จึงนึกได้ว่าบัญชีทรัพย์สินของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เคยยื่นไว้ในสมัยเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.กับตอนเข้ารับตำแหน่งรมว.วิทยาศาสตร์ฯ ยังมีข้อที่น่าสงสัย เนื่องจากข้อมูลในส่วนของคู่สมรสแจ้งไว้ตอนเป็น ส.ส.ว่ามีหุ้นในส่วนของเงิน ลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท แต่พอตอนเป็นรัฐมนตรีมูลค่าลดลงเหลือ 300 ล้านบาท และมีลูกหนี้เป็นบุตรีทั้ง 3 คน เพิ่มขึ้นคนละ 95.8 ล้านบาท
"เป็นกรณีที่ใกล้เคียงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โอนหุ้นให้กับลูกที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ช่วงที่เก็บข้อมูลทีแรก ผมนึกว่าไม่ผิด เพราะเป็นการโอนให้กับบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่เมื่อคำพิพากษาของศาลออกมาเช่นนี้ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป" นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช.ต้องไล่สอบบัญชีทรัพย์ของรัฐมนตรีและ ส.ส.ทุกคนว่าเข้าข่ายในลักษณะ เดียวกันหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับที่ศาลตัดสิน โดยส่วนตัวเชื่อว่าการโอนหุ้นในลักษณะแบบนี้มีมากพอสมควร กรณีของคุณหญิงกัลยา ต้องตรวจสอบต่อไปว่าหุ้นที่ถืออยู่เป็นหุ้นสัมปทาน หรือเป็นหุ้นที่อยู่ในเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นในบริษัทเกินว่า 5% ก็จะเป็นกรณีเดียวกับของ นพ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการอยู่ในขณะนี้.
...